feat_title
stringlengths
5
119
text
stringlengths
549
65.6k
target
stringlengths
51
1.63k
feat_type
stringlengths
0
62
feat_tags
stringlengths
0
843
feat_url
stringlengths
29
110
evaluation_predictions
sequence
นโยบายย้ายถิ่น ครม.ประยุทธ์ สอบตกร่วงทุกด้าน แฉมี จนท.ล่วงละเมิดทางเพศแรงงานข้ามชาติแลกทำบัตรให้ลูก
เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติจัดเวทีแถลงสรุปสถานการณ์การย้ายถิ่นและการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติและครอบครัว พร้อมทั้งจัดเกรดนโยบายย้ายถิ่นรัฐบาลตู่รุ่ง หรือ ร่วง เนื่องในวันผู้ย้ายถิ่นสากล หลายฝ่ายประสานเสียงครม.ตู่สอบตกร่วงทุกประเด็น18 ธ.ค.2562 เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติรายงานว่า วันนี้ (18 ธ.ค.62)ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ แถลงข่าวจัดเกรดนโยบายการย้ายถิ่นของรัฐบาลตู่รุ่งหรือร่วงเนื่องในวันผู้ย้ายถิ่นสากลปี2562(International Migrants Day 2019)UNTAPPED POWER: MIGRATION REDEFINED WORKERS REUNITEDปลดปล่อยพลัง ผูกใจคนใช้แรงงานเป็นหนึ่งเดียวอดิศรเกิดมงคลผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติสรุปสถานการณ์การย้ายถิ่นและการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติและครอบครัวในปีพ.ศ.2562ว่า แม้ว่าในปี2561 ไทยประสบความสำเร็จในการยุตินโยบายการผ่อนผันแรงงานข้ามชาติที่ยังมีสถานะหลบหนีเข้าเมืองทำให้แรงงานข้ามชาติเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย และเน้นการนำเข้าตามระบบMOUได้มากขึ้นแต่ในปี2562พบว่ามีการจับกุมขบวนการนำพาคนข้ามชาติผ่านประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซียมากขึ้นกว่าเดิม โดยมีการจับกุมไม่ต่ำกว่า5ครั้งมีผู้ย้ายถิ่นข้ามชาติที่ถูกจับกุมมากกว่า100คนนอกจากนี้ยังพบว่า กลไกการคุ้มครองตามกฎหมาย คือพ.ร.บ.การคุ้มครองแรงงานในงานประมงพ.ศ. 2562และพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ. 2551และพ.ศ.2562ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่และไม่ตอบสนองต่อหลักการใหญ่ของกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในมากนักเช่นระบบประกันสังคมของแรงงานในกิจการประมงทะเล ที่ขาดมาตรการในการเข้าถึงการคุ้มครองของแรงงานข้ามชาติที่ชัดเจน ขณะเดียวกันในการคุ้มครองแรงงานไม่มีความก้าวหน้าใดๆ ทั้งมาตรการการคุ้มครองแกนนำแรงงานที่ถูกฟ้องคดีปิดปาก รวมถึงการคุ้มครองแรงงานในพื้นที่ชายแดนให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิแรงงานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานการคุ้มครองทางสังคมซึ่งสะท้อนให้เห็นความถดถอยของการมีมาตรการคุ้มครองสิทธิแรงงานของไทยเช่นกันผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติกล่าวว่านอกจากนี้ยังมีความล่าช้าของการแก้ไขปัญหาเด็กที่ไม่มีสัญชาติในระบบการศึกษาของไทยซึ่งพบว่าในช่วง4ปีที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาได้ไม่ถึง10เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดขณะเดียวกันการจัดตั้งศูนย์การเรียนก็ยังมีอุปสรรคในการดำเนินการจัดตั้งให้ถูกต้องตามกฎหมายจนในปีที่ผ่านมามีการปิดศูนย์การเรียนและทำให้เด็กข้ามชาติจำนวนหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับพวกเขาอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กทุกคนซึ่งมีความเสี่ยงหรือเป็นที่จับตามองว่าสถานการณ์การเข้าไม่ถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานดังกล่าวจะผลักให้เด็กกลับไปสู่วงจรการใช้แรงงานเด็กได้หรือไม่การขาดความใส่ใจกลไกที่ไม่เอื้อต่อการเข้าถึงการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและประชากรข้ามชาติทำให้กฎหมายและนโยบายที่ดีของไทยขาดประสิทธิภาพความล่าช้าในการดำเนินการตามกฎหมายนโยบายกลายเป็นโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งการได้รับการคุ้มครองและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานข้ามชาติและประชากรข้ามชาติทั้งหมดการพยายามเล่นเกมส์การเมืองโดยการมองข้ามความสำคัญของสิทธิในการรวมตัวต่อรองและกลไกสำคัญในการให้แรงงานทุกคนในประเทศไทยได้ปกป้องและคุ้มครองตัวเองซึ่งทำให้ทิศทางเรื่องการคุ้มครองสิทธิแรงงานเข้าสู่ภาวะตกต่ำและยังเป็นพันธนาการที่ผูกมัดแรงงานทั้งหมดในประเทศไทยให้ถูกละเมิดซ้ำๆดังนั้นประเทศไทยแม้จะดูมีความพยายามแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์สอบตกในเรื่องการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและคนข้ามชาติ อดิศรระบุขณะที่เวทีแถลงข่าวจัดเกรดนโยบายการย้ายถิ่นของรัฐบาลตู่รุ่งหรือร่วงผ่านการให้เกรดคะแนนรัฐบาลโดยองค์กรเครือข่ายด้านประชากรข้ามชาติในประเด็นต่างๆนั้น อดิศร ได้ระบุในเวทีจัดเกรดในเรื่องการบริหารจัดการแรงงานข้ามตามมาตรฐานสากลว่าตนขอให้เกรดรัฐบาลชุดนี้ร่วงเพราะกรณีการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ซึ่งดำเนินอยู่ในขณะนี้และมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน31มีนาคมพ.ศ. 2563มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกรณีต่ออายุใบอนุญาตทำงานในปีพ.ศ. 2560ซึ่งพบว่ามีแรงงานข้ามชาติที่หายไปจากกลุ่มจำนวนตัวเลขเป้าหมายที่ต้องได้รับการพิสูจน์สัญชาติจำนวนสูงถึง811437คนนอกจากนี้ยังมีการกีดกันแรงงานข้ามชาติจากการก่อตั้งสหภาพแรงงานของตนเองขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของแรงงานข้ามชาติในสถานประกอบการดังนั้นแล้วเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงแรงงานเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ออกกฎหมายอนุบัญญัติและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่บังคับใช้กฎหมายในทางปฏิบัติโดยเร็วที่สุดและควรให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับที่87ว่าด้วยว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวค.ศ. 1948และอนุสัญญาฉบับที่98ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรองอย่างเร่งด่วนรวมทั้งดำเนินการพิจารณาหากลไกในการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติที่ถือเอกสารจ้างงานชายแดนในเร็ววันโดยในทุกประเด็นที่กล่าวมาควรเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อความโปร่งใสตามหลักการไตรภาคีบวกมีความเป็นห่วงว่า การต่อใบอนุญาตการทำงานในอีกไม่กี่เดือนนี้ จะซ้ำรอยปี 2560 เพราะสองปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่มีความพร้อมใดๆในการพัฒนาระบบการต่ออายุ ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่ารัฐบาลมีการดำเนินการสองส่วนโดยในส่วนของระบบออนไลน์ที่ค่อนข้างล้มเหลว ระบบล่มไม่สามารถดำเนินการต่อได้ อีกทั้งหากต้องการเปลี่ยนนายจ้าง จะต้องให้อดีตนายจ้างมาเซ็นรับรองทำให้ต่อไปแรงงานที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย อาจจะกลายเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมายทันทีหากเปลี่ยนนายจ้าง ซึ่งมีความกังวลว่าจะมีแรงงานนับแสนคน จะหลุดออกจากระบบในการต่ออายุปี 2563 นี้อดิศรระบุลัดดาวัลย์ หลักแก้ว ผู้จัดการโครงการ มูลนิธิเพื่อเยาวชนบท ได้ร่วมจัดเกรดนโยบายการย้ายถิ่นของรัฐบาลชุดนี้ในประเด็นเรื่องการปิดศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติและการแก้ไขปัญหาเด็กที่ไม่มีเอกสารแสดงตนในสถานศึกษา (เด็กติดG)โดยน.ส.ลัดดาวัลย์กล่าวว่า ตนขอให้เกรดรัฐบาลชุดนี้ร่วงด้วยเช่นกัน เนื่องจากการปิดศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติและการแก้ไขปัญหาเด็กที่ไม่มีเอกสารแสดงตนในสถานศึกษานั้น ปัจจุบันมีเด็กข้ามชาติรวมถึงเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยกลุ่มอื่นๆ ได้รับการศึกษาประมาณ160000คน แต่ยังมีเด็กข้ามชาติกว่า200000คน ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาใดๆ ขณะที่การศึกษาในศูนย์การเรียนรู้เด็กข้ามชาติ หรือMLCจำนวน128แห่งใน18จังหวัด ซึ่งมีเด็กข้ามชาติเข้าเรียนจำนวน19410คน มีครูผู้สอนจำนวน962คน ทั้งครูไทยและครูเมียนมา แต่ศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติ ไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย ทำให้สถานะนักเรียน หลักสูตรที่ใช้ ไม่ได้รับการรับรองตามไปด้วยส่งผลให้เด็กไม่สามารถใช้วุฒิการศึกษาในการทำงาน และการเรียนต่อได้อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้สถานะของครูผู้สอน ยังเป็นการจ้างงานไม่ตรงกับประเภทงานที่รัฐอนุญาตให้ทำ จนนำไปสู่การเกิดเหตุการณ์กวาดจับผู้สอนในศูนย์การเรียนบางแห่งในจังหวัดระนอง ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีใบอนุญาตทำงานผิดประเภทการจ้างงาน ส่งผลให้ศูนย์การเรียนทั้ง10แห่งในจังหวัดระนองต้องปิดตัวลง กระทบต่อเด็กในศูนย์การเรียนที่ต้องถูกปิดลงจำนวน2856คน ต้องสูญเสียโอกาสทางการศึกษาแม้การย้ายเด็กเข้าไปเรียนในโรงเรียนไทยทั้งหมดจะเป็นแนวทางที่ดี แต่ในทางปฏิบัติพบว่า มีเด็กจากศูนย์การเรียนเพียงประมาณ300คนเท่านั้น ที่เข้าไปเรียนในโรงเรียนไทย ขณะนี้ปัญหาใหญ่คือ เด็กกว่า2000คน ยังคงอยู่ในชุมชน และกำลังเผชิญกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากพ่อแม่ยังทำงานอยู่ในไทย ดังนั้น ควรหาช่องทางการปรับสถานะและคุณภาพของศูนย์การเรียน โดยที่ศูนย์การเรียนสามารถเปิดดำเนินการได้ นอกจากนี้ควรให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการศึกษาของเด็กข้ามชาติที่ชัดเจนทั้งในทุกระดับ และกระทรวงแรงงาน ควรพิจารณากำหนดประเภทอาชีพที่อนุญาตให้คนต่างด้าว จากประเทศเพื่อนบ้าน ให้สามารถเข้ามาทำงานเพื่อสอนหนังสือให้กับเด็กข้ามชาติในศูนย์การเรียนรู้ได้ ลัดดาวัลย์ระบุลัดดาวัลย์ ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเด็กติดGในสถานศึกษา ว่าเป็นนโยบายที่ดี แต่วันนี้สามารถกำหนดเลขประจำตัว13หลักของกระทรวงมหาดไทยให้เด็กเพื่อให้สิทธิขั้นพื้นฐานได้ไม่ถึงร้อยละ10 หรือเพียง3400คน จากจำนวนเด็กนักเรียนรหัสGปีการศึกษา2559ทั่วประเทศ จำนวน92749คน ขณะเดียวกันยังพบว่าอาจมีเด็กบางส่วนตกหล่นในการสำรวจ เช่น มีการกำหนดรหัสขึ้นต้นด้วยอักษรอื่น ๆ ในสถานศึกษาสังกัดอื่น ๆ เช่น รหัสPหรือ รหัส0ด้วย รวมถึงควรประสานไปยังต้นสังกัดสถานศึกษาให้ครบทุกสังกัดและเน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติฯ การติดตาม ช่วยเหลือสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องรวิสรา เปียขุนทด ผู้แทนเครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ กล่าวถึงนโยบายคัดกรองและคุ้มครองผู้ลี้ภัยความหวังที่ยังมาไม่ถึงพร้อมให้คะแนนรัฐบาลชุดนี้ในการบริการจัดการผู้ลี้ภัยซึ่งมีความก้าวหน้าไปในทางบวกอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามยังคงต้องการการจับตามองจากภาคประชาสังคมอย่างใกล้ชิด จึงให้เกรดอยู่ระหว่างกลางรุ่งหรือร่วง โดยน.ส.รวิสราระบุว่า ข้อมูลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)ประเทศไทยรองรับผู้ลี้ภัยประมาณ93000คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ลี้ภัยจากเมียนมา ซึ่งอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวบริเวณพรมแดนไทย-เมียนมา และยังมีอีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ลี้ภัยในเขตเมืองประมาณ6000คนจากกว่า40ประเทศ รวมถึงปากีสถาน เวียดนาม โซมาเลีย อิรัก ปาเลสไตน์ ซีเรีย จีน และประเทศอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครเพื่อดำเนินการขอการรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจากUNHCRและส่วนใหญ่ผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้มีสถานะเข้าเมืองผิดกฎหมาย เนื่องจากในปัจจุบันกฎหมายไทยยังไม่ได้รับรองสถานะการแสวงหาที่ลี้ภัยของกลุ่มดังกล่าว ผู้ลี้ภัยจึงมักถูกจับกุมตามความผิดข้อหาคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรืออยู่เกินกำหนด และถูกกักตัวโดยไม่มีกำหนดเวลาที่แน่ชัดรวิสรา กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดทำร่างระเบียบการคัดกรองและบริหารจัดการประชากรผู้ลี้ภัยในประเทศไทย ซึ่งองค์กรที่ทำงานกับผู้ลี้ภัยในไทย13แห่ง เรียกร้องให้รัฐบาลจัดทำระเบียบที่ครอบคลุมเนื้อหาเพื่อประกันการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการส่งกลับไปยังประเทศที่อาจเสี่ยงต่อการถูกทรมานซึ่งประเทศไทยได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT)ไว้แล้วตั้งแต่ปี2550รวมทั้งการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ให้จัดทำเนื้อหาของระเบียบฯ ที่สอดคล้องกับนิยามของคำว่าผู้ลี้ภัยตามอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย พ.ศ.2494และสนธิสัญญาระหว่างประเทศอื่น ๆ ให้บุคคลทุกคนสามารถเข้าถึงกลไกการขอสถานะผู้ลี้ภัยอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เข้าถึงสิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งโดยศาลที่เป็นอิสระ เข้าถึงการมีผู้แทนด้านกฎหมาย เข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และประกันสุขภาพ เข้าถึงโอกาสในการศึกษา โอกาสในการทำงานและความช่วยเหลือในรูปแบบอื่น ๆผู้ลี้ภัยทุกคนต้องได้รับการคุ้มครองระหว่างประเทศ บุคคลที่เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง สามารถเข้าถึงทนายความที่มีความสามารถ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และมีล่ามที่มีคุณภาพ รวมทั้งมีหลักประกันในขั้นตอนปฏิบัติ ได้รับโอกาสที่จะสามารถนำเสนอข้อมูลและพยานหลักฐานเกี่ยวกับสภาพที่เกิดขึ้นกับตน นอกจากนี้ผู้เข้ารับการคัดกรองต้องได้รับแจ้งผลการตัดสินอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเป็นคำวินิจฉัยที่มีข้อมูลมากเพียงพอที่จะสามารถยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้หากต้องการ และที่สำคัญคือข้อมูลรวมทั้งการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ต้องอยู่บนหลักการของการของการเก็บรักษาความลับเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการคัดกรอง รวิสรา ระบุชูวงค์ แสงคง ผู้จัดการพันธกิจโครงการพิเศษ มูลนิธิศุภมิตรแห่งประเทศไทย จัดเกรดรัฐบาลในเรื่องการดูแลสุขภาพประชากรข้ามชาติในประเทศไทย ได้ กล่าวถึงช่วงเปลี่ยนผ่านระบบประกันสุขภาพและประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติ โจทย์ที่ยังตีไม่แตก พร้อมทั้งจัดเกรดรัฐบาลชุดนี้ ชูวงศ์ระบุว่า ความสำเร็จของนโยบายการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ทำให้เป็นคนเข้าเมืองถูกกฎหมายเพิ่มขึ้น ซึ่งควร จะมีแรงงานที่เข้าสู่ประกันสังคมเพิ่มขึ้นด้วย แต่ในระดับปฏิบัติการ ทั้งแรงงานข้ามชาติที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ แรงงานที่เข้ามาทำงานตาม MOUและผู้ประกอบการจำนวนหนึ่ง ยังไม่เข้าใจในเรื่องของระบบประกันสังคมในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ยังไม่มีความชัดเจนในทางปฏิบัติว่าแรงงานกลุ่มไหนจะต้องเข้าสู้ระบบประกันสังคม แล้วต้องทำอย่างไร ทำให้มีการเหลีกเลี่ยงให้แรงงานเข้าระบบประกันสังคม ทำให้แรงงานกลุ่มนั้นไม่มีหลักประกันสุขภาพ เป็นอุปสรรคในการเข้ารับบริการด้านสุขภาพ หรือแม้นแต่แรงงานข้ามชาติที่เข้าสู่ระบบประกันสังคมแล้วก็ตาม การให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสิทธิ การไปใช้สิทธิ ตามที่มีให้ประกันสังคมก็ยังกระทำอยู่ในวงที่จำกัด คือแรงงานที่สามารถใช้สื่อออนไลด์ได้ เข้าใจภาษาไทยก็จะเข้าถึงข้อมูล ซึ่งก็เป็นคนส่วนน้อย นอกจากนั้นระบบประกันสังคมสำหรับแรงงานต่างชาติและยังส่งผมกระทบในเรื่องการดูแลสุขภาพเชิงรุก คือการส่งเสริมสุขภาพการป้องกันโรค ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ยังไม่สามารถดำเนินโดยระบบประกันสังคม และนอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการกองทุนประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวด้วยจากเดิมที่ระบบหลักที่ดูแลด้านสุขภาพแรงงานข้ามชาติ คือกระทรวงสาธารณสุข โดยการขายบัตรประกันสุขภาพนำเงินเข้ากองทุนหลักประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว ที่ได้รับการผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรี ต้องกลายมาเป็นกองทุนที่ดูแลแรงงานข้ามชาติจำนวนประมาณ30เปอร์เซ็นต์ จำนวนผู้ซื้อบัตรประกันสุขภาพ ของกองทุนหลักประกันสุขภาพที่ลดลง ส่งผลกระทบโดยตรงทั้งต่อตัวกองทุนและสถานพยาบาลที่ขายประกันสุขภาพให้แรงงานข้ามชาติ การเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามกฎหมายทำให้แรงงานข้ามชาติมีตัวเลือกของสถานพยาบาลในการรับบริการด้านสุขภาพที่มากขึ้น แต่โจทย์ที่สำคัญของระบบประกันสุขภาพก็คือการมีแนวทางการบริหารจัดการกองทุน และระบบบริการด้านสุขภาพที่ยังมีความสำคัญกับกลุ่มประชากรข้ามชาติอีก30เปอร์เซ็นต์อย่างไรให้เกิดความยั่งยืน ไม่สร้างผลกระทบต่อระบบบริการรวมถึงสถานพยาบาล และยังสามารถรักษามาตรฐานในการบริการให้ครอบคลุมถึงงานส่งเสริมสุขภาพ งาน ป้องกันโรคไว้ได้ด้วยชูวงค์ กล่าวว่า เมื่อนำข้อมูลจาก3แหล่ง มาเทียบกัน ( กรมจัดหางาน สำนักงานประกันสังคม และกองทุนหลักประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว) พบว่ายังมีประชากรข้ามชาติอีกจำนวนมาก ถึง42 %ที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันใด ๆ จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่กระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมจะต้องมีมาตรการในเรื่องนี้ นอกจากนี้เห็นว่าคนที่อยู่ในประเทศไทยทุกคนต้องมีหลักประกันสุขภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข จำเป็น ต้องทบทวนเรื่องกฎหมายให้เรื่องการให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยมีหลักประกันสุขภาพมีสถานะเป็นกฎหมายด้วย และด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดตนจึงขอจัดเกรดรัฐบาลชุดนี้ร่วงด้วยเช่นกันเพราะถึงแม้นโยบายบางส่วนจะดีแต่การนำมาปฏิบัติยังร่วงอยู่ณัฐาศิริ เบิร์กแมน ผอ.สมาคมนักกฏหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงผลกระทบจากการใช้มาตรการฟ้องคดีปิดปากต่อนักสิทธิมนุษยชนด้านแรงงาน[SLAPP]ว่า การฟ้องคดีปิดปาก คือการฟ้องคดีเพื่อระงับ ยับยั้ง ไม่ให้ประชาชนหรือนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ทำงานเพื่อเรียกร้องการคุ้มครองสิทธิสามารถทำงานต่อไปได้อย่างมีอิสระ เป็นการสร้างภาระทางคดี ทำให้การต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนต้องยุติไปหรือทำได้น้อยลง พร้อมยกตัวอย่างกรณีแรงงานข้ามชาติชาวพม่า ในฟาร์มเลี้ยงไก่ จังหวัดลพบุรี ที่ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงาน ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าได้มีการละเมิดกฎหมายสิทธิแรงงานหรือไม่ เพราะฟาร์มไม่ได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดทั้งเรื่องค่าแรง ชั่วโมงการทำงาน วันหยุดพักผ่อน และวันพักร้อน ซึ่งการกระทำของแรงงานเป็นสิทธิที่สามารถทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในที่สุดเมื่อเจ้าพนักงานพบว่ามีการละเมิดสิทธิแรงงานจริง จึงสั่งให้ฟาร์มไก่จ่ายค่าชดเชยให้แรงงาน แต่เจ้าของฟาร์มกลับฟ้องแรงงานข้ามชาติที่ออกมาเรียกร้องสิทธิของตัวเอง รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งนักกิจกรรมด้านแรงงาน และสื่อมวลชน ภายหลังจากเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่เป็นข่าวสารกรณีนี้เห็นได้ชัดว่าการฟ้องคดีเช่นนี้เป็นการฟ้องคดีเพื่อยุติการมีส่วนร่วมในประโยชน์สาธารณะ ที่น่าเศร้าก็คือ แม้เอกชนรายนี้จะได้ดำเนินคดีกับแรงงาน นักข่าว นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักวิชาการรวมกันเกือบ20คดีแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันนี้รัฐบาลก็ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ไขการฟ้องปิดปากเช่นนี้ ถือว่ารัฐบาลล้มเหลวในการปกป้องนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และล้มเหลวในการปกป้องสิทธิแรงงานไปในคราวเดียวกันนอกจากนี้เห็นว่าจะต้องมีการออกกฎหมายต่อต้านการฟ้องคดีปิดปาก เพื่อให้นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนจะไม่ต้องถูกฟ้อง เพราะคนเหล่านี้กำลังช่วยรัฐบาลแก้ไขปัญหาอยู่ณัฐาศิริ ระบุทั้งนี้ในเวทีการแถลงข่าว ศุภาญจน์ตา สุขไผ่ตา เจ้าหน้าที่ประจำมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ได้สะท้อนปัญหาในกลไกของรัฐ ที่แม้ว่าจะมีกฎหมายและนโยบายที่ดีแต่การปฏิบัติจริงกลับมีปัญหาจากบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ เช่น ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะต้องให้ผู้นำหมู่บ้าน พาลูกของแรงงานข้ามชาติไปทำบัตรประชาชน ตามนโยบายของรัฐว่าเด็กทุกคนที่เกิดในไทยอายุ 5 ปีจะต้องมีบัตรประจำตัว แต่พบว่าเป็นช่องว่างในการเรียกรับผลประโยชน์ต่างตอบแทนให้กับผู้นำหมู่บ้าน มีแม่บางคนถูกล่วงละเมิดทางเพศเพื่อแลกกับการให้ผู้นำหมู่บ้านไปดำเนินการ ขณะเดียวอำเภอก็ระบุชัดเจนว่า จะต้องให้ผู้นำหมู่บ้านนำมาเท่านั้น ทั้งที่เด็กเหล่านั้นมีใบเกิดถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีประเด็นแรงงานก่อสร้าง ที่แรงงานข้ามชาติทำได้เพียงการก่อสร้างเท่านั้น ทาสี หรือ โบกปูน ไม่สามารถทำได้ ซึ่งก่อให้เกิดการคอร์รัปชั่น และเรียกรับส่วยจากเจ้าหน้าที่ และประเด็นการลงทะเบียนแรงงานจนถึงอายุ 55 ปีเท่านั้น ในขณะที่แรงงานไทย เกษียณอายุ 60 ปีผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานนอกจากจะมีเวทีแถลงข่าวจัดเกรดนโยบายการย้ายถิ่นของรัฐบาลตู่รุ่งหรือ ร่วงแล้วยังมีเวทีเสวนาเรื่องการคุ้มครองแรงงานของประเทศไทยกับมาตรฐานสากลในบริบทการค้าโลก วิทยากรเข้าร่วมเสวนามากมายในประเด็นนี้อาทิ ศักดินา ฉัตรกุล ณ อยุธยา นักวิชาการด้านแรงงานที่พูดถึง มาตรฐานการคุ้มครองแรงงานกับการค้าระหว่างประเทศ และการคุ้มครองแรงงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชาลี ลอยสูง คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) พูดถึงการคุ้มครองแรงงานในการรวมตัวต่อรองGSP +87 และ 98 สุเทพ อู่อ้น ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎรที่พูดในประเด็นทิศทางปฏิรูปกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ไทยและ ปภพ เสียมหาญ นักกฎหมายที่พูดในประเด็นแรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ในแรงงานประมงอีกด้วย
เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติจัดเวทีแถลง สรุปสถานการณ์การย้ายถิ่นและการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติและครอบครัว พร้อมทั้งจัดเกรดนโยบายย้ายถิ่นรัฐบาลตู่ รุ่ง หรือ ร่วง เนื่องในวันผู้ย้ายถิ่นสากล
เศรษฐกิจ,แรงงาน,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
แรงงานข้ามชาติ,การล่วงละเมิดทางเพศ,นโยบายย้ายถิ่น,เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ,อดิศร เกิดมงคล
https://prachatai.com/journal/2019/12/85602
[ 0, 259, 99412, 104348, 28966, 167509, 58384, 122657, 78032, 37801, 176501, 237468, 114662, 133173, 3755, 110823, 199626, 2091, 192983, 131110 ]
MRT เพิ่มรถใหม่อีก 6 ขบวน สายสีนํ้าเงินเช้าเย็น-รับมาตรการระยะห่างป้องกันไวรัส
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ตามที่ รฟม. และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ได้ดำเนินการตามมาตรการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT เข้าระบบในแต่ละคราว (Group Release) เพื่อรักษาระยะห่างในการใช้บริการตามมาตรการ Social Distancing ตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวง คมนาคมและกรมการขนส่งทางรางโดยแบ่ง การเข้าระบบของผู้โดยสารเป็น 3 ตอน ได้แก่ ก่อนการขึ้น-ลง เข้าสู่ชั้นจำหน่ายบัตรโดยสาร ก่อนผ่านเข้าประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ และก่อนเข้าสู่ขบวนรถไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารต้องใช้เวลารอคิวเพื่อใช้บริการนานขึ้นนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าว รฟม.และ BEM จึงได้ จัดขบวนรถเสริมในระบบรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ให้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น จากปกติ จะมีขบวนรถให้บริการ 40 ขบวน เพิ่มขึ้นอีก 6 ขบวน จากที่เคยเพิ่ม 3 ขบวน เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมมีขบวนรถเสริมในระบบเป็น 9 ขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งนี้ จะเสริมขบวนในกรณีที่สถานีรถไฟฟ้าสถานีใดมีผู้โดยสารหนาแน่นมากจะนำขบวนรถเสริมให้บริการที่สถานีนั้นเป็นสถานีแรก โดยไม่จอดรับผู้โดยสารที่สถานีก่อนหน้าทั้งนี้ รฟม.และ BEM ขอความร่วมมือผู้โดยสารวางแผนและเผื่อเวลาในการเดินทางมากขึ้น เพราะจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นในการ จัดระเบียบการเข้าใช้บริการ รวมทั้งสวมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการใช้บริการ รวมถึงให้ความร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่วัดอุณหภูมิร่างกายก่อนใช้บริการ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ในจุดให้บริการในสถานี และโปรดให้ความร่วมมือในการรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing โดยเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย ทางสุขอนามัยของคนทุกคน.
ตามที่ รฟม. และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ได้ดำเนินการตามมาตรการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT เข้าระบบในแต่ละคราว
ข่าว,ทั่วไทย
MRT,รถไฟฟ้า MRT,เพิ่มขบวนรถไฟฟ้า,Social Distancing,โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1841054
[ 0, 259, 74425, 3755, 181935, 9542, 188389, 6494, 27605, 212838, 18169, 69731, 2361, 61896, 119793, 2091, 73313, 28495, 34904, 120110 ]
ซูจีคุยกองทัพรอบใหม่ก่อนเปิดสภา
คณะทำงานฝ่ายกิจการรัฐบาลเมียนมาเผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ว่านางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย.2558 และมีเสียงข้างมากเกือบร้อยละ 80 ในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุมรอบที่ 2 กับนายพลมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งเมียนมา เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลและสานต่อกระบวนการสันติภาพในเมียนมาก่อนถึงกำหนดเปิดประชุมสภาครั้งแรกในวันที่ 1 ก.พ. โดยการประชุมดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 2 ชม. และมีตัวแทนระดับสูงของทั้งพรรคเอ็นแอลดีและกองทัพเข้าร่วมการประชุมด้วย,นอกจากนี้ นายทิน เมียว วิน อดีตนักโทษการเมืองซึ่งเคยเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าในอดีต ทั้งยังเป็นแพทย์ประจำตัวของนางซูจี เป็นหนึ่งในผู้ร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่มิได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่านายทินอาจเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป เนื่องจากนางซูจีไม่มีสิทธิ์รับตำแหน่งดังกล่าวด้วยตนเอง เพราะสมรสกับชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นข้อห้ามของผู้ดำรงตำแหน่ง ปธน.ที่ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญเมียนมา และนายทินเป็นผู้เข้าเยี่ยมนางซูจีเป็นประจำสมัยที่ยังถูกกักบริเวณในบ้านพัก.
นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ร่วมประชุมรอบที่ 2 กับนายพลมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งเมียนมา เมื่อวันที่ 25 ม.ค. เพื่อหารือแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล
เมียนมา,อองซาน ซูจี,พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย,เอ็นแอลดี,สภาผู้แทนราษฎร,มิน อ่อง หล่าย,ผู้บัญชาการทหารสูงสุด,กระบวนการสันติภาพ,ประชุมสภา,นักโทษการเมือง,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/568587
[ 0, 259, 77772, 36389, 66806, 163578, 97003, 149237, 4388, 4728, 170289, 237468, 225665, 6582, 54741, 11740, 48898, 162021, 259, 85461 ]
ไฟใต้ลามยะลายังไม่หยุด ตาย-เจ็บ
ยะลา-12 ม.ค.48นายบุญ แก้วเพชร อายุ 60 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดบริเวณลำตัวหลายนัดเสียชีวิตหน้าบ้านในหมู่ 10 บ้านหาดทราย ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จ.ยะลา ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายบุญกำลังถางหญ้าอยู่หน้าบ้าน มีคนร้าย 2 คน นุ่งโสร่งขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบชนิดและทะเบียน ใช้ปืนพกสั้นยิงใส่หลายนัดจนเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า เป็นฝีมือของผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง วันเดียวกัน นายสมพร มากหิรัญ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้จักรยายนต์เป็นยานพาหนะ กราดยิงด้วยอาวุธปืน.38 ถูกนายสมพรขณะที่เดินอยู่ริมถนนหน้าบ้าน ม.5 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ. บริเวณท้องและแขน แล้วขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้นำส่งนายสมพรไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เบื้องต้นเจ้าหน้าสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ ในพื้นที่
ยะลา-12 ม.ค.48 นายบุญ แก้วเพชร อายุ 60 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดบริเวณลำตัวหลายนัดเสียชีวิตหน้าบ้านในหมู่ 10 บ้านหาดทราย ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จ.ยะลา
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2005/01/2225
[ 0, 259, 85322, 100233, 145184, 60592, 111227, 259, 88620, 87838, 259, 48263, 1617, 24250, 103477, 88240, 8084, 218592, 148383, 9211 ]
ในหลวง เสด็จฯ ประกอบพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ
เวลา 17.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ สำหรับถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง,โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศงานพระราชพิธีฯ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะกรรมการ เฝ้าฯรับเสด็จ จากนั้น พลเอกประยุทธ์ กราบบังคมทูลรายงาน และเบิกกรรมการจัดสร้างพระเมรุมาศ ,จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จฯไปยังที่ประดิษฐานนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตร ก่อนที่นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ถวายสายสูตรยกนพปฎลมหาเศวตฉัตร เมื่อนพปฎลมหาเศวตฉัตรขึ้นสู่ยอดพระเมรุมาศแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสายสูตรคืนอธิบดีกรมศิลปากร รับไปผูกไว้ที่เสาบัว ,ต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทอดพระเนตรพระที่นั่งทรงธรรม และพระเมรุมาศ ตามพระราชอัธยาศัย ได้เวลาสมควร เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ สำหรับถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ข่าว,พระราชสำนัก
รัชกาลที่ 9,ในหลวง ร.9,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ส่งใจสู่ฟ้าอาลัยพ่อ,ยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร,ข่าวรัชกาลที่9
https://www.thairath.co.th/news/royal/1101919
[ 0, 259, 203061, 259, 137738, 156814, 236119, 4388, 140197, 3755, 197636, 191925, 20921, 227124, 20921, 6581, 104582, 190473, 118913, 88251 ]
งานใหญ่ ฮุน เซน ร่วมปลงศพลุงใส่ สหายอาวุโสผู้มีพระคุณ ที่จ.ตราด
จนท.จัดเตรียมสถานที่ภายในวัดคลองใหญ่ จ.ตราด รับสมเด็จฮุน เซน ที่จะเดินทางมาร่วมปลงศพนายใส่ ภูทอง อดีตคนไทยเกาะกง บุคคลสำคัญ ที่ร่วมกู้ชาติมาตั้งแต่ต้น และเป็นผู้มีพระคุณ ที่เสนอให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชา     ,วันที่ 17 มิ.ย. ที่วัดคลองใหญ่ จ.ตราด ได้จัดพิธีศพ ฯพณฯ ใส่ ภูทอง หรือนายใส่ ภูทอง มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์ในพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา จัดเป็นบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงในกัมพูชา ที่เป็นคนไทยเชื้อสายกัมพูชา บ้านเดิมอยู่ที่เกาะกง แต่ได้เข้าไปเคลื่อนไหวทำสงครามเมื่อหลายสิบปีก่อน จนได้เป็นแกนนำคนสำคัญ และเป็นผู้ที่เสนอชื่อฮุน เซน จากรัฐมนตรีต่างประเทศ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดของกัมพูชา ดำรงตำแหน่งยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน,ทั้งนี้ นายใส่ ภูทอง หรือที่ชาวกัมพูชา รู้จักในชื่อลุงใส่ ได้เจ็บป่วยด้วยโรคชรา โรคระบบทางเดินหายใจติดขัด เข้าพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลพระรามเก้า ในกรุงเทพฯ เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2559 ที่ โรงพยาบาลพระรามเก้า อายุได้ 96 ปี ซึ่งระหว่างที่พักรักษาตัวมีบุคคลสำคัญในรัฐบาลกัมพูชา ทั้งพลเอกเตีย บัน รองนายรัฐมนตนรีและรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งเป็นคนไทยเกาะกงด้วยกันมาเยี่ยม รวมถึงสมเด็จฮุน เซน ที่เดินทางมาเยี่ยมสหายอาวุโสที่มีบุญคุณผู้นี้อย่างเงียบๆ ถึงโรงพยาบาลพระรามเก้า,สำหรับประวัตินายใส่ ภูทอง ถือได้ว่าโลดโผนพอสมควร เริ่มตั้งแต่ร่วมกับชาวกัมพูชาต่อสู้กับฝรั่งเศสจนได้รับเอกราช ต่อมาได้ตั้งพรรคไทยเกาะกง แต่ถูกเขมรแดงไล่ล่าจนต้องหลบหนีและได้รับความช่วยเหลือจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กับนายทหารของไทยในขณะนั้น ก่อนจะเข้าร่วมกับคอมมิวนิสต์ที่แยกตัวออกจากเขมรแดง ตั้งแนวร่วมสามัคคีประชาชาติกู้ชาติกัมพูชา ได้รับการสนับสนุนจากคอมมิวนิสต์เวียดนาม เข้ายึดกรุงพนมเปญ โค่นล้มระบบเขมรแดงได้สำเร็จ จนได้รับแต่งตั้งเป็นเป็นรองประมุขรัฐของสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาที่ร่วมกันสถาปนาขึ้นมา พร้อมกับตั้งพรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา และเป็นผู้เสนอชื่อ ฮุน เซน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของกัมพูชา,ทั้งนี้ ตามกำหนดการ นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน พร้อมคณะในรัฐบาลกัมพูชา มีกำหนดเดินทางมาร่วมงานปลงศพ ลุงใส่ ในวันที่ 19 มิถุนายน 2559 ณ วัดคลองใหญ่ จ.ตราด ขณะเดียวกัน ได้มีบุคคลชั้นสูงของกัมพูชา ได้ทยอยเดินทางเข้าพัก เพื่อร่วมพิธีพร้อมสมเด็จฮุน เซน ทำให้ที่พักบริเวณบ้านจามเยี่ยม ชายแดนเขตติดต่อบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ ถูกจองเต็ม โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจของไทยช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าออก.
จนท.จัดเตรียมสถานที่ภายในวัดคลองใหญ่ จ.ตราด รับสมเด็จฮุน เซน ที่จะเดินทางมาร่วมปลงศพนายใส่ ภูทอง อดีตคนไทยเกาะกง บุคคลสำคัญ ที่ร่วมกู้ชาติมาตั้งแต่ต้น และเป็นผู้มีพระคุณ ที่เสนอให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ลุงใส่,ใส่ ภูทอง,สหายอาวุโส,ฮุน เซน,ร่วมงานศพ,ปลงศพ,รัฐบาลเขมร,วัดคลองใหญ่,ตราด,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/640962
[ 0, 259, 135776, 133974, 83583, 5405, 5095, 259, 132959, 134114, 38389, 259, 203061, 1549, 48263, 41391, 30488, 1881, 221821, 1 ]
บขส.เผย 4 วัน ยอดผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว 6 แสนคน
บขส.เผย ยอดผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 25–28 ธ.ค.58 มีจำนวนเกือบ 600,000 คน สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ระบุ สั่งการเพิ่มเที่ยววิ่งรถทุกเส้นทาง มั่นใจสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นได้ ยัน ไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้าง,เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.58 นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 25–28 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา มีประชาชน ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ร่วม 600,000 คน สูงกว่าที่ บขส. ตั้งเป้าและประมาณการไว้ว่า จะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยประมาณวันละ 130,000 คน แต่ปรากฏว่ามีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยประมาณ 145,000 คน เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 10,000-20,000 คน,อย่างไรก็ดี บขส.สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นได้ และได้สั่งการให้เพิ่มเที่ยววิ่งรถโดยสารทุกเส้นทางให้เพียงพอ รองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา วันละ 8,000 เที่ยว ในวันที่ 29-30 ธันวาคม 2558 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 150,000 คน,รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวเพิ่มเติมว่า บขส. ได้จัดทำบัตรของขวัญแทนเงินสด บขส.ส่งความสุขปี 2559 มูลค่า 50 บาท จำนวน 12,000 ใบ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ สำหรับประชาชน จำนวน 1,500 คนแรกต่อวัน ที่มาซื้อตั๋วโดยสารกับ บขส. ในราคาตั้งแต่ 350 บาทขึ้นไป ณ ช่องจำหน่ายตั๋ว สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ สายใต้ (ถนนบรมราชชนนี) ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2558–วันที่ 4 มกราคม 2559 โดยผู้โดยสาร สามารถนำบัตรของขวัญ มูลค่า 50 บาท มาใช้แทนเงินสดในการซื้อตั๋วโดยสารของ บขส. ทุกเส้นทางที่มีราคา 350 บาท ขึ้นไป ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม–31 มีนาคม 2559,ทั้งนี้ บัตรของขวัญดังกล่าว ไม่สามารถใช้ได้กับเส้นทางกรุงเทพฯ–เชียงคาน , กรุงเทพฯ–มุกดาหาร , กรุงเทพฯ–แม่สอด และเส้นทางเดินรถระหว่างประเทศ รวมถึงไม่สามารถนำบัตรของขวัญมาแลกเป็นเงินสด และไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิประโยชน์และสิทธิ์ลดหย่อนอื่นๆ ได้.
บขส.เผย ยอดผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 25–28 ธ.ค.58 มีจำนวนเกือบ 600,000 คน สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ระบุ สั่งการเพิ่มเที่ยววิ่งรถทุกเส้นทาง มั่นใจสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นได้
บขส.,ยอดผู้โดยสารกลับภูมิลำเนา,เดินทางช่วงปีใหม่,รถโดยสาร,ผู้โดยสาร,รองรับจำนวนผู้โดยสาร,นพรัตน์ การุณยะวนิช,บัตรของขวัญ บขส.,ตั๋วโดยสาร บขส.,สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ,สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ สายใต้,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์,ยอดผู้โดยสาร,กลับบ้านต่างจังหวัด,กลับต่างจังหวัด,ต่างจังหวัด,ตจว.
https://www.thairath.co.th/content/555824
[ 0, 259, 6581, 20322, 4552, 260, 259, 70851, 3755, 41604, 75686, 86372, 18169, 22065, 113621, 4188, 200686, 1, 0, 0 ]
โค้ชดม กำชับท่าเรือห้ามประมาทแบงค็อก แม้เพิ่งทุบบลูเวฟ
วันที่ 23 มี.ค. 60 อุดม ทวีสุข กุนซือของทีมโต๊ะเล็กการท่าเรือ เตือนลูกทีมห้ามประมาทแบงค็อก บีทีเอส ในศึก เอไอเอส ฟุตซอลไทยลีก 2017 วันอาทิตย์นี้ แม้สถิติจะข่ม เผย ชนะชลบุรีไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแชมป์,เกมนัดเปิดสนาม การท่าเรือ บุกไปเอาชนะ พีทีที ชลบุรี บลูเวฟ ถึงถิ่น 2-1 และเกมที่ 2 ของฤดูกาล ท่าเรือ มีคิวบุกเยือนจ่าฝูง แบงค็อก บีทีเอส ในวันอาทิตย์ที่ 26 มี.ค.นี้ ที่ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี เวลา 16.00 น. ไทยรัฐทีวี ถ่ายทอดสด,ซึ่งล่าสุด โค้ชดม ให้สัมภาษณ์ถึงเกมนัดต่อไปว่า ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นทีมไหน เราก็ประมาทไม่ได้ เพราะแต่ละทีมต่างมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาสูสีกันแล้ว ถึงแม้เราจะชนะแชมป์เก่าอย่าง ชลบุรี มาได้ในนัดแรก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม เกมต่อไปถือว่าหนักอีกเช่นเคยที่เราต้องไปเยือน แบงค็อก ที่มีตัวผู้เล่นที่แข็งแกร่ง ถึงแม้สถิติในการเจอกันเราจะดีกว่า แต่ส่วนตัวและลูกทีมก็จะไม่ประมาท เพราะเราเคยแพ้ทั้งเหย้าและเยือนมาแล้วในฤดูกาล 2015 สำหรับเกมนี้เราต้องมีแต้มเป็นอย่างน้อย เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่วางไว้ให้ได้,เครดิตภาพ:  Port Futsal Club สโมสรฟุตซอลการท่าเรือ
โค้ชดม อุดม ทวีสุข กุนซือของทีมโต๊ะเล็กการท่าเรือ เตือนลูกทีมห้ามประมาท แบงค็อก บีทีเอส ในศึกฟุตซอลไทยลีก 2017 วันอาทิตย์นี้
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
อุดม ทวีสุข,การท่าเรือ,แบงค็อก บีทีเอส,ฟุตซอล,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/893760
[ 0, 259, 227537, 6088, 3945, 259, 118885, 18433, 35835, 156983, 45173, 4728, 7960, 259, 165608, 259, 220581, 47534, 21005, 1 ]
ปืนลั่นใส่อก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ทะเลาะเมียน้อย ยกลูกซองขึ้นขู่ เลยยื้อแย่งกัน อีกฝ่ายเจ็บด้วย,ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชะตาขาดปืนลั่นเจาะกลางอกดับอนาถ สาเหตุจากแย่งปืนกับเมียคนที่สองหลังมีเรื่องทะเลาะกัน เนื่องจากผู้ตายไปเห็นเมียรักนั่งใกล้ผู้ชายขณะไปช่วยงานศพเพื่อนบ้าน พอกลับมาบ้านถือปืนลูกซองสั้นรอก่อนมีปากเสียงกันลั่น เมียคนแรกพยายามห้ามศึกแต่ไม่เป็นผล จนเกิดการยื้อแย่งปืนกับเมียคนเล็กจนปืนลั่นโดนมือเมียคู่กรณีก่อนทะลุเจาะอกดับ,ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านถูกปืนลั่นเจาะอกดับอนาถรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. ร.ต.อ.มนตรี พุทธขันธ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 180 หมู่ 5 ต.ขี้เหล็ก รีบรายงานให้ พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ พ.ต.อ.สถาพร โพธิ์ศรี รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ทราบ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ธนัตถ์สันต์ เมืองอินทร์ ผกก.สภ.แม่แตง และชุดสืบสวนพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว,ที่หน้าประตูห้องนอนภายในพบศพนายมานิตย์ ศรีอ่อน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 5 ต.ขี้เหล็กและเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ดังกล่าว สภาพศพนอนหงายในชุดเสื้อยืดและกางเกงขายาวสีดำ กลางหน้าอกพบรอยกระสุนปืนลูกซองหลายรูโดยมีนางศิริเพ็ญ คำคง อายุ 37 ปี บ้านเดิมอยู่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ยืนร่ำไห้อยู่ในที่เกิดเหตุมือซ้ายมีบาดแผลถูกยิงบาดเจ็บด้วย ส่วนบนเตียงพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์วางอยู่โดยมีปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วคาอยู่ สอบสวนเบื้องต้นนางศิริเพ็ญให้การรับสารภาพว่า ใช้ปืนยิงนายมานิตย์เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบสวนในรายละเอียด,ต่อมา พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนางศิริเพ็ญทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุอยู่ด้วยกัน 3 คน มีนายมานิตย์ ผู้ตาย นางพรรณี คิดชัย อายุ 64 ปี ภรรยาหลวงและนางศิริเพ็ญซึ่งเป็นภรรยาอีกคน โดยอยู่ร่วมกันมานานแล้ว เนื่องจากทางนางพรรณี ร่างกายไม่แข็งแรงและไม่ค่อยสบาย นายมานิตย์ขอมีภรรยาคนที่สองเพื่อมาช่วยดูแลภรรยาคนแรกด้วย นางพรรณีก็ไม่ได้ว่าอะไร อนุญาตให้พามาอยู่ชายคาบ้านเดียวกันมานานหลายปีโดยไม่มีเรื่องทะเลาะกันแต่นายมานิตย์เป็นคนขี้หึงนางศิริเพ็ญมาก,รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า คืนเกิดเหตุ นางศิริเพ็ญไปช่วยงานศพเพื่อนบ้านจนดึก นายมานิตย์เห็นยังไม่กลับบ้านเลยขับรถไปตามให้กลับพร้อมต่อว่าด้วยความหึงหวงที่มีผู้ชายนั่งในงานศพด้วย จากนั้นผู้ตายได้ขับรถมารอที่บ้าน พอนางศิริเพ็ญเสร็จจากงานศพกลับมาถึงบ้าน พบนายมานิตย์นั่งถือปืนรอเป็นเชิงข่มขู่เลยเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ขณะเดียวกันนางพรรณีอยู่ในบ้านด้วยได้ห้ามปรามและให้นางศิริเพ็ญเลี่ยงเข้าไปในห้องนอน แต่ผู้ตายไม่ยอมเดินตามเข้าไปถึงประตูและเกิดการแย่งปืนกันขึ้น กระทั่งปืนลั่นถูกมือนางศิริเพ็ญทะลุเจาะเข้ากลางหน้าอกของนายมานิตย์ล้มทั้งยืนถึงแก่ความตายคาที่ หลังเกิดเหตุนางศิริเพ็ญได้นั่งรอให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชะตาขาดปืนลั่นเจาะกลางอกดับอนาถ สาเหตุจากแย่งปืนกับเมียคนที่สองหลังมีเรื่องทะเลาะกัน เนื่องจากผู้ตายไปเห็นเมียรักนั่งใกล้ผู้ชายขณะไปช่วยงานศพเพื่อนบ้าน
ข่าว,อาชญากรรม
ปืนลั่น,ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน,เชียงใหม่,แย่งปืน,ข่าวหน้า 1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1435478
[ 0, 259, 66806, 85350, 84822, 140434, 7428, 37861, 17858, 73765, 5269, 33523, 149237, 38295, 66229, 68115, 91651, 1, 0, 0 ]
ศาลไม่รื้อคดีครูแพะ เชื่อพยานหลักฐานเดิม
ตำรวจขอคัดคำพิพากษา เล็งดำเนินคดีฝ่ายผู้ร้อง,ศาลฎีกาพิพากษายกคำร้องครูจอมทรัพย์ หรือ ครูแพะ ที่ยื่นคำร้องขอให้รื้อฟื้นคดีที่ถูกตำรวจ ดำเนินคดีขับรถชนคนตายจนต้องติดคุก เนื่องจากพยานหลักฐานของฝ่ายผู้ร้องไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานในคดีเดิมได้ ขณะที่ครูจอมทรัพย์กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า น้อมรับคำพิพากษาแต่ยังมั่นใจความจริงเป็นความจริง ทนายความ เผยเมื่อศาลยกคำร้องถือว่าครูจอมทรัพย์กระทำผิด การเยียวยาของกระทรวงยุติธรรมสิ้นสุดไปด้วย ผบก.ภ.จ. นครพนม เตรียมขอคัดสำเนาคำพิพากษาเพื่อประชุมคณะทำงาน หากมีการเบิกความหรือสร้างพยานหลักฐาน ผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีแน่นอน,จากคดีที่ต่อสู้ยืดเยื้อยาวนานและเป็นที่จับตาของสังคมกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ที่ถูกตำรวจ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม ดำเนินคดีขับรถชนนายเหลือ พ่อบำรุง อายุ 75 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดวันที่ 11 มี.ค.2548 ซึ่งนางจอมทรัพย์สู้คดีต่อเนื่องกระทั่งศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี 2 เดือน แต่หลังถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ก็ได้รับการอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 จากนั้นนางจอมทรัพย์เข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา มีการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครพนมขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่โดยสอบพยานทั้งฝ่ายนางจอมทรัพย์ผู้ร้อง และฝ่ายพนักงานอัยการผู้คัดค้าน เมื่อวันที่ 8-10 ก.พ.ที่ผ่านมา,ในที่สุดคดี ครูแพะ ที่ยืดเยื้อมานานได้ยุติลงโดยศาลมีคำสั่งยกคำร้อง โดยเมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศาลจังหวัดนครพนม นางจอมทรัพย์ แสนเมือง–โคตร ผู้ร้องพร้อมด้วยนายพงศา ราตรี ทนายความในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม และคณะพนักงานอัยการจังหวัดนครพนม ผู้ร้องคัดค้าน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จ.นครพนม เดินทางมาศาล เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่นางจอมทรัพย์ร้องขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่,การอ่านคำพิพากษาครั้งนี้ใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมง ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำร้อง ให้เหตุผลโดยสรุปว่า พยานหลักฐานที่ผู้ร้องนำมาแสดงต่อศาลในการพิจารณารื้อคดีไม่สามารถนำมาหักล้างพยานหลักฐานเก่าได้ เนื่องจากคดีเดิมมีพยานหลักฐานในการดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายที่ชัดเจนเชื่อได้ว่านางจอมทรัพย์เป็นผู้ผิด,หลังทราบผลคำพิพากษา นางจอมทรัพย์ผู้ร้อง เดินลงจากศาลด้วยสีหน้าเศร้าสลดน้ำตาคลอเบ้า กล่าวว่า ในเมื่อศาลตัดสินออกมา ตนน้อมรับและรับได้กับคำพิพากษาที่ออกมา เพราะได้สู้ในกระบวนการยุติธรรมถึงที่สุดแล้ว ยอมรับว่าเสียใจ แต่ยังมั่นใจว่าความจริงคือความจริง แต่ต้องรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้น,นายพงศา ราตรี ทนายความฝ่ายผู้ร้อง กล่าวว่าตนมีหน้าที่นำพยานหลักฐานตามคำร้องทุกข์ของนางจอมทรัพย์ ขึ้นสู่ศาลตามกระบวนการ เมื่อศาลพิพากษายกคำร้องคดีเป็นที่สิ้นสุด ต้องถือว่านางจอมทรัพย์เป็นผู้กระทำผิดตามคำพิพากษาก่อนหน้านี้ การช่วยเหลือเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรมถือว่าสิ้นสุดไปด้วย ส่วนจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เบิกความเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องหรือไม่ เป็นเรื่องที่หน่วยงานเกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาดำเนินการต่อไป,ขณะที่ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จ.นครพนม กล่าวว่า หลังศาลมีคำพิพากษายกคำร้อง ตำรวจจะขอคัดสำนวนคำฟ้อง รวมถึงคำพิพากษาทั้งหมด เพื่อประชุมหารือตั้งคณะทำงานต่อไป ส่วนเรื่องความผิดต่างๆในเรื่องของการเบิกความ การสร้างพยานหลักฐานต่างๆที่ผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน ต้องรอผลการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง,ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เมื่อศาลฎีกาตัดสินให้ยกคำร้องแล้ว เท่ากับว่าผลของคดีที่เคยตัดสินไว้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น คือนางจอมทรัพย์ได้กระทำความผิดและศาลลงโทษจำคุกไว้เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน แต่เนื่องจากนางจอมทรัพย์เคยรับโทษและภายหลังได้รับการอภัยโทษจึงพ้นโทษนั้นแล้ว คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ออกมาวันนี้เห็นได้ว่า การขอรื้อฟื้นไม่มีพยานหลักฐานใหม่ที่ชัดแจ้งและสำคัญต่อคดีที่จะแสดงว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ศาลจึงยกคำร้อง และเนื่องจากว่าคำพิพากษา การขอรื้อฟื้นคดีนี้เป็นคำสั่งของศาลฎีกา คดีเป็นที่สุดแล้ว คู่ความจึงไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆต่อไปได้ เพราะการยื่นคำร้องขอรื้อฟื้นคดีสามารถทำได้ครั้งเดียว,ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คงต้องขอสงวนแสดงความเห็นในคำพิพากษาของศาล ผลการ พิพากษาเป็นอย่างไรต้องน้อมรับ ไม่สามารถก้าวล่วงได้ สำหรับประเด็นที่สื่อมวลชนสอบถามว่า ทางตำรวจมีความมั่นใจในสำนวนการสอบสวนในคดีดังกล่าวหรือไม่ ที่ผ่านมาได้รับรายงานและตรวจสอบสำนวนการสอบสวนมาตลอด อีกทั้งในคดีดังกล่าว พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีต จตช. เข้าไปตรวจสอบสำนวนการสอบสวน พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด ทำสำนวนการสอบสวนอย่างรอบคอบ และดำเนินการฟ้องผู้ต้องหาตามพยานหลักฐาน ไม่ได้จับแพะหรือกลั่นแกล้งผู้หนึ่งผู้ใด ส่วนจะดำเนินคดีในส่วนที่ทำให้สำนักงานตำรวจ แห่งชาติเสื่อมเสียหรือไม่นั้น คงต้องให้ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาหารือดำเนินการ,นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวว่า การกลับเข้ามารับราชการของครูจอมทรัพย์นั้น หากเขตพื้นที่เห็นถึงเหตุผลความจำเป็นในการขอกลับเข้ารับราชการของครูจอมทรัพย์ก็ต้องทำเรื่องเสนอมาให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) พิจารณา แต่หากพิจารณาตามหลักเกณฑ์การขอกลับเข้ารับราชการบุคคลต้องมีอายุไม่เกิน 50 ปี ในกรณีของครูจอมทรัพย์มีอายุเกินไม่น่าจะกลับเข้ารับราชการได้
ศาลฎีกาพิพากษายกคำร้องครูจอมทรัพย์ หรือ ครูแพะ ที่ยื่นคำร้องขอให้รื้อฟื้นคดีที่ถูกตำรวจ ดำเนินคดีขับรถชนคนตายจนต้องติดคุก เนื่องจากพยานหลักฐานของฝ่ายผู้ร้องไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานในคดีเดิมได้
ข่าว,ทั่วไทย
ครูแพะ,จอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร,รื้อฟื้นคดี,ศาลไม่รื้อคดีครูแพะ,ข่าวหน้า 1,กฏหมาย
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1129730
[ 0, 259, 106726, 141204, 217829, 53727, 30305, 216055, 63388, 36903, 135174, 259, 61913, 164597, 135078, 259, 90051, 24633, 69012, 53868 ]
เริ่มต้นดีแต่จบไม่สวย นิก คุณาธิป เด็กปั้นของ พจน์ อานนท์ ที่ตอนนี้มีปัญหากัน
แม่ช่อมะไฟ มาแล้วจ้าา,แม่ช่อมะไฟ พร้อมปฏิบัติการเสิร์ฟความหรรษา ณ บัดนาว,เริ่มต้นดีแต่จบไม่สวยนัก สำหรับ นิก–คุณาธิป เด็กปั้นในคาถาของ พจน์ อานนท์ ที่ตอนนี้มีปัญหากันถึงกับออกมาสาดโคลน ดราม่ากันใน IG ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่พ้น บอกเลยไม่ใช่ครั้งแรกที่ ผกก.คนดังไม่จ่ายตังค์อืมม เงินทอง ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ.,เป็นคนออร์กาไนซ์งานล้างเท้า แม่แอฟ–ทักษอร ด้วยตัวเองทุกอย่าง ก่อน ปีใหม่ จะหันไปบอก ผจก.คุณแม่ว่า ปีหน้าต้องเตรียมกะละมังใหญ่ขึ้น เพราะคุณแม่เท้าใหญ่ชมใช่มั้ยคะคุณปี??? ก๊ากกกกเร้ยย์.,3 ตัวแม่ แห่งรายการ เมย์ เอ๋ โอ๋ Mamas Talk (ทอล์คตัวแม่) ทางช่อง pptv เคลียร์คิวว่างปุ๊บ ก็จัดทริปกระชับมิตรให้ลูกๆได้สนุกกันด้วยการพาไปเหินเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์งานนี้แค่นึกภาพก็ไม่รู้ว่าจะวุ่นวายขนาดไหน ฮ่าาาาา.,เอส เอฟ คัดสรรหนังดีสุดเอกซ์คลูซีฟ มาให้ได้รับชมกันอีกครั้งกับ SOLARIS ภาพยนตร์รางวัล Grand Prix Spécial du Jury และ FIPRESCI จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ปี 1972 ร่วมสำรวจและค้นหาความจริงของเรื่องราวทั้งหมดได้ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ และเปิดฉายเพียงสองวันคือ วันที่ 24 และ 31 ส.ค.62 เท่านั้น.,ดูสด ฟินสุด เพียงถ่ายรูปคุณคู่กับ องค์มุจลินท์ (ฟลุค–จิระ) ขณะชมละคร มณีนาคา ทางช่อง 8 ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสฯ เวลา 18.20 น. ลุ้นรับชุดเศรษฐีนาคามูลค่า 1,590 บาททุกสัปดาห์ และเสื้อละครมณีนาคาทุกวัน ติดตามกติกาได้ทางเฟซบุ๊กช่อง 8 ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.,ความหล่อรอไม่ได้ ซี–ศิวัฒน์ ควง เอมี่ กลิ่นประทุม มาเช็กอินเคลียร์ผิวสวย หน้าใส ที่คลินิกดังอย่าง อินฟินิตี้ คลินิก บาย ดร.ปาล์ม งานนี้ คุณหมอปาล์ม เนรมิตความหล่อสวยให้คู่รักสะท้านวงการ ซี–เอมี่ ให้เป๊ะปังในพริบตา สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.0-2276-5881, 09-5524-6669.,เอี๊ยด เอี๊ยดด เคยเป็น FC ตามกรี๊ดซุปตาร์มาก่อน พอวันนึงกลายเป็น คนดัง สายเอนเตอร์เทนตัวแม่ เบื้องหน้าเป็นคนเฟรนด์ลี สนุกสนาน แต่หลังม่านกลับชอบแบ่งชนชั้น แม้แต่กับ น้อง คนสนิทที่คอยดูแล จะหยิบจับอะไรส่งของอะไรให้ She ต้องนั่งกับพื้นดุจสาวชาววังเข้าเฝ้า เจ้านาย โชคดีไม่ถึงขั้นให้ก้มกราบถือยศถือศักดิ์มากๆ ระวัง ดวงตก หล่นจากสวรรค์ จะไม่มีใครแลเอานะยะหล่อน อุ๊บ,แม่ช่อมะไฟ
เริ่มต้นดีแต่จบไม่สวยนัก สำหรับ นิก–คุณาธิป เด็กปั้นในคาถาของ พจน์ อานนท์ ที่ตอนนี้มีปัญหากันถึงกับออกมาสาดโคลน ดราม่ากันใน IG ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่พ้น
นิก คุณาธิป,พจน์ อานนท์,แอฟ ทักษอร,ฟลุค จิระ,ซี ศิวัฒน์,สี่แยกบันเทิง,แม่ช่อมะไฟ,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1640343
[ 0, 259, 35239, 12682, 113249, 77694, 40494, 259, 41582, 184080, 2091, 70474, 172093, 1881, 127054, 25941, 1549, 68840, 630, 1 ]
แบรนด์สนีกเกอร์ปล่อยรองเท้ารุ่นพิเศษ จากแรงบันดาลใจรถไฟสายหรู กรุงเทพฯ-สิงคโปร์
แบรนด์รองเท้าสนีกเกอร์ ASICSTIGER กลับมาร่วมงานกับ 24 Kilates ร้านสนีกเกอร์ชื่อดังที่มาจากสเปน ออกแบบรองเท้ารุ่นพิเศษ ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน 24 KILATES X ASICSTIGER GEL-LYTE III EXPRESS นี้ ออกแบบโดยวาดแรงบันดาลใจมาจากขบวนรถไฟสายหรูสุดคลาสสิก Eastern & Oriental Express (อีสเทิร์น แอนด์ โอเรียนทอล เอ็กซ์เพรส) ที่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1995 และฉลองครบรอบ 25 ปี ในปี 2018 นี้ โดยรองเท้านี้ยังออกแบบมาเพื่อเฉลิมฉลองขบวนเส้นทางสายเอเชียที่วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ โดยนำรองเท้ารุ่นคลาสสิกอย่าง Asics Gel-Lyte III จากปี 1990 มาเล่าเรื่องใหม่ วาดลวดลายความสวยงามของทิวทัศน์ระหว่างเส้นทางรถไฟใส่ลงไป นอกจากนั้นลายที่อยู่บนรองเท้าได้แรงบันดาลใจจากสีเขียวและสีทองของตู้โดยสาร ใช้หนังกลับบริเวณปลายเท้าและข้อเท้าด้านหลัง แต่งแต้มด้วยสีทองตามจุดต่างๆ รวมถึงปลายเชือกรองเท้า รถไฟ Eastern & Oriental Express เป็นขบวนรถไฟที่หรูที่สุดในโลก ที่ดำเนินงานโดยบริษัท Belmond วิ่งระหว่างสถานีรถไฟกรุงเทพฯ จากหัวลำโพง ผ่านตอนใต้ของประเทศไทยสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ มีห้องรับรองผู้โดยสารจำนวน 82 คน และเมื่อต้นปี 2018 ทางแบรนด์ฉลองครบรอบ 25 ปี ด้วยการชวนศิลปินไทยอย่าง สมนึก คลังนอก มาออกแบบลวดลายภายนอกของขบวนรถไฟสายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปรับโฉมเครื่องแบบพนักงานโดยให้ Vvon Sugunnasil แบรนด์เสื้อผ้าไทย เป็นผู้ออกแบบยูนิฟอร์มโฉมใหม่เป็นครั้งแรกของพนักงานบนรถไฟตั้งแต่ก่อตั้งมารองเท้ารุ่นพิเศษ 24 KILATES X ASICSTIGER GEL-LYTE III EXPRESS วางจำหน่ายที่ร้าน 24 Kilates กรุงเทพฯ สาขาหัวหมาก และสาขาบาร์เซโลนา ประเทศสเปน Photos: พิสูจน์อักษร:
แบรนด์รองเท้า ASICSTIGER และร้านรองเท้าสนีกเกอร์ 24 Kilates จากสเปน ออกแบบรองเท้ารุ่นพิเศษ ที่ได้แรงบันดาลใจจากขบวนรถไฟหรูสายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
https://thestandard.co/24-kilates-x-asicstiger-gel-lyte-iii-express/
[ 0, 259, 93927, 10344, 259, 9542, 82016, 259, 27605, 128710, 52914, 4215, 231075, 78698, 5405, 11858, 259, 69146, 4501, 264 ]
แถลงการณ์ ม.เที่ยงคืน: หยุดการบิดเบือน กม.นิรโทษกรรม หยุดการตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทย
ด้วยการแสดงความเห็นคัดค้านและถอนตัวจากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย30 ต.ค. 2556 - วันนี้ (30 ต.ค.) ได้เผยแพร่แถลงการณ์ หยุดการบิดเบือนกฎหมายนิรโทษกรรม หยุดการตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทย โดยมีใจความดังนี้การแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรมที่กำลังบังเกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของพรรคเพื่อไทยนับว่าเป็นการกระทำที่ บิดเบือน ต่อหลักการสำคัญของกฎหมายนิรโทษกรรมที่ได้มีการนำเสนอไว้ในวาระแรกอย่างแจ้งชัด ความเร่งรีบต่อการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวก็ยิ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษอันบิดเบี้ยวฉบับนี้อย่างไม่อาจปฏิเสธกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งที่มีความจำเป็นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่ประเด็นสำคัญของกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งพอจะเป็นที่ยอมรับกันได้อย่างกว้างขวางในชั้นต้นก็คือ การนิรโทษกรรมให้แก่บรรดามวลชนที่เข้าร่วมการชุมนุมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดหรือสีใดก็ตาม ซึ่งก็ได้เป็นส่วนสำคัญของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่เสนอในวาระแรกโดย ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยเอง รวมทั้งการยืนยันว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรมให้แก่บรรดาผู้นำ ผู้สั่งการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ได้กระทำความผิดอย่างรุนแรงต่อการทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชนขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อมาสู่การพิจารณาในวาระที่สอง พรรคเพื่อไทยก็ได้ปฏิบัติการ ตระบัดสัตย์ ต่อหลักการที่นำเสนอมามหาวิทยาลัยเที่ยงคืน มีความเห็นต่อกรณีดังกล่าว ดังต่อไปนี้ประการแรก การออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งซึ่งทำให้บุคคลทุกฝ่ายพ้นไปจากความผิด จะเป็นการกระทำที่ทำให้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยถูกซุกเข้าไปอยู่ใต้พรมอีกครั้งหนึ่ง นอกจากจะทำให้บุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงไม่ว่าฝ่ายใดก็ตามสามารถลอยนวลไปจากความผิดแล้ว สังคมไทยจะไม่ได้เรียนรู้ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมาบังเกิดขึ้นได้อย่างไร และโดยกระบวนการอย่างไร และใครบ้างที่ควรจะเป็นผู้รับผิดชอบ อันจะเป็นประเด็นสำคัญต่อการทำความเข้าใจและนำไปสู่การพยายามป้องกันไม่ให้ความรุนแรงได้บังเกิดซ้ำรอยขึ้นอีกในอนาคตประการที่สอง แม้กฎหมายนิรโทษกรรมอยู่ในอำนาจทางการเมืองของฝ่ายนิติบัญญัติก็ตาม แต่การใช้อำนาจในทางการเมืองก็ต้องตระหนักถึงผลกระทบที่จะติดตามมาจากการใช้อำนาจดังกล่าว ซึ่งกรณีการบิดเบือนกฎหมายนิรโทษกรรมโดยพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนว่ากำลังสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงการไม่เห็นด้วยในหมู่ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ บรรดาแกนนำหรือนักการเมืองฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก็ต่างพร้อมเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีเพื่อให้ความจริงปรากฏ ความพยายามในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งของพรรคเพื่อไทยจึงไม่อาจถูกมองไปเป็นอย่างอื่นได้นอกจากการมุ่งรับใช้ นายใหญ่ แบบไม่ลืมหูลืมหา กระทั่งไม่สนใจว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวจะสร้างผลเสียเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดประการที่สาม แม้ว่าฝ่ายเสื้อแดงจำนวนหนึ่งอาจไม่อยากแสดงความขัดแย้งต่อพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีความเห็นว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพันธมิตรกับฝ่ายตนเองมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ แต่ต้องพึงตระหนักว่าการจะสัมพันธ์กับพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดๆ ก็ตาม พรรคการเมืองก็จะต้องรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของบุคคลผู้ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรค หากพรรคการเมืองใดตัดสินใจดำเนินนโยบายของตนไปโดยเห็นแก่ผู้มีอำนาจภายในพรรคและไม่เห็นหัวฐานเสียงของพรรค ก็ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้การสนับสนุนพรรคดังกล่าวต่อไปมวลชนคนเสื้อแดงควรต้องตระหนักว่าพรรคเพื่อไทยก็จะอยู่ในภาวะเฉกเช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองอื่นๆ หากยังคงดำเนินการไปในลักษณะที่ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อเสียงเรียกร้องที่ได้บังเกิดขึ้น ทั้งต้องตระหนักว่าการปกป้องระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่การปกป้องพรรคเพื่อไทย หากมวลชนคนเสื้อแดงไม่สามารถกดดันให้พรรคเพื่อไทยทำการแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรมได้ก็แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะทิ้งกลุ่มที่เป็นมวลชนของพรรคไปได้อย่างง่ายดายเช่นกัน พรรคการเมืองเช่นนี้ย่อมไม่สามารถฝากความหวังต่อการพัฒนาประชาธิปไตยต่อไปได้อย่างแน่นอนมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่ตระหนักถึงความจำเป็นของการออกกฎหมายนิรโทษกรรมได้ร่วมกันกดดันและปฏิบัติการเพื่อยุติการบิดเบือนกฎหมายนิรโทษกรรมและการตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทย ด้วยการแสดงความเห็นคัดค้านและถอนตัวจากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นการแสดงถึง อำนาจ ของประชาชนในการกำกับนโยบายและทิศทางของพรรคการเมือง ทั้งนี้จะไม่เพียงเป็นการสั่งสอนพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากยังจะเป็นบทเรียนให้กับพรรคการเมืองอื่นๆ ได้ตระหนักต่อไปถึงความสำคัญของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองต่อไปในวันข้างหน้ามหาวิทยาลัยเที่ยงคืน30 ตุลาคม 2556
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันกดดันและปฏิบัติการเพื่อยุติการบิดเบือนกฎหมายนิรโทษกรรมและการตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทย
การเมือง
การปรองดองแห่งชาติ,นิรโทษกรรม,นิรโทษกรรมเหมาเข่ง,มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน,สุดซอย
https://prachatai.com/journal/2013/10/49479
[ 0, 259, 70838, 234696, 124576, 56215, 3682, 44573, 64877, 17856, 72338, 70838, 1549, 99942, 134114, 2361, 47701, 36595, 43427, 1 ]
โสมชบาจ๊ะจ๋า 13/02/61
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เชียงราย วันที่ 13 ก.พ. เป็นวันที่สาม,เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบ 41 ปี พระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ภาครัฐและเอกชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมจัดงาน วันวิภาวดี เพื่อสดุดีและบำเพ็ญกุศลถวาย ณ ลานพระอนุสาวรีย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชเวียงสระ อ.เวียงสระ,พาสินี ลิ่มอติบูลย์ และ ศรีสกุล เทือกสุบรรณ ได้เป็นย่ายายมือใหม่ป้ายแดงทั้งคู่ เมื่อครอบครัวลูกชาย สุรภาพ-ธีราภา มีหลานสาวให้เชยชม ชื่อ น้องด้าย ซึ่งคล้องจองกับชื่อเล่นคุณแม่ เข็ม-ธีราภา,สุวิทย์-ลาวัณย์ คุณกิตติ ยามนี้ ทำตัวเป็นนายกวักนางกวักให้ลูกสาว เติ้น-ฝน-ขวัญ ที่ช่วยกันเปิดร้านขนมอยู่ตรงข้าม ม.เกษตรฯบางเขน,ตรุษจีนปีนี้ มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รวม 3 ศูนย์การค้า สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ จัด สยาม ดีไลท์ฟูล ไชนีส นิวเยียร์ อิมพอร์ตมหกรรมโชว์ตระการตาจากเมืองจีน พร้อมประติมากรรมโคมไฟ 999 ดวง และโคมไฟ 12 ปีนักษัตร ไฮไลต์โคมไฟยักษ์รูปสุนัขสูง 5 เมตร เพื่อความเรืองรอง โดยมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ แต่งชุดจีนโบราณ แต่งหน้าสไตล์จีน และอั่งเปาพิเศษ 15-18 ก.พ.--พิธีเปิด 15 ก.พ. 18.00 น. ที่พาร์ค พารากอน,เชื่อว่ากินส้มมงคลแล้วจะเฮง กวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ เลยนำมาแจกพร้อมอั่งเปาพิเศษให้ลูกค้าต้อนรับปีหมาทอง พร้อมขบวนแห่เทพเจ้าแห่งโชคลาภไฉ่ซิงเอี้ย, มังกรทอง 30 เมตร และสิงโตดอกเหมยเสริมโชค โชว์เอาฤกษ์เอาชัย ที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ 16 ก.พ. เวลา 16.30 น. และ เดอะ คริสตัล สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา-พีทีที ชัยพฤกษ์-เอสบี ราชพฤกษ์,ชวนเพื่อนพ้องไปกินข้าวแช่สูตรมารดา คุณหญิงงามฉลวย ที่บ้านริมน้ำเทเวศร์ ดนุช บุนนาค ถูกมาดาม ศากุน บ่นที่เริ่มกลับมาเลี้ยงพุงอีก จึงหันไปหาพวก มี ฐิติมา พันธุ์มีเชาว์ และ สนิทพิมพ์ เอกชัย ซึ่งเป็นปี่เป็นขลุ่ย ว่ากว่าจะทำให้เข็มตาชั่งกระดิกเฉียดเลข 70 ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และเสียเงินไปเป็นล้านกับฟัวกราส์ วากิว A 5 คาเวียร์ เป๋าฮื้อ หูฉลาม รวมทั้งวินเทจไวน์ และแชมเปญไม่รู้กี่ร้อยขวด.,โสมชบา
เชื่อว่ากินส้มมงคลแล้วจะเฮง กวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ เลยนำมาแจกพร้อมอั่งเปาพิเศษให้ลูกค้าต้อนรับปีหมาทอง พร้อมขบวนแห่เทพเจ้าแห่งโชคลาภไฉ่ซิงเอี้ย, มังกรทอง 30 เมตร และสิงโตดอกเหมยเสริมโชค โชว์เอาฤกษ์เอาชัย
กวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์,ตรุษจีน,อั่งเปา,โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา,อื่นๆ
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1202238
[ 0, 259, 150741, 13094, 26036, 259, 60284, 20921, 96903, 212244, 47815, 32921, 13094, 26036, 259, 150741, 75263, 204168, 73526, 17636 ]
ปิยะสกล มอบปลัดใหม่แต่งตั้งโยกย้ายซี 10 สธ.
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ ซี 10 ของ สธ. ว่า เนื่องจากสัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรีไม่อยู่ ดังนั้น สธ.จึงจะไม่ส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะเสนอเข้า ครม.หลังวันที่ 1 ต.ค. โดยให้เป็นหน้าที่ของ นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ.คนใหม่เป็นผู้แต่งตั้ง เพราะถือเป็นทีมงานของ นพ.โสภณ,ผู้สื่อข่าวถามถึงการแต่งตั้งหลังวันที่ 1 ต.ค.นั้นเพราะเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งหรือไม่ เพราะขณะนี้มีแพทย์บางกลุ่มออกมาแสดงความเห็นว่าหากให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.เป็นคนตั้งจะกลายเป็นการสืบทอดอำนาจ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งแต่เป็นเพียงความเห็นที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า สธ.จะต้องตั้งคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน คนที่จะทำงานร่วมกันก็ต้องเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งการแต่งตั้งปลัด สธ.ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าเสียงที่ออกมาก็เป็นที่พอใจ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับตำแหน่งผู้บริหาร ระดับซี 10 ที่จะว่างในเดือน ต.ค.นี้ มี 4 ตำแหน่ง คือ นพ.โสภณ ที่มานั่งเป็นปลัด สธ. ส่วนอีก 3 ตำแหน่งที่จะเกษียณอายุในเดือน ก.ย.นี้ คือ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และ นพ.คำรณ ไชยศิริ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ สธ. และตามธรรมเนียม จะต้องย้ายรองปลัด สธ.ไปดำรงตำแหน่งอธิบดี ย้ายผู้ตรวจฯขึ้นเป็นรองปลัด สธ.เป็นต้น.
ไม่ได้มีความขัดแย้งแต่เป็นเพียงความเห็นที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า สธ.จะต้องตั้งคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน คนที่จะทำงานร่วมกันก็ต้องเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งการแต่งตั้งปลัด สธ.ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าเสียงที่ออกมาก็เป็น
ข่าวการศึกษา,ข่าวสาธารณสุข,ปิยะสกล สกลสัตยาทร,แต่งตั้งโยกย้าย,ระดับ ซี 10,ความขัดแย้ง,สภณ เมฆธน,ณรงค์ สหเมธาพัฒน์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/527180
[ 0, 259, 195634, 260, 114866, 177001, 4552, 94819, 41912, 94819, 4552, 142362, 22401, 121547, 259, 221409, 3755, 233122, 90482, 5405 ]
เร่งควบคุมโรค คอนโดสุขุมวิท 26 หลัง ด.ญ. 9 ขวบ ร่วมคณะทูตติดโควิดฯ
เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน เข้าตรวจคัดกรองที่คอนโดมิเนียมซอยสุขุมวิท 26 หลังพบเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ชาวซูดาน เดินทางมากับคณะทูต ติดโควิด-19 ยืนยันผู้ป่วยไม่ได้เดินทางไปที่อื่นวันที่ 14 ก.ค. นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อม เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค ลงพื้นที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท ซอย 26 พร้อมนำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน เข้าตรวจสอบคัดกรองโควิด-19 หลังพบว่า เด็กหญิงอายุ 9 ปี ที่เดินทางมาจากประเทศซูดาน ภูมิภาคแอฟริกา พร้อมกับครอบครัวของคณะทูต เข้าพักที่คอนโดแห่งนี้ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ก่อนเดินทางวันที่ 7 กรกฎาคม ตรวจไม่พบติดเชื้อ ต่อมาวันที่ 10 กรกฎาคม เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และตรวจพบเชื้อ พ่อของเด็กนำผู้ป่วยรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน พร้อมนำสมาชิกครอบครัวที่เหลือ 4 คน กักตัวที่คอนโดฯ กระทั่งวันที่ 11 กรกฎาคม ผลตรวจพบว่า เด็กมีอาการปอดอักเสบ จึงส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง และส่งตัวคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดไปยังสถานกักตัวของรัฐเรียบร้อยแล้วรองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวยืนยันว่า มาตรการของเจ้าหน้าที่ทูต จะมีข้อตกลงให้ไปกักตัวยังสถานทูตฯ แต่เข้าใจว่า กรณีนี้สถานที่ของสถานทูตฯ อาจไม่เพียงพอรองรับ จึงต้องมาพักที่คอนโดฯ แห่งนี้ และยืนยันว่า ระหว่างที่ผู้เข้าข่ายและผู้ป่วยพักที่แห่งนี้ ไม่ได้เดินทางไปยังจุดอื่นๆอย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า กรณีนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องทบทวนมาตรการผ่อนปรนบุคคลเข้าออกประเทศให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการเกิดการซ้ำรอยขึ้นอีกส่วนผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกัน จำนวนกว่า 200 คน พบติดเชื้อจำนวน 12 คน จากผู้ที่ต้องสงสัยติดเชื้อฯ จำนวน 40 คน โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลแล้วด้าน นายแพทย์ชวิน ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า มาตรฐานของคอนโดฯ มีการคัดกรองบุคคลผ่านเข้าออก และเมื่อทราบว่ามีผู้ติดเชื้อ ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบคัดกรอง และปิดกั้นพื้นที่ส่วนกลางขณะที่ผู้ที่อาศัยในคอนโดฯ แห่งนี้ ให้ข้อมูลว่า ตอนแรกก็กังวล หลังทราบว่าคนในคอนโดติดเชื้อโควิด-19 แต่เมื่อมีสาธารณสุขเข้ามาสอบสวนโรคก็มั่นใจขึ้น อีกทั้งทางคอนโดเองมีมาตรการป้องกันที่รัดกุมมาโดยตลอด ส่วนตัวได้ใส่หน้ากากอนามัยทุกเวลาที่อยู่ในคอนโดด้วย สำหรับการให้บุคคลบางกลุ่มมีสิทธิพิเศษไม่ต้องกักตัว 14 วัน ตนเองมองว่าอยากให้ทุกคนเท่าเทียมกัน เพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาดขึ้นอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน เข้าตรวจคัดกรองที่คอนโดมิเนียมซอยสุขุมวิท 26 หลังพบเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ชาวซูดาน เดินทางมากับคณะทูต ติดโควิด-19 ยืนยันผู้ป่วย
ข่าว,ทั่วไทย
โควิดระยอง,โควิด-19,ทหารอียิปต์,ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด,คณะลูกทูต,ระยอง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1888921
[ 0, 259, 85322, 74425, 93991, 48011, 259, 27605, 18169, 41556, 94419, 171329, 234696, 109586, 150741, 75263, 150127, 83350, 172717, 156912 ]
แอนดรูว์ ขืนใจ แนท สะใจขยี้ผู้หญิงของ บิ๊กเอ็ม
ริจะเอาดีทางร้ายก็ต้องเลวให้สุด ดูอย่าง แอนดรูว์-กรเศก ในละครเรื่อง ปีกหงส์ ของค่ายดีด้า ที่เกลียดพระเอกมาก ถึงขั้นลงมือลวงคู่หมั้นของพระเอกมาข่มขืนเพื่อความสะใจในฉากที่จะพาไปดูวันนี้เป็นตอนที่ แม็ค (แอนดรูว์) เจรจาเรื่องที่แม่ของ ปราง (แนท-ณัฐชา) ติดหนี้ก้อนใหญ่ เลยต้องการเอาตัว ปราง ไปเป็นเมียเพื่อล้างหนี้ทั้งหมด แต่ ปราง ไม่ยอม แม็ค เลยจัดการโปะยาสลบแล้วอุ้มกลับมาบ้านลงมือขืนใจซะเลย ซึ่งลึกๆแล้ว แม็ค ทำเพื่อก็ต้องการเอาชนะ ทินภัทร (บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์) เพราะ ปราง เป็นคู่หมั้นของ ทินภัทร จึงรู้สึกสะใจ เมื่อ ปราง ตื่นมาก็ร้องไห้ร้องห่มที่เสียตัวให้กับ แม็ค>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<เบื้องหลังการถ่ายทำฉากนี้ สาว แนท สารภาพว่าตื่นเต้น เพราะกลัวฉากเลิฟซีน ผกก. แม่ตุ่ม-ประทุม มิตรภักดี เห็นอาการตื่นๆของ แนท ก็เลยเข้ามาพูดปลอบ กลัวอะไร เล่นกับแอนดรูว์ สนิทกันอยู่แล้ว แทน ที่จะใจชื้นขึ้น แนท กลับพูดสวน ก็เพราะเล่นกับ แอนดรูว์ นี่แหละหนูถึงกลัวอ้าว แอนดรูว์ ฟังแล้วสะดุ้งโหยง หันมาพูดปลอบอีกคน เล่นเบาๆ ทำใจสบายๆ อืมม์ตอนซ้อมก็เล่นกันเบาๆผ่านไปสบายๆ เมื่อรู้มุมกล้องกันดีแล้วก็ถ่ายจริงทันทีแอนดรูว์ อุ้ม แนท เดินตัวปลิวมาที่เตียง พอวางลงก็เริ่มหื่นทีเดียว ก้มลงไปหอมแล้วก็ค่อยๆซุกไซ้ ดีนะที่ แนท นอนหลับตาอยู่ ถ้าเห็นหน้า แอนดรูว์ ตอนนี้คงเลิกเล่นไปละ ซีนถัดมา แนท ตื่นขึ้นมาบนเตียงเสื้อผ้าถูกถอด แอนดรูว์ นอนยิ้มอยู่ข้างๆก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จึงร้องไห้น้ำตาไหลสั่งได้จริงๆตามชมฉากนี้ได้ คืนนี้ 20.30 น. ช่อง 7.
ริจะเอาดีทางร้ายก็ต้องเลวให้สุด ดูอย่าง แอนดรูว์-กรเศก ในละครเรื่อง ปีกหงส์ ของค่ายดีด้า ที่เกลียดพระเอกมาก ถึงขั้นลงมือลวงคู่หมั้นของพระเอกมาข่มขืนเพื่อความสะใจ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ปีกหงส์,แนท ณัฐชา,แอนดรูว์ กรเศก,ละครช่อง 7,ช่อง 7,นิยาย,ข่าววันนี้,ละคร
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1860634
[ 0, 259, 150508, 6088, 49825, 136517, 259, 62549, 150337, 93715, 37861, 131735, 3755, 22398, 8007, 259, 146177, 5095, 259, 5269 ]
ลุ้นสินเชื่อขยายตัว 9% ธสน.โดดอุ้มเอสเอ็มอีส่งออกซีแอลเอ็มวี
นายพิศิษฐ์ เสรีวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้น 9% ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปี 2561 ยอดสินเชื่อคงค้างแตะ 100,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2560 ที่มียอดสินเชื่อ 91,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,114 ล้านบาท เป็นสินเชื่อใหม่ 47,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 4-5% โดยวางเป้าหมายนำผู้ประกอบการไทยรุกขยายการค้าการลงทุนในตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ด้านพลังงาน สาธารณูปโภค การบริการและการก่อสร้าง,สินเชื่อที่ธนาคารปล่อยกู้มียอดคงค้างใน CLMV ปี 2560 ประมาณ 27,895 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ซึ่งมีแผนเปิดสำนักงานตัวแทนใน สปป.ลาวและกัมพูชาเพิ่ม หลังจากเปิดสำนักงานตัวแทนในเมียนมาไปแล้วในปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าปี 2561 สินเชื่อใน CLMV ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% โดยเฉพาะใน สปป.ลาวและเมียนมา ซึ่งธนาคารยังสนับสนุน,ผู้ประกอบการไทยลงทุนตลาดใหม่ด้วย เช่น เอเชียใต้ อินเดีย,นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยพัฒนาบริการใหม่ สินเชื่อส่งออกสุขใจ พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสูงสุด 500,000 บาท ดอกเบี้ยพิเศษ 4.50% ต่อปี เป้าหมายอนุมัติวงเงินแก่ผู้ส่งออกเอสเอ็มอีรายใหม่ 750 รายในปีนี้ พร้อมดูแลสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 3.57%.
นายพิศิษฐ์ เสรีวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้น 9% ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปี 2561 ยอดสินเชื่อคงค้างแตะ 100,000 ล้านบาท
ข่าว,เศรษฐกิจ
การส่งออก,สินเชื่อ,ธสน.,เอสเอ็มอี,การลงทุน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1199610
[ 0, 259, 193934, 48429, 216721, 3755, 96422, 8007, 1881, 188964, 112517, 103347, 12245, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ฟื้นเขื่อนทะเลสาบสงขลาแก้วิกฤตินากุ้ง
สงขลา-24 มี.ค.48นายบัญชา สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยระบบเกษตรทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการจัดรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการนากุ้งและผู้ได้รับผลกระทบ : กรณีจัดระเบียบนากุ้งในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการรับฟังความคิดเห็นฯ อยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขร่างรายงานฉบับสมบูรณ์ คาดว่าจะส่งมอบได้ภายในเดือนเมษายน 2548 นายบัญชา เปิดเผยต่อไปว่า ข้อมูลจากการศึกษาพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลากำลังวิกฤตอย่างหนัก จากหลายสาเหตุโดยเฉพาะน้ำทิ้งจากอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่นากุ้งเองก็มีส่วนสำคัญในการสร้างปัญหาด้วย โดยทางโครงการฯ ได้ศึกษาพื้นที่การเพาะเลี้ยงกุ้งหนาแน่นในเขตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ประกอบด้วย อำเภอเมืองสงขลา อำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอระโนด อำเภอหาดใหญ่ อำเภอบางกล่ำ อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง นายบัญชา เปิดเผยกระบวนการทำงานว่า นอกจากเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์แล้ว ยังเน้นการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เวทีย่อยที่ลงลึกถึงปัญหาและเทคนิคต่างๆ การสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้เข้าร่วมล้วนเป็นผู้ประกอบการนากุ้ง ผู้ได้รับผลกระทบ และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับการทำนากุ้งรวม 17 เวที มีผู้เข้าร่วม 2286 คน ผลการศึกษาสรุปออกมาเป็นยุทธศาสตร์การแก้ปัญหานากุ้ง ในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ประกอบด้วย โครงการที่ควรได้รับการผลักดันทั้งสิ้น 123 โครงการ วงเงินประมาณการ 3699.5 ล้านบาท ตัวเลขนี้ได้จากชาวบ้านที่เข้าร่วม หากจะทำโครงการเหล่านี้จริงๆ จะต้องศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง นายบัญชากล่าว นายบัญชา เปิดเผยว่า โครงการศึกษาชิ้นนี้ฯ ตนได้รับการว่าจ้างจากคณะอนุกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและประชาสัมพันธ์ ในคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเป็นเงิน 2 ล้านบาท ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2548 ตอนนี้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและประชาสัมพันธ์ ได้ผ่านร่างแผนและโครงการพัฒนาที่นำเสนอแล้ว รอเพียงคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาประชุมรับทราบอีกครั้ง ก็สิ้นสุดโครงการ เป็นที่น่าสังเกตว่า แผนและโครงการตามยุทธศาสตร์การแก้ปัญหานากุ้งที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้ มีโครงการเขื่อนกั้นทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นโครงการที่มีการคัดค้านกันมาตลอดกว่าสิบปีรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ โครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่อำเภอระโนดถึง 28 โครงการ วงเงินสูงถึง 3508.4 ล้านบาท ตามด้วยอำเภอควนเนียง 8 โครงการ วงเงิน 80.9 ล้านบาท อำเภอกระแสสินธุ์ 24 โครงการ วงเงิน 50.1 ล้านบาท อำเภอหาดใหญ่ 7 โครงการ วงเงิน 27.5 ล้านบาท อำเภอบางแก้ว 5 โครงการ วงเงิน 18 ล้านบาท อำเภอสิงหนคร 7 โครงการ วงเงิน 15.7 ล้านบาท อำเภอสทิงพระ 13 โครงการ วงเงิน 15.5 ล้านบาท อำเภอปากพะยูน 24 โครงการ วงเงิน 10.2 ล้านบาท อำเภอเมืองสงขลา 3 โครงการ วงเงิน 7 ล้านบาท และอำเภอบางกล่ำ 3 โครงการ วงเงิน 1.2 ล้านบาท
สงขลา-24 มี.ค.48 นายบัญชา สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยระบบเกษตรทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2005/03/3324
[ 0, 259, 38860, 15334, 76464, 87177, 26036, 259, 11103, 50427, 105006, 72338, 138562, 80568, 2091, 38860, 50018, 1, 0, 0 ]
จาตุรนต์ ฉายแสง : ซีดีศอฉ.กับการปรองดอง
ผมมีโอกาสดู CD ที่ ศอฉ.ผลิตขึ้นเพื่อจะใช้เผยแพร่ชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาและการดำเนินงานของ ศอฉ.แล้ว รู้สึกน่าเศร้าใจและน่าเป็นห่วงเพราะเมื่อดู CD ชิ้นนี้แล้ว เนื้อหาที่ปรากฏในCD นี้บิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างร้ายกาจแบบสุดๆ เลยทีเดียวCD นี้ พยายามอธิบายว่าสิ่งที่รัฐบาลและศอฉ.ได้ทำไปนั้นดีเลิศประเสริฐศรีเพียงใด ส่วนการเคลื่อนไหวชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้นชั่วช้าสามานย์ สมควรที่จะถูกทำลายล้างให้สิ้นซากไปภายใต้การใช้พรก.ฉุกเฉินที่ใช้อยู่ในขณะนี้ ศอฉ.สามารถใช้อำนาจตามพรก. ปิดสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เว็บไซด์ต่างๆและสื่ออื่นทุกชนิด ทั้งยังสามารถจับกุมคุมขัง ดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีเนื้อหาอันไม่เป็นที่พึงปรารถนาของศอฉ. ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อเท็จจริงหรือการแสดงความเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาล ด้วยข้ออ้างว่า เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นการบิดเบือนความเป็นจริง สร้างความแตกแยกให้กับผู้คนในสังคม รวมทั้งการโกหก ใส่ร้าย และจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางปฏิบัติ ศอฉ. ปิดสื่อต่างๆ โดยพลการและไม่ได้ดำเนินคดีใดๆ ซึ่งสะท้อนความจริงว่าสื่อเหล่านั้นอาจไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ที่ถูกปิดก็เพราะเป็นสื่อของฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลเท่านั้น จากการใช้อำนาจตามพรก.ฉุกเฉินดังกล่าว จึงอาจพูดได้ว่าในเรื่องของการให้ข้อมูลข่าวสารแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชนนั้น คนเสื้อแดงและประชาชนผู้ที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐบาล ถูกรัฐบาลและศอฉ.มัดมือชกอยู่ฝ่ายเดียวรัฐบาลและศอฉ.ได้ใช้สื่อของรัฐเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร บิดเบือนข้อเท็จจริงปลุกระดมให้สังคมเกลียดชังประชาชนผู้ชุมนุม สร้างความชอบธรรมให้กับการใช้กำลังทหารเข้าปราบประชาชนอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือน จนกระทั่งหลายฝ่ายต่างเห็นว่าการใช้สื่อของรัฐบาลปลุกระดมอยู่ฝ่ายเดียวอย่างนี้ มีแต่จะสร้างความแตกแยกในสังคมให้ลึกซึ้งรุนแรงยิ่งขึ้นแต่ในขณะที่นายกฯ อภิสิทธิ์ เดินสายพบผู้บริหารหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปสื่อ พร้อมทั้งอวดอ้างว่ารัฐบาลกำลังเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายค้านหรือฝ่ายที่แตกต่างมาใช้สื่อของรัฐได้บ้างศอฉ.กลับกำลังจะเผยแพร่ CD ที่บิดเบือน ปลุกระดมอย่างเลวร้ายที่สุดจนทำให้ต้องตั้งคำถามว่ารัฐบาลมีความจริงใจแค่ไหนที่จะทำให้สื่อของรัฐเป็นกลางมากขึ้นรัฐบาลมีความจริงใจแค่ไหนที่จะปรองดอง หรือรัฐบาลกำลังพูดอย่างทำอย่างในเรื่องนี้เหมือนกับที่พูดอย่างทำอย่างในอีกหลายๆเรื่องอยากเสนอให้รัฐบาลล้มเลิกความคิดที่จะเผยแพร่ CD บิดเบือน ปลุกระดม ชุดนี้เสียการสั่งปราบปรามประชาชน การทำให้คนบาดเจ็บ ล้มตายอย่างที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้นเป็นอาชญากรรมการใช้สื่อรูปแบบต่างๆ บิดเบือนความจริงเพื่อปลุกระดม สร้างความชอบธรรมให้กับการปราบประชาชน เพียงหวังเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากการเป็นอาชญากรผู้เข่นฆ่าประชาชนนั้น นอกจากจะไม่อาจช่วยให้พ้นความผิดได้แล้ว ยังจะเพิ่มความผิดร้ายแรงขึ้นอีกข้อหนึ่งคือ การปลุกปั่นให้คนในชาติเกลียดชังกัน ฆ่าฟันกัน ซึ่งก็คือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่นานาประเทศเขาไม่ยอมรับด้วย
ผมมีโอกาสดู CD ที่ ศอฉ.ผลิตขึ้นเพื่อจะใช้เผยแพร่ชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาและการดำเนินงานของ ศอฉ.แล้ว รู้สึกน่าเศร้าใจและน่าเป็นห่วงเพราะเมื่อดู CD ชิ้นนี้แล้ว
การเมือง
จาตุรนต์ ฉายแสง,ซีดี ศอฉ.,ปฏิรูปสื่อ,แผนการปรองดองแห่งชาติ
https://prachatai.com/journal/2010/08/30590
[ 0, 259, 17958, 11740, 74367, 260, 12066, 147287, 16053, 56705, 5405, 260, 259, 50405, 88450, 1881, 89153, 2091, 88450, 46190 ]
หมายเหตุประเพทไทย #175 หอชมเมือง-บ้านเขาบ้านเรา
หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ชวนเปรียบเทียบหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร กับหอชมเมืองแห่งสำคัญในโลกทั้งหอไอเฟล โตเกียวทาวเวอร์ ฯลฯ ที่เสมือนการประกาศความเป็นมหาอำนาจและความทันสมัย นอกจากนี้ยังพ้องกับคติสมัยโบราณกาลของโลกตะวันตกที่มองการสร้างหอสูงว่าเป็นสิ่งท้าทายพระเจ้า อย่างเช่นตำนานหอบาเบลในคัมภีร์ไบเบิลส่วนกรณีของหอชมเมืองกรุงเทพมหานครไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่เป็นจุดหมายตาแห่งใหม่เท่านั้น หากยังสะท้อนความเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของเมืองที่มาพร้อมกับภูมิทัศน์ทางสังคม-การเมืองในประเทศไทยที่มีความเปลี่ยนแปลงในรอบทศวรรษนี้ เช่นเดียวกับการเกิดขึ้นของ สัปปายะสภาสถาน อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งอุทยานราชภักดิ์ นอกจากนี้เมื่อพิจารณาการใช้สอย-การพัฒนาพื้นที่รอบๆ หอชมเมือง ก็ยังสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างทุนเก่า-ทุนใหม่ ภายใต้รัฐบาล คสช. อีกด้วย ทั้งหมดนี้ติดตามได้ในหมายเหตุประเพทไทย ตอน หอชมเมือง-บ้านเขาบ้านเรา พบกับเจนวิทย์ เชื้อสาวะถี และศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ
หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ชวนเปรียบเทียบหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร กับหอชมเมืองแห่งสำคัญในโลกทั้งหอไอเฟล โตเกียวทาวเวอร์ ฯลฯ ที่เสมือนการประกาศความเป็นมหาอำนาจและความทันสมัย
วัฒนธรรม
ผังเมือง,มัลติมีเดีย,สัปปายะสภาสถาน,หมายเหตุประเพทไทย,หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร,หอไอเฟล,แม่น้ำเจ้าพระยา,แลนด์มาร์ก
https://prachatai.com/journal/2017/09/73269
[ 0, 259, 124476, 50175, 24633, 111284, 259, 204229, 124319, 59270, 147287, 2091, 224194, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
นิธิ เอียวศรีวงศ์ : เปลี่ยนประเทศไทย ด้วยการรับจำนำข้าว
ผมไม่มีความเห็นอะไรเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวด้วยราคาสูงของรัฐบาลมานาน เพราะยอมรับว่ายังไม่สู้เข้าใจผลกระทบถ่องแท้นัก จึงได้สดับตรับฟังและตามอ่านความเห็นของคนอื่นตลอดมาบัดนี้ ผมคิดว่าผมพอจะบรรลุความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วผู้ที่คัดค้านเห็นว่าโครงการนี้มีปัญหามาก และปัญหาเหล่านั้นก็เริ่มปรากฏให้เห็นบ้างแล้ว ผมขอแบ่งปัญหาที่กล่าวถึงออกเป็นสองอย่าง คือปัญหาเชิงหลักการกับปัญหาเชิงปฏิบัติในด้านหลักการ ราคาที่รับจำนำนั้นเห็นว่าสูงเกินความเป็นจริง หรือเกินขีดความสามารถของรัฐบาลไทย (ทุกชุด) จะจัดการได้ เริ่มตั้งแต่ไม่มีทางระบายข้าวออกไปได้ เพราะราคาที่รับซื้อสูงเกินราคาตลาดโลกมาก นอกจากยอมระบายออกในราคาที่ขาดทุน เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ยิ่งกว่านี้บางคนยังบอกว่า มีส่วนดึงราคาข้าวภายในประเทศให้สูงขึ้นด้วย ซึ่งจะทำความเดือดร้อนแก่คนชั้นกลางระดับล่างในเขตเมือง แต่จนถึงทุกวันนี้ ผลกระทบด้านนี้ยังไม่ปรากฏให้เห็น ค่าครองชีพที่สูงขึ้นนั้นมีส่วนจากราคาข้าวน้อยมากผลกระทบต่อไปก็คือ ชาวนาย่อมจะลงทุนปลูกข้าวมากขึ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนข้าวที่ไหลเข้าสู่โครงการเพิ่มขึ้นด้วย การขยายการปลูกข้าวเพราะแรงกระตุ้นของโครงการ จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น ราคาปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ตลอดจนราคาเช่าที่ดิน ค่าขนส่ง แรงงาน ฯลฯ บางส่วนของต้นทุนการผลิตก็มีราคาสูงขึ้นจริงในฤดูการผลิตใหม่นี้ เช่น ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง และค่าเช่าที่ดิน เป็นต้น แต่ก็น่าจะเป็นการขึ้นราคาชั่วคราว ในช่วงที่อุปสงค์และอุปทานไม่สมดุลกันเท่านั้นดังนั้น ผู้คัดค้านโครงการจึงเสนอว่า สิ่งที่รัฐบาลน่าจะทำในการช่วยชาวนามากกว่า คือการพัฒนาการเกษตรในเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่รับจำนำผลผลิตด้วยราคาสูง เช่น ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ฯลฯ เป็นต้นปัญหาในด้านเชิงปฏิบัติ ผู้คัดค้านเห็นว่าโครงการนี้ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือชาวนากลางขึ้นไป กับโรงสี ส่วนชาวนาเล็กที่ ยากจน (คำนี้มีปัญหาในตัวของมันเองมากนะครับ) เงินไม่ตกถึงมือ เท่าที่ผมทราบ ความเห็นนี้ไม่ได้มาจากการวิจัย แต่เป็นการประมาณเท่านั้น เพราะในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับในตัวเลขว่าทั้งมอเตอร์ไซค์ รถปิกอัพ และวัสดุก่อสร้างขายดีขึ้นในเขตชนบท ซึ่งตลาดของชาวนากลางอย่างเดียวไม่เพียงพอจะอธิบายได้ อีกทั้งความกระตือรือร้นของชาวนาที่จะขยายการเพาะปลูก ก็แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่า ชาวนาจำนวนมาก (ทั้งกลางและเล็ก) ตอบสนองต่อโครงการด้วยความยินดีในส่วนโรงสีได้กำไรนั้น ผมยังมองไม่เห็นว่าจะได้อย่างไร นอกจากยอมรับซื้อข้าวในราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ไม่พูดถึงการทุจริตเช่นสวมสิทธิจำนำข้าวและอื่นๆ นะครับ ที่พอจะมองเห็นกำไรแน่ๆ ก็คือรับสีข้าวที่รัฐบาลรับจำนำไว้ตันละ 500 บาท ซึ่งก็ไม่ใช่ราคาที่สูงกว่าปกติ แต่มีข้อได้เปรียบคือมีข้าวป้อนให้สีได้มั่นคงขึ้น โดยตัวเองไม่ต้องเสี่ยงทางธุรกิจคือรับซื้อเท่านั้นอีกข้อหนึ่งที่พูดกันมากคือการทุจริตทั้งของชาวนาเอง (ขายส่วนต่างของสิทธิการจำนำข้าว) นายทุนผู้รับซื้อส่วนต่างนี้ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทั้งขององค์กรของรัฐและบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ เรื่องนี้จริงแน่นอนโดยไม่ต้องทำวิจัยเลยก็ได้ โครงการใช้เงินเป็นแสนล้านโดยไม่มีการโกงเลย จะเกิดขึ้นได้ที่ไหนในโลกล่ะครับ แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ โกงมากกว่าโครงการจำนำข้าวที่ผ่านมาหรือโครงการประกันราคามากน้อยแค่ไหน และโกงได้อย่างไรหรือมีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง และควรอุดอย่างไร น่าเสียดายที่ไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการคัดค้านยังมีเสียงคัดค้านเชิงอุดมการณ์จากจุดยืนจารีตนิยม ที่รังเกียจรัฐสวัสดิการทุกรูปแบบ เพราะเชื่อว่าจะทำให้คนขี้เกียจไม่รับผิดชอบและไม่ทำหน้าที่ของตนเอง คอยแต่จะแบมือรับความช่วยเหลือจากรัฐตลอดไป ข้อนี้ผมจะไม่พูดถึงล่ะครับ เพราะน่าสงสารเกินไปแม้เสียงคัดค้านเหล่านี้มีส่วนจริงหรือมีส่วนเป็นไปได้บางเรื่อง แต่เป็นการมองโครงการในแง่ความเป็นไปได้ทางการตลาดเท่านั้น ผมคิดว่ารัฐบาลต้องชัด (กว่านี้) ว่าโครงการรับจำนำข้าวด้วยราคาสูงคือการปฏิรูปสังคม ไม่ใช่โครงการรับจำนำข้าวอย่างที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายเพียงช่วยพยุงราคาข้าวของชาวนาให้ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลกมากขึ้น และต้องไม่ขาดทุนตรงกันข้ามเลยครับ รัฐบาลตั้งใจจะขาดทุนมาแต่ต้น และด้วยเหตุดังนั้น จึงต้องวางแผนการระบายข้าวให้ดีโดยไม่ต้องนั่งรอราคาสูงสุดอย่างเดียว แต่จะระบายไปตามจังหวะเพื่อรักษาตลาดข้าวของไทยด้วยและเพื่อให้การระบายข้าวทั้งหมดที่รับจำนำมานั้นขาดทุนน้อยที่สุด ในขณะเดียวกันก็ลงทุนเพิ่มมูลค่า เช่น การแพคเกจจิ้ง ไปจนถึงผ่านกระบวนการรักษาคุณภาพให้คงทน เป็นต้น เท่ากับโครงการรับจำนำช่วยเปิดตลาดข้าวระดับสูงไปพร้อมกัน (แน่นอนโดยร่วมมือกับผู้ส่งออกเอกชน)จะขาดทุนบักโกรกแค่ไหน ผมไม่ทราบ แต่มีนักเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งประมาณว่าไม่น่าจะเกิน 50000 ล้านบาท ซึ่งยังน้อยกว่าเงินที่รัฐบาลต้องจ่ายออกไปในการประกันราคา (ซึ่งรั่วไหลมากกว่าเสียอีก) แต่ตัวเลขนี้จะเชื่อได้แค่ไหนผมไม่ทราบสมมุติว่านักเศรษฐศาสตร์ประเมินต่ำไป 100% ก็ขาดทุนแค่ 100000 ล้านบาท เงิน 100000 ล้านจากงบประมาณแผ่นดินหลายล้านล้านบาท เพื่อช่วยชาวนาซึ่งมีจำนวนประมาณ 40% ของประเทศ จะเป็นไรไปเล่าครับ ปัญหามาอยู่ที่ว่าช่วยแล้วได้ผลอะไรและอย่างไรต่างหาก เช่น หากชาวนามั่นใจว่ารายได้ของตนจะสูงขึ้น เขาเอาไปลงทุนในอะไรอีกบ้างที่จะให้ผลดีแก่เขาในระยะยาวส่วนการที่จำนวนหนึ่งนำไปซื้อมอเตอร์ไซค์และปิกอัพหรือต่อเติมบ้านเรือนนั้น อย่าได้คิดว่าเขาเอาเงินที่ได้มาไปใช้ในทางฟุ่มเฟือยเป็นอันขาด เพราะทั้งสามอย่างนี้เป็นการลงทุนทางธุรกิจไปพร้อมกับการเลื่อนสถานภาพทางสังคมเรื่องนี้ต้องเข้าใจชีวิตของชาวนาไทยให้ดีชาวนา ที่ทำนาขนาดเล็กด้วยกำลังครอบ ครัวของตนเพื่อยังชีพนั้น ปัจจุบันแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว ส่วนใหญ่ของรายได้ของครอบครัวชาวนามาจากงานนอกภาคการเกษตร และเป็นเช่นนี้มาหลายสิบปีแล้วด้วย ฉะนั้นรายได้ของครอบครัวชาวนาจึงสูงขึ้น แต่ไม่ใช่จากการทำนาหากมาจากการรับจ้างหลากหลายประเภท แม้กระนั้นการทำนาก็ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญแก่คนอีกมาก ในขณะที่หลุดออกไปจากภาคเกษตรโดยสิ้นเชิงก็มีจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน ฉะนั้นถ้าถือเส้นความยากจนตามที่สำนักงานสถิติใช้ในการหาข้อมูล ชาวนาส่วนใหญ่ไม่ใช่คนจนการที่ชาวนาหลุดออกไปเป็นแรงงานประเภทต่างๆ นั้น เป็นปรากฏการณ์ปกติที่เกิดขึ้นในการพัฒนาของทุกประเทศ แต่ไทยมีปัญหาเฉพาะก็คือ อัตราการเปลี่ยนอาชีพของชาวนาไทยเกิดขึ้นช้ามาก จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีคนที่ทำนา (หรือเกษตรอย่างอื่น) ตกค้างอยู่ถึงเกือบ 40% ของประชากร แม้ว่ารายได้ส่วนใหญ่ของเขาไม่ได้มาจากภาคเกษตรก็ตามรถปิกอัพ บ้านเรือน และมอเตอร์ไซค์ มีส่วนในการทำให้รายได้นอกภาคเกษตรของเขาเพิ่มขึ้น (เช่น มีมอเตอร์ไซค์ก็ทำให้หางานจ้างได้กว้างขึ้นกว่าจักรยานหรือเดินเท้า) การไปซื้อสินค้าเหล่านี้เมื่อมั่นใจว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต จึงเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งเป็นไปได้หรือไม่ว่า หากเขามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาวแล้ว ชาวนาจะหันไปทำอาชีพอื่นๆ มากกว่าทำนา เพราะราคาจำนำ 15000 บาทต่อข้าวหนึ่งตันนั้น ใช่ว่าจะทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นมากนัก หากเปรียบกับการมีงานจ้างประจำทั้งปี หรือมีโอกาสค้าขายอย่างเป็นกอบเป็นกำมากขึ้น โครงการรับจำนำข้าวจึงอาจเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่จะทำให้ชาวนาจำนวนหนึ่งหันไปสู่อาชีพอื่น ในขณะที่ผู้ยังอยู่ในอาชีพทำนา ก็จะมีโอกาสพัฒนาผลิตภาพของตนเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้นในกระบวนการนี้ เขาจะลงทุนกับการศึกษาของลูกหลานเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หลังจากจบ ม.3 ซึ่งทำให้หางานโรงงานทำได้นั้น เขาจะส่งลูกหลานเรียนต่อไปหรือไม่ อันนี้ผมเดาไม่ถูก แต่ก็เชื่อว่าอย่างน้อยจำนวนหนึ่งก็น่าจะลงทุนด้านการศึกษาต่อไป เพราะไม่มีแรงบีบให้ต้องเอาลูกออกไปทำงานโรงงาน และถ้าเป็นอย่างนั้นในจำนวนคนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวนาในเวลานี้ ย่อมหมายความว่า โครงการรับจำนำนี้ช่วยเปิดช่องทางที่ชาวนาจะได้รับผลพวงของการพัฒนาเต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้นอันที่จริง การที่รัฐบาลประเทศพัฒนาแล้ว ทุ่มงบประมาณลงไปสนับสนุน หรือออกกฎหมายปกป้องคนในอาชีพเกษตรนั้นเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ในสหรัฐ ยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แต่ประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งไม่ใช่ชาวนาไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร กลับสนับสนุนนโยบายเช่นนี้ด้วยซ้ำ เหตุใดนโยบายทำนองเดียวกันจึงถูกคนชั้นกลางและชนชั้นนำไทยคัดค้านอย่างหนักส่วนหนึ่งของคำตอบก็คือ ในประเทศพัฒนาแล้ว ชาวนาหรือเกษตรกรมีจำนวนน้อยมาก เฉลี่ยประมาณ 4-8% ของประชากร คนทั่วไปจึงไม่รู้สึกถึงผลกระทบของนโยบาย แต่คนถึง 40% ที่คอยความช่วยเหลือในเมืองไทย มีจำนวนมากกว่ากันมาก ความช่วยเหลือใดๆ ที่จะบังเกิดผลแก่เขาจริง ต้องมีสัดส่วนพอสมควรในทรัพย์สาธารณะเป็นธรรมดา คนไทยชั้นกลางขึ้นไปจึงอ่อนไหวต่อการช่วยชาวนามากเป็นพิเศษ มองนโยบายเหล่านี้ด้วยความระแวงแต่เหตุผลที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการเมืองในทางตรงกันข้าม ชาวนาไทยไม่มีประสบการณ์ในการรวมกลุ่มเพื่อต่อรองทางการเมืองมากนัก (เมื่อเปรียบเทียบกับเกษตรกรในประเทศพัฒนาแล้วทั่วไป) อันที่จริงชาวนาไทยถูก ปราบปราม อย่างเหี้ยมโหดและเด็ดขาดเสียยิ่งกว่าความเคลื่อนไหวของกรรมกรเสียอีก หากเขาพยายามรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ของเขาในนโยบายสาธารณะจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม โครงการรับจำนำข้าวในราคาสูงของรัฐบาล ย่อมมีส่วนช่วยสร้างความเข้มแข็งทางการเมืองให้แก่ชาวนาด้วย หากทำต่อเนื่องไปอีกสักสองสามปี จะไม่มีรัฐบาลใดกล้าเลิกโครงการนี้เป็นอันขาดแม้ว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว (ตามทรรศนะของผม) แต่รัฐบาลต้องยินดีและน้อมรับฟังคำวิจารณ์ของทุกฝ่าย ส่วนหนึ่งของคำวิจารณ์นั้นอาจมาจากแรงจูงใจที่ไม่ดีทางการเมือง แต่รัฐบาลอย่าไปสนใจแรงจูงใจดีกว่า หากควรฟังและทบทวนโครงการอยู่ตลอดเวลา แก้ไขปรับเปลี่ยนอย่าให้เกิดรูรั่ว แต่ก็ต้องชัดเจนในด้านเป้าหมายของโครงการ ทั้งแก่ตนเองและประชาชน
ผมไม่มีความเห็นอะไรเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวด้วยราคาสูงของรัฐบาลมานาน เพราะยอมรับว่ายังไม่สู้เข้าใจผลกระทบถ่องแท้นัก จึงได้สดับตรับฟังและตามอ่านความเห็นของคนอื่นตลอดมา บัดนี้
การเมือง
จำนำข้าว,นิธิ เอียวศรีวงศ์
https://prachatai.com/journal/2012/11/43483
[ 0, 259, 38860, 15334, 67279, 27605, 67641, 11339, 175577, 29443, 208731, 130656, 227125, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ม.เที่ยงคืน ออกแถลงการณ์กรณี อากง ย้ำแก้ ม.112 ปกป้องผู้บริสุทธิ์จากกฎหมาย
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์ ระบุการใช้กฎหมายมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา กับกรณี อากง ส่งผลให้คนจำนวนมากในสังคมรู้สึกอึดอัดและไม่พอใจเพราะผลการวินิจฉัยนั้น ขัดแย้งกับสามัญสำนึกแห่งความยุติธรรม ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อเนื่องไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่ ควรจะเกิดขึ้น(1 ธ.ค.54) ออก แถลงการณ์ ระบุการใช้กฎหมายมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา กับกรณี อากง ส่งผลให้คนจำนวนมากในสังคมรู้สึกอึดอัดและไม่พอใจเพราะผลการวินิจฉัยนั้นขัด แย้งกับสามัญสำนึกแห่งความยุติธรรม ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อเนื่องไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่ ควรจะเกิดขึ้น พร้อมเสนอหากไม่ต้องการเปิดโอกาสให้มีการใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือทำร้าย ผู้คนเช่นที่ผ่านมา จำเป็นต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เพื่อป้องกันผู้บริสุทธิ์จากการรังแกของกฎหมาย และปกป้องเสรีภาพในการแสดงความเห็นในสังคมประชาธิปไตยในห้วงเวลาที่ความขัดแย้งในการเมืองไทยมีความรุนแรงมากขึ้น กฎหมายมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเด ชานุภาพ ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการใส่ร้ายป้ายสีบรรดาผู้คนที่ยืนอยู่ในฝ่ายตรง กันข้าม ซึ่งนำไปสู่การลงโทษอย่างรุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง อันมีผลทำให้ความขัดแย้งยิ่งบานปลายออกไปมากขึ้นโดยที่กฎหมายนี้มีปัญหาและข้อบกพร่องปรากฏอยู่อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะทั้งในด้านของเนื้อหาสาระของกฎหมายและกระบวนการในการดำเนินคดีดัง กล่าวนี้ในด้านของเนื้อหา จะพบว่าในแง่ของการริเริ่มคดีที่เปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้สามารถที่จะริ เริ่มคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันนำมาซึ่งการกล่าวโทษกันอย่างง่ายดายและกว้างขวาง บทลงโทษของการกระทำความผิดฐานนี้ซึ่งเป็นการแสดงออกประเภทหนึ่งแต่มีโทษจำ คุกรุนแรงถึง 15 ปีในด้านของกระบวนการ จะพบว่านับตั้งแต่ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องหาจะพบกับความยุ่งยากในการประกันตัว และชั้นพิจารณาคดีก็จะต้องเผชิญกับความยุ่งยากในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่มักถูกให้เหตุผลก็คือเป็นคดีที่มีโทษ รุนแรงหรือเป็นคดีที่กระทบต่อสถาบัน และด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงมักจะทำให้การวินิจฉัยคดีอยู่ภายใต้แรงกดดัน หรือความเชื่อซึ่งอาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ละเลยหรือตีความที่ละเมิดต่อ สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยด้วยปัญหาที่กล่าวมาจึงทำให้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่ใช่เพียง เครื่องมือใส่ร้ายป้ายสีระหว่างฝักฝ่ายต่างๆ ในทางการเมืองเท่านั้น หากยังขยายรวมออกไปถึงประชาชนอีกเป็นจำนวนไม่น้อยที่ต้องได้รับโทษจากกฎหมาย นี้อย่างไม่เป็นธรรม กรณีคำวินิจฉัยใน คดีอากง เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของกฎหมายหมิ่นพระบรมเด ชานุภาพที่กระทำต่อประชาชนได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดการใช้กฎหมายนี้อย่างฟุ่มเฟือยโดยมีวาระทางการเมืองแอบแฝง และหากเปรียบเทียบกับการลงโทษที่เกิดขึ้นในหลายคดีที่แม้เป็นการฆาตกรรมต่อ ชีวิตของบุคคลอื่นก็ยังไม่ได้รับโทษเทียบเท่ากับกรณีนี้ ย่อมสะท้อนให้เห็นบทลงโทษที่รุนแรงและไม่สอดคล้องกับการกระทำที่ได้บังเกิด ขึ้นการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับกรณี อากง ส่งผลให้คนจำนวนมากในสังคมรู้สึกอึดอัดและไม่พอใจเพราะผลการวินิจฉัยนั้นขัด แย้งกับสามัญสำนึกแห่งความยุติธรรม ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อเนื่องไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่ ควรจะเกิดขึ้นมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีความเห็นว่าหากไม่ต้องการที่จะเปิดโอกาสให้การใช้ กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายผู้คนดังเช่นที่ได้เกิดขึ้นมา จำเป็นที่จะต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงการป้องกันผู้บริสุทธิ์จากการรังแกของกฎหมายเพียงอย่าง เดียว หากจะเป็นการปกป้องเสรีภาพในการแสดงความเห็นในสังคมประชาธิปไตยให้มีความ เข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น 1 ธันวาคม 2554
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์ ระบุการใช้กฎหมายมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา กับกรณี อากง ส่งผลให้คนจำนวนมากในสังคมรู้สึกอึดอัดและไม่พอใจเพราะผลการวินิจฉัยนั้น
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112,มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน,อากง,อากง SMS,อำพล
https://prachatai.com/journal/2011/12/38119
[ 0, 259, 70838, 188318, 18479, 259, 1881, 45173, 226113, 70838, 44628, 112202, 259, 4395, 101103, 143399, 5405, 5095, 259, 208018 ]
คู่รักจีน วีนแตก บนแอร์เอเชีย สาดน้ำร้อน จนต้องบินกลับดอนเมือง
แอร์เอเชีย เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-นานกิงเจอเหตุการณ์โกลาหล สองชายหญิง คู่รักชาวจีน วีนแตก แบบสุดๆ บนเครื่อง ถึงขั้นฝ่ายหญิงใช้น้ำร้อนที่ขอมากินมาม่า สาดใส่แอร์ ส่วนฝ่ายชายจีนขู่จะระเบิดเครื่องบิน จนนักบินต้องนำเครื่องกลับมาลงจอดที่ดอนเมือง และแจ้งตำรวจมาจับกุม,สำนักข่าวหนานฟางในประเทศจีน รายงานเกิดเหตุการณ์โกลาหลวุ่นวายขึ้นบนเครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ เอเชีย เที่ยวบิน 9101 จากกรุงเทพฯ-เมืองนานกิง ประเทศจีน เมื่อที่ 12 ธ.ค. เมื่อมีผู้โดยสารชายหญิงชาวจีนสองคน ซึ่งเป็นคู่รักกันเกิดอาการโวยวาย จนถึงขั้น วีนแตก ใช้น้ำร้อนสาดใส่แอร์โฮสเตส จากนั้น ฝ่ายชายขู่จะระเบิดเครื่องบิน ส่วนฝ่ายหญิงขู่จะฆ่าตัวตาย จนทำให้นักบินต้องตัดสินใจนำเครื่องบินบินกลับมาลงจอดที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ เพื่อให้ชาวจีนทั้งสองได้สงบสติอารมณ์,จากการเปิดเผยของพยานหลายคนที่เดินทางมากับเที่ยวบินนี้ เล่าว่า ชาวจีนทั้งสองคน เริ่มส่งเสียงดังโวยวายตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินมาแล้ว ด้วยความไม่พอใจที่ทั้งคู่ไม่ได้ที่นั่งบนเครื่องบินติดกัน อีกทั้งยังต้องแยกไม่ได้นั่งรวมกับคนอื่นๆ ในกรุ๊ปทัวร์เดียวกันด้วย จึงทำให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการจัดหาที่นั่งให้ทั้งสองนั่งติดกันได้ในที่สุด เพียงแต่ชาวจีนทั้งสองก็ยังคงบ่นเสียงดังเอะอะโวยวายไม่เลิก,ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากเครื่องบินทะยานออกจากสนามบินดอนเมืองมาแล้ว ปรากฏว่า ฝ่ายหญิงต้องการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จึงได้ขอน้ำร้อนจากแอร์โฮสเตส แต่แล้วเมื่อเธอได้รับน้ำร้อนมา กลับก่อเรื่องที่คาดไม่ถึง ด้วยการสาดน้ำร้อนใส่แอร์โฮสเตสหญิง จนทำให้เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย และระหว่างนั้น ฝ่ายชายกลับขู่จะระเบิดเครื่องบิน ส่วนหญิงคนนี้ก็ขู่จะฆ่าตัวตาย จึงทำให้ผู้โดยสารอื่นๆ ทนไม่ไหว เข้ามาช่วยระงับเหตุ และชายหญิงชาวจีนคู่นี้ก็ยอมสงบสติอารมณ์ลง ,ข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์วุ่นวายดังกล่าว ทำให้นักบินตัดสินใจนำเครื่องบินกลับมาลงจอดที่สนามบินดอนเมือง และแจ้งตำรวจให้ขึ้นมาควบคุมตัวสองชายหญิงคู่นี้ลงไปจากเครื่องบิน ขณะที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ พากันรุมด่าสองชายหญิงชาวจีนคู่นี้ที่ทำให้พวกเขาต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เสียเวลา อีกทั้งยังมีผู้โดยสารบางคนโพสต์ภาพเหตุการณ์บนเครื่องลงในโซเชียล มีเดีย จนก่อให้เกิดกระแสประณามสองชาวจีนคู่นี้อย่างหนัก,ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก หนานฟาง ,http://www.thenanfang.com/blog/troublesome-chinese-couple-forces-air-asia-plane-to-return-to-bangkok/
แอร์เอเชีย เที่ยวบินกรุงเทพฯ-นานกิง เจอเหตุการณ์วุ่นวาย สองชายหญิง คู่รักชาวจีน วีนแตก แบบสุดๆ ถึงขั้นฝ่ายหญิงใช้น้ำร้อนที่ขอมากินมาม่า สาดใส่แอร์ ส่วนฝ่ายชายจีนขู่จะระเบิดเครื่องบิน จนนักบินต้องนำเครื่องกลับมาลงจอด
คู่รักจีน,ผู้โดยสารวีน,คลิปคู่รักจีน,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์,แอร์เอเชีย,เครื่องบิน,คู่รักจีน แอร์เอเชีย,แอร์เอเชียจอดฉุกเฉิน
https://www.thairath.co.th/content/468738
[ 0, 259, 137147, 43957, 29669, 118896, 259, 48786, 53959, 85350, 62883, 47187, 259, 48266, 4388, 104509, 259, 7850, 158312, 259 ]
ปู่ชัย ชัย ชิดชอบ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว วัย 92 ปี ที่บ้านพัก จ.บุรีรัมย์
ปู่ชัย นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ที่บ้านพัก จ.บุรีรัมย์ ด้วยวัย 92 ปี เมื่อเช้าวันนี้ที่ผ่านมาวันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อดีตประธานรัฐสภาผู้แทนราษฎร บิดาของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในรัฐบาลบิ๊กตู่ชุดปัจจุบัน ได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว อายุ 92 ปี เมื่อเวลา 08.00 น. ที่บ้าน จ.บุรีรัมย์ทั้งนี้ นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนหน้านี้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลายสมัย และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดบุรีรัมย์ เกิดที่บ้านเพี้ยราม ตำบลเพี้ยราม อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นบุตรของนายเมียศกับนางเรียด ชิดชอบ จบการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์นายชัย ชิดชอบ เกิด 5 เมษายน พ.ศ.2471สมรสกับนางละออง ชิดชอบ มีบุตรชาย 5 คน หญิง 1 คน บุตรคือนายเนวิน ชิดชอบ เป็นประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยทั้งนี้ผลงานสุดท้ายทางการเมือง คือ ได้รับเลือกให้เป็นประธานในที่ประชุมรัฐสภา ในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะได้นายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่อยู่ในสภาชุดปัจจุบันครอบครัวชิดชอบ ขอเรียนเพื่อทราบว่า นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 ที่บ้านพัก จังหวัดบุรีรัมย์ ครอบครัวชิดชอบ จะแจ้งกำหนดการพิธีสวดพระอภิธรรมให้ทราบต่อไปและขอความกรุณางดพวงหรีดเคารพศพ หากท่านมีความประสงค์จะร่วมทำบุญ ขอความกรุณาบริจาคให้แก่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วย ธนาคารกรุงไทย สาขาบุรีรัมย์ เลขที่บัญชี 308-0-70047-3 ชื่อบัญชี เงินบริจาคของโรงพยาบาลบุรีรัมย์
ปู่ชัย นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ที่บ้านพัก จ.บุรีรัมย์ ด้วยวัย 92 ปี เมื่อเช้าวันนี้ที่ผ่านมา
ข่าว,การเมือง
ชัย ชิดชอบ,ชัย ชิดชอบ ตาย,ชัย ชิดชอบ เสียชีวิต,ปู่ชัย,อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร,ส.ส.บัญชีรายชื่อภูมิใจไทย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1754981
[ 0, 259, 135776, 137738, 89153, 156417, 259, 61828, 156417, 17858, 78839, 30007, 97652, 141204, 10228, 259, 38058, 28456, 4188, 234616 ]
โสมชบาจ๊ะจ๋า : ปรีชา เอกคุณากูล เดินยิ้มทั่วซีพีเอ็น เพราะคว้า 5 รางวัล SET Awards 2019
การบินไทยร่วมฉลองวันพ่อแห่งชาติ ที่สนามหลวง จนถึง 14 ธ.ค. กรกฏ ชาตะสิงห์ แจกรหัสส่วนลด 500 บาท และตั๋วเครื่องบิน Weekday Vacation ที่เรียกเสียงกรี๊ดสนั่น เพราะรวมภาษีสนามบินและค่าธรรมเนียมทุกประเภท ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,300 และได้ไมล์สะสมตามเงื่อนไขรอยัล ออร์คิด พลัส ด้วย,ซีอีโอ สุทัศน์ เรืองมานะมงคล นำกลุ่มทิสโก้สร้างฟอร์มฮอตส่งท้ายปี กับรางวัล SET Awards 2019-Best Company Performance ซึ่งไม่ง่ายกับการคว้ารางวัลเดียวกันถึง 2 ปีติดต่อกัน แถมบริษัทในเครือ บลจ.ทิสโก้ ก็ได้รับรางวัล Outstanding Asset Management Company Awards ด้วย,ส่วนซีอีโอ ปรีชา เอกคุณากูล ก็เดินยิ้มทั่วซีพีเอ็น เพราะรับรางวัลติดๆ ล่าสุดได้ 5 รางวัลรวดจากเวที SET Awards 2019 ทั้งหุ้น ยั่งยืนและยอดเยี่ยมด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และรางวัลเป็นเลิศด้านการตลาด การเงิน และการพัฒนาที่ยั่งยืน จาก Thailand Corporate Excellence Awards 2019 ซึ่งโหวตจากผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ,work hard play hard นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ ลาคลินิก Tattof หลายวัน พามารดาและพี่สาวไปเที่ยวจัยเปอร์ ที่อินเดีย ก่อนที่ตัวเองจะบินไปเล่นสกีที่ Zermatt สวิตฯ ฉลองปีใหม่กับแก๊งหนุ่มอัลตราเวลท์รสแซ่บ,เจ้าไอเดีย Collaboration วิเศษ สิงห์สัจจเทศ แห่ง Jaspal จับมือ Megan Hess อาร์ติสต์วาดภาพประกอบแฟชั่นและออกแบบกราฟิกระดับโลก รังสรรค์คอลเลกชันเซอร์ไพรส์ ล่าสุด Jaspal X Megan Hess รับเทศกาลแห่งความสุข เตรียมเปิดตัวใหญ่ ที่แฟชั่นแกลเลอรี่ 3 สยามพารากอน 11 ธ.ค. เวลา 14.00 น.,หญิงเก่งมาก นลินี งามเศรษฐมาศ ประธานฯ AIRA โผล่ว้อบแว้บในกรุงเทพฯ แล้วก็หายเร็วแบบไม่มีใครคว้าตัวมาสังสรรค์ทัน เพราะต้องบินไปมาทำงานที่ปารีส,หลังฮึดสู้ ลุยงานจนเปิดตัว กระเป๋า PHYA 3 คอลเลกชันใหม่ไปเรียบร้อย จิรยง อนุมานราชธน ก็เตรียมพักผ่อนยาว เพราะก่อนนี้เจอทั้งสายพันธุ์เอ และงูสวัดจนงอม เสร็จงานจึงเริ่มซ่อมให้งามเหมือนเดิม.,โสมชบา
ส่วนซีอีโอ ปรีชา เอกคุณากูล ก็เดินยิ้มทั่วซีพีเอ็น เพราะรับรางวัลติดๆ ล่าสุดได้ 5 รางวัลรวดจากเวที SET Awards 2019 ทั้งหุ้น ยั่งยืนและยอดเยี่ยมด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และรางวัลเป็นเลิศ
โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา,ปรีชา เอกคุณากูล,SET Awards 2019,ซีพีเอ็น,CPN
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1719429
[ 0, 259, 195634, 260, 4388, 169164, 27987, 9211, 5095, 17958, 35872, 259, 67044, 108604, 36595, 159447, 259, 29669, 208111, 20679 ]
ปีทองของ คุณหญิง
ฮอตสปอร์ต, ได้ บรรเลงเอาไว้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากับขาขึ้นของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของผู้นำหญิงเหล็ก คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในห้วงปีที่ผ่านมา,ไม่ว่าจะเป็นผลงานอันแจ่มจรัสในซีเกมส์ที่มาเลเซีย ตามด้วยการคว้าแชมป์เดนมาร์ก โอเพ่น ที่แดนโคนมของ เมย์ รัชนก อินทนนท์,การสร้างประวัติศาสตร์ซิวแชมป์ชายเดี่ยวเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เป็นคนแรกของไทย ของ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่อินโดนีเซีย,รวมทั้งการคว้า 4 แชมป์ ภายในสัปดาห์เดียว คือ 2 แชมป์ในศึกกรังด์ปรีซ์โกลด์ ที่เยอรมนี,จากหญิงเดี่ยว แน็ต ณิชชาอร จินดาพล และ หญิงคู่ กิ๊ฟ จงกลพรรณ กิติธรากุล-วิว รวินดา ประจงใจ,และอีก 2 แชมป์ในศึกเบียร์ ลาว จากชายเดี่ยว ซาบ กันตวัฒน์ ลีลาเวชบุตร และหญิงคู่ พลอย ณัชชา แสงโชติ-แบม กิตติภัค ดับทุกข์,ยังรอความสำเร็จจากศึกซุปเปอร์ซีรีส์ที่จีน และฮ่องกง ที่นักกีฬาไทยจะลุ้นติด 8 อันดับแรกเพื่อไปแข่งขันรายการ เวิลด์ ซุปเปอร์ซีรีส์ไฟนอล ในวันที่ 13-17 ธ.ค. ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อไป,จากผลงานทั้งหมดนี้ นอกความมุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมของบรรดานักตบลูกขนไก่แล้ว,ยังต้องชื่นชมทีมงานผู้ฝึกสอน นำโดยโค้ชเร็กซี ไมนากี ซึ่งสมาคมแบดมินตันไทยเลือกมาดูแลนักกีฬาของเรา,ต้องบอกว่าสมาคมเลือกไม่ผิดจริงๆ เพราะตั้งแต่โค้ชอิเหนาผู้นี้เข้ามา ความสำเร็จก็พรั่งพรูมาสู่นักแบดไทยอย่างที่เห็นกัน,นั่นคือสัญญาณที่ดีของ ความฝันอันสูงสุด ที่เราจะได้เห็น เหรียญรางวัล สีใดสีหนึ่งจากนักตบลูกขนไก่ไทยแลนด์ ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียวในอีก 2 ปีนับจากนี้,แต่ก่อนหน้านั้นในปีหน้า 2018 เรามีงานใหญ่ระดับโลกรออยู่ คือการเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันทีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก โธมัส-อูเบอร์ คัพ ในช่วงเดือน พ.ค.61,ซึ่งนักกีฬาไทยมีลุ้นสุดๆหากสามารถรักษามาตรฐาน และฟอร์มอันแจ่มแจ๋วอย่างนี้เอาไว้ได้แบบยาวๆ,ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยกับคนเป็นนายกสมาคมฯอย่างคุณหญิงปัทมา,เมื่อเห็นผลงานอันงดงามของนักแบดไทยแบบนี้แล้วก็คงจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะมองเห็นอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า,พูดถึงคุณหญิงแล้ว ต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นปีทองอย่างแท้จริง เพราะความสำเร็จหลายอย่างมันประดังประเดมาพร้อมๆกัน,นอกจากความสำเร็จในการบริหารงานสมาคมฯแล้ว ก่อนหน้านี้ก็อย่างที่ทราบ ได้ดำรงตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ในวงการกีฬาโลกกับตำแหน่งคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี เมมเบอร์ อันเป็นที่กระฉ่อนไปทั่ว,และล่าสุด ชีค อาหมัด อัล ฟาฮัด อัล ซาบาห์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ก็เพิ่งลงนามแต่งตั้งให้คุณหญิงปัทมาเป็นกรรมการที่ปรึกษาของโอซีเอ คนใหม่,เห็นแล้วต้องบอกว่า ชีค อาหมัด นี่เป็น เสือปืนไว ชะมัด รู้จักดึงคนที่มีศักยภาพเข้ามาทำประโยชน์ให้องค์กรสูงสุดของกีฬาเอเชีย,เชื่อว่าการดึงไอโอซี เมมเบอร์ ป้ายแดงจากประเทศไทยเข้ามาช่วยงานโอซีเอ มีแต่ได้กับได้เห็นๆ,อย่างน้อยการกล่อมให้บ้านเราเป็นเจ้าภาพจัด เอเชียน อินดอร์ และมาร์เชียล อาร์ต เกมส์ ในปี 2021,มันก็ง่ายขึ้นแยะ,บี บางปะกง
ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยกับคนเป็นนายกสมาคมฯอย่างคุณหญิงปัทมา เมื่อเห็นผลงานอันงดงามของนักแบดไทยแบบนี้แล้วก็คงจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะมองเห็นอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า
แบดมินตัน,ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล,รัชนก อินทนนท์,กุลวุฒิ วิทิตศานต์,เรียงหน้าชน
https://www.thairath.co.th/sport/others/1128903
[ 0, 259, 172286, 82397, 6088, 149831, 79876, 11984, 28456, 4728, 72810, 26420, 62988, 2361, 40423, 49277, 3945, 114866, 5405, 48528 ]
นายกฯสั่งมั่นคง สอบหลังสถานทูตตุรกี ระงับรับรอง 4 ร.ร.ไทย
นายกฯ เผย สั่งฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบแล้ว หลังสถานทูตตุรกีประกาศระงับการรับรองประกาศนียบัตร 4 โรงเรียนไทย โยงกลุ่มก่อการร้าย ขอสื่ออย่าขยายความ บอกไม่สนับสนุนคอหวย หลังเลขท้าย 2 ตัว ตรงเลขเครื่องบิน,เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะกรรมการร่วมรัฐเอกชน (กรอ.) ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ถึงกรณีเว็บไซต์สถานทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อความประกาศ จะไม่รับรองประกาศนียบัตรโรงเรียน 4 แห่ง ในประเทศไทย หลังสืบทราบว่า โรงเรียนดังกล่าว มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย ฟัตฮุลเลาะห์ กูเลน หรือ feto ว่า ได้รับรายงาน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.ย.และวันนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบแล้ว จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่าไปขยายความ จนทำให้ปัญหาบานปลาย เพราะปัญหาในประเทศก็ควรแก้กันภายในประเทศ ไม่ควรดึงต่างประเทศ มาสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในแผ่นดินไทย ทั้งนี้ ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดมาหลายปี ไม่สามารถแก้ได้เพียงไม่กี่วัน ไม่ได้แก้ได้โดยง่าย และทำไมไม่แก้กันมาตั้งแต่เริ่มต้น เพราะไม่สนใจ แต่รัฐบาลนี้สนใจ,ถ้าประกาศก็ประกาศมาก็ให้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบ ดูอยู่แล้ว แล้วจะให้ทำยังไง ปิดโรงเรียนเลยหรืออย่างไร ก็ต้องไปสอบพฤติกรรมว่า จริงหรือเปล่า ประเทศเราก็ประเทศเรา ปัญหาในประเทศยังไม่พออีกหรือ ขยายกันเข้าไป ซึ่งเป็นเรื่องของการสอบสวน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ ที่มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ตนมีความกังวลในทุกเรื่อง จึงนำความกังวลนั้น มาแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีขึ้นและดีที่สุด เพิ่มการเฝ้าระวังมากขึ้น และถือเป็นหน้าที่ของทุกคนด้วยในการเฝ้าระวัง ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย แต่ทำไมถึงปล่อยปละละเลยกันมานาน มาไล่ล่าย้อนหลังกันไม่เกิดประโยชน์,พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าว ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ถึงการจัดระเบียบการออกเอกสารสิทธิที่ดินผิดกฎหมาย โดยเฉพาะใน จ.ภูเก็ต ว่า กำลังดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งต้องให้เวลาและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาบางอย่างมีผลกระทบต่อประชาชนก็ต้องหาทางเยียวยา แต่จะให้ตรวจสอบแล้วจบภายในวันเดียวคงทำไม่ได้ ส่วนข้าราชการหากพบว่า มีส่วนเข้าไปเอื้อประโยชน์หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ โทษสูงสุดก็ต้องไล่ออกจากข้าราชการ แต่หากเป็นนายทุนก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจ การแก้ปัญหาบางอย่างหากทำแล้วประชาชนเดือดร้อนก็ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน,พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่ชาวเลราไวย์ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเร่งรัดให้รัฐบาลช่วยเยียวยาและซื้อที่ดินว่า ได้รับทราบปัญหาทั้งหมดมาตลอด แต่ยังมีปัญหาการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเข้ามาทำกินในพื้นที่ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบตามกระบวนการต่อไป ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลว่า ตั้งแต่เข้ามาทำงานได้พยายามตลอดแก้ปัญหาทุกอย่าง ซึ่งบางอย่างก็แก้ได้สำเร็จ แต่บางอย่างยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงปัญหาผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียและกลุ่มนายทุนที่เข้ามาทำธุรกิจท่องเที่ยวผิดกฎหมายทัวร์ศูนย์เหรียญใน จ.ภูเก็ต ว่า ได้สั่งการให้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดไปแล้ว โดยต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเชื่อมโยงใครบ้าง ซึ่งไม่เฉพาะแค่จังหวัดภูเก็ต แต่รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ด้วย,ทั้งนี้ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่เลขท้ายเครื่องบิน ที่ใช้โดยสารมาปฏิบัติภารกิจจังหวัดภูเก็ตให้โชคกับคอหวย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำไมเรื่องหวยก็มาถามด้วยหรือ แล้วนักข่าวซื้อหรือเปล่า ถ้าไม่ซื้อจะมาถามทำไม อย่าลืมนะฉันไม่สนับสนุนการเล่นหวย ถ้าซื้อแล้วไม่ถูกอย่ามาบ่นกัน
นายกฯเผย สั่งฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบแล้ว หลังสถานทูตตุรกีประกาศระงับการรับรองประกาศนียบัตร 4 โรงเรียนไทย โยงกลุ่มก่อการร้าย ขอสื่ออย่าขยายความ
นายกฯ,สถานทูตตุรกี,ระงับ,ประกาศนียบัตร,4 โรงเรียนไทย,ก่อการร้าย,ฟัตฮุลเลาะห์ กูเลน,feto,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,หวย,เลขเครื่องบินนายกฯ
https://www.thairath.co.th/content/725108
[ 0, 259, 203061, 2091, 169184, 77772, 34904, 10062, 229634, 138658, 259, 221409, 101103, 1549, 89153, 233859, 194775, 26036, 259, 80267 ]
รื้อตึกจนถล่มซ้ำซาก-จี้ กทม.กวดขัน
ดินแดงแจ้งความการเคหะฯ-สภา กทม.ประเดิมห้องประชุมใหม่,เมื่อวันที่ 3 เม.ย.62 มีการประชุมสภา กทม.สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2562 ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่สภา กทม.และผู้บริหาร กทม.ใช้ห้องประชุมสภา กทม.แห่งใหม่ในการประชุม ที่ห้องประชุมสภา กทม. อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง โดยมี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภา กทม. เป็นประธานการประชุม,นายภาส ภาสสัทธา สมาชิก กทม. ได้ยื่นญัตติด้วยวาจา ขอให้ กทม.กำหนดมาตรการควบคุม ตรวจสอบการรื้อถอนอาคาร และจำนวนอาคารที่รื้อถอนทั้งของเอกชนและหน่วยงานราชการในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจากเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 เม.ย.2562 เกิดเหตุอาคารเคหะชุมชนดินแดง แฟลต 18-20 ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง ทรุดตัวระหว่างการรื้อถอนอาคาร และเมื่อวันที่ 7 ม.ค.2562 เกิดเหตุอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น บริเวณปากซอย 51/1-51/2 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ถล่มลงระหว่างการรื้อถอนอาคาร ดังนั้น กทม.จึงต้องกำหนดมาตรการตรวจสอบจำนวนอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและรื้อถอนอย่างจริงจัง ในพื้นที่ 50 เขต รวมถึงกำหนดมาตรการป้องกัน ว่าจะทำอย่างไรบ้าง เพื่อกำกับดูแลตลอดเวลา,พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงว่า กรณีอาคารเคหะชุมชนดินแดง ของการเคหะแห่งชาติ ที่เกิดเหตุถล่มนั้น พบว่าผู้รับเหมาไม่ปฏิบัติตามมาตรการการรื้อถอนอาคาร เขตดินแดงจึงแจ้งเตือนเมื่อเดือน พ.ย.61 และเมื่อวันที่ 14 ก.พ.62 เขตมีคำสั่งให้หยุดการรื้อถอน แต่ผู้รับเหมายังมีการฝ่าฝืน จนเกิดเหตุดังกล่าว จึงให้เขตดินแดงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ว่าการการเคหะฯ เพื่อรับผิดชอบกับเหตุที่เกิดขึ้น,ทั้งนี้ ที่ประชุมสภา กทม.มีมติเห็นชอบกับญัตติดังกล่าว จำนวน 20 เสียง ฝ่ายเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร จะรวบรวมรายละเอียดเสนอฝ่ายบริหารพิจารณาดำเนินการต่อไป.
มีการประชุมสภา กทม.สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2562 ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่สภา กทม.และผู้บริหาร กทม.ใช้ห้องประชุมสภา กทม.แห่งใหม่ในการประชุม
ข่าว,ทั่วไทย
ภาส ภาสสัทธา,เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ,อัศวิน ขวัญเมือง,รื้อถอนอาคาร,รื้อตึก,ถล่ม,มาตรการป้องกัน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1536873
[ 0, 259, 156417, 259, 224962, 3945, 260, 70944, 207017, 93991, 259, 63015, 3755, 10228, 147851, 31253, 96470, 259, 72364, 74728 ]
ส่งเรือธงฟ้าวิ่งขายบ้านริมน้ำ สินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ บริการชาวบ้านถึงปากประตู
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน ที่ต้องกักตัวอยู่บ้านตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยล่าสุดได้จัดส่งเรือธงฟ้าราคาประหยัด ฝ่าภัยโควิด-19 นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ มาจำหน่ายให้กับประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้วสำหรับสินค้าที่นำไปจำหน่าย ได้แก่ ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ (30 ฟอง) 90 บาท ไข่เป็ดเบอร์ 1 แผงละ 100 บาท ปลากระป๋อง ราคา 11 บาท ข้าวสาร 2 กก. 55 บาท บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซองละ 5 บาท น้ำมันปาล์ม 1 ลิตร 40 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าเรือธงฟ้าดังกล่าว จะเข้าถึงประชาชนได้เพิ่มขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งคาราวานรถธงฟ้าออกไปให้บริการประชาชนในหมู่บ้าน และแหล่งชุมชนต่างๆในกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว 200 คัน สำหรับเส้นทางที่เรือวิ่ง ได้แก่ คลองบางกอกน้อย คลองชักพระ คลองบางกอกใหญ่ คลองมอญ เป็นต้นนายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการที่ส่งรถธงฟ้าฝ่าภัยโควิด-19 ออกไปให้บริการพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 200 คันแล้ว ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และได้ขอให้เพิ่มจำนวนรถที่ออกไปให้บริการเป็น 250 คัน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน และให้สามารถหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นได้โดยไม่ต้องออกจากบ้านนอกจากนี้ ยังได้เพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอีก โดยได้ยกระดับร้านโชห่วย ขึ้นเป็น สมาร์ท โชวห่วย และเป็น โชวห่วย เดลิเวอรี่ เพื่อให้ บริการประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนที่สั่งซื้อสินค้าจากร้านโชห่วย ที่มีบริการจัดส่งถึงบ้าน สามารถค้นหาร้านใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอรี่.moc.go.th/ และ LineChatbot ของ DGA (@dgachatbot) สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอรี่เพื่อตรวจสอบร้านค้าใกล้บ้าน และสั่งซื้อสินค้า โดยได้เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มี.ค.63.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน
ข่าว,เศรษฐกิจ
เรือธงฟ้า,สินค้าอุปโภคบริโภค,สินค้าธงฟ้า,ร้านโชห่วย,สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอรี่,สั่งซื้อสินค้าออนไลน์,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1810501
[ 0, 259, 76917, 185039, 87678, 11339, 117069, 259, 223057, 109586, 227897, 5669, 259, 27605, 15981, 193009, 53477, 52854, 4215, 237626 ]
คนร้ายยิงพ่อค้าทุเรียน จ.ยะลา เจ็บ 1
นายกามัน พีระ พ่อค้ารับซื้อทุเรียน ชาวตำบลยะหา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกาบัง หลังถูกคนร้ายซุ่มยิงบริเวณสี่แยกบ้านคลองน้ำใส ถนนบาละ - คลองน้ำใส หมู่ที่ 2 ตำบลบาละ อำเภอกาบัง จังหวัดยะลาเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (7 ส.ค.) ขณะเข้าไปซื้อทุเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ นายกามันถูกยิงที่บริเวณขาขวา2 นัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ในที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าขณะที่นายกามันขับรถยนต์เข้าไปรับซื้อทุเรียนจากชาวตำบลที่เกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มป่าข้างทางใช้ปืนอาร์ก้าและเอ็ม 16 กราดยิงหลายนัด ทำให้กระสุนถูกบริเวณขา แต่นายกามันฝืนใจขับรถออกมาจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตรก่อนจะขอให้ชาวบ้านช่วยนำส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวนว่ามาจากเรื่องธุรกิจรับซื้อผลไม้ หรือการสร้างสถานการณ์
พ่อค้ารับซื้อทุเรียนถูกยิงบาดเจ็บสาหัสในอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ขณะเข้าไปซื้อทุเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่
ภูมิภาค
ทุเรียน,พ่อค้า,ยะลา,ยิง
https://news.thaipbs.or.th/content/27087
[ 0, 259, 95830, 158501, 15334, 25534, 148081, 35436, 259, 62883, 157824, 177001, 20279, 103477, 27605, 8007, 23941, 118349, 35709, 167703 ]
ผิวเบาสบาย ริมฝีปากแลดูอวบอิ่ม นี่แหละคีย์แต่งหน้าสำหรับซัมเมอร์ที่สาวๆ ต้องรู้
ซัมเมอร์ใกล้เข้ามาก็ได้เวลาที่สาวๆ จะต้องอัปเดตเทรนด์แต่งหน้าสำหรับซัมเมอร์นี้กันแล้ว คราวนี้ THE STANDARD ได้สอบถามเทรนด์ต่างๆ จากปากของเมกอัพอาร์ทิสต์ ธีร์-สุภชัช ทวีสิน National Makeup Artist เครื่องสำอาง Yves Saint Laurent Beaute ประเทศไทย เพื่อมาแชร์คีย์แต่งหน้าสำหรับซัมเมอร์ที่สาวๆ ต้องรู้เทรนด์แต่งหน้าที่เหมาะกับซัมเมอร์บ้านเราผมว่าเทรนด์แต่งหน้าซัมเมอร์ปีนี้ควรเน้นไปที่ความสบาย แต่งได้ง่าย สวย และมีความแกลมแอนด์โกลวตามสไตล์ของซัมเมอร์ อย่างเทรนด์ลิปสติกช่วงนี้ก็จะเป็นเทคนิคการทาแบบ full lip คือทาเต็มริมฝีปากให้แลดูอวบอิ่มเข้าไว้ เนื้อลิปต้องมีความโกลว และทาแล้วต้องสบายริมฝีปาก ส่วนอื่นๆ ที่จะเพิ่มความน่าสนใจคือการเล่นกับแสงหรือประกายของชิมเมอร์ โทนสีแบบไหนที่เหมาะกับซัมเมอร์มากที่สุดซัมเมอร์นี้เหมาะกับการใช้เมกอัพในโทนสีอ่อน อยากให้เพิ่มความน่าสนใจด้วยประกายของชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์เข้าไปด้วย ซึ่งเป็นเท็กซ์เจอร์ที่ทำให้การแต่งหน้าลุคซัมเมอร์ดูสนุกขึ้น เช่น เติมชิมเมอร์เบาๆ ที่เปลือกตาตอนกลางวัน พอกลางคืนอาจปรับลุคให้ดูเปล่งประกายมากขึ้นด้วยกลิตเตอร์ที่เล่นกับแสงให้ดูวิบวับมีชีวิตชีวาสาวไทยส่วนใหญ่เผชิญปัญหาด้านการเตรียมผิวช่วงซัมเมอร์ จะแนะนำอย่างไรผมแนะนำว่าให้เราเลือกใช้ในสิ่งที่เราชอบเป็นหลัก อย่างการใช้รองพื้น บางคนให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ตามสภาพผิวเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วเราเลือกตามความชอบเราได้นะ อย่างยกตัวอย่างเช่น บางคนมีผิวผสมหรือผิวค่อนข้างมัน ตามหลักอาจเหมาะกับรองพื้นเนื้อแมตต์ แต่เป็นคนชอบรองพื้นสูตรโกลวให้ผิวดูสุขภาพดี ซึ่งก็ไม่ผิด ผมมักจะบอกสาวๆ เสมอว่าให้เลือกใช้ในสิ่งที่คุณอยากใช้ ดังนั้นซัมเมอร์นี้คุณใช้ได้หมด เพียงแต่คุณต้องมีเทคนิคบางอย่างมาแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เมื่อคุณมีผิวมันแต่เลือกแต่งผิวโกลวเพราะชอบ ประเด็นคือคุณจะทำอย่างไรให้ความโกลวนั้นไม่ดูมันเยิ้มระหว่างวัน ทิปส์ที่ผมแนะนำคือให้ผสมรองพื้นเนื้อแมตต์ลงไปในรองพื้นเนื้อโกลวแบบที่ชอบก็จะช่วยได้ครับ ผู้หญิงจึงควรมีรองพื้นทุกๆ เท็กซ์เจอร์ เพื่อให้เราสามารถผสมผสานและเล่นกับการแต่งผิวได้ตามใจชอบได้เทคนิคการทัชอัประหว่างวันเพื่อแก้ปัญหาเมกอัพไหลเยิ้มกฎง่ายๆ ในการทัชอัประหว่างวัน อันดับแรกเราต้องเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้แต่งหน้าตอนเช้า ต้องแน่ใจว่าเนื้อผลิตภัณฑ์สามารถลงผลิตภัณฑ์อย่างอื่น on top ได้อีก สมมติเป็นรองพื้นก็ต้องใช้รองพื้นที่เนื้อเบาบาง ไม่หนักจนเกินไป เช่น รองพื้นเนื้อแป้งจะดูหนา และดูแห้งเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้การลงทัชอัปภายหลังทำได้ยากกว่า เพราะเวลาลงอะไรทับไปมันจะเป็นคราบง่ายมาก ดังนั้นควรเลือกเนื้อเบาๆ ไว้ก่อน กฎอย่างที่สองก็คือ เลือกผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ทัชอัปให้เข้ากับผิวของเรา ถ้าผิวแห้ง ไม่ควรใช้แป้งคอมแพ็กต์หรือแป้งทูเวย์มาใช้ทัชอัประหว่างวัน เพราะแป้งเหล่านี้จะดูดความชื้นออกไปจากผิว ยิ่งทำให้หน้าแห้ง เป็นคราบง่าย สาวผิวแห้งจึงเหมาะกับการทัชอัปด้วยคุชชัน ส่วนสาวผิวมันก็ไม่แนะนำคุชชันที่มีความโกลวมากเกินไป ถ้าคุณชอบใช้คุชชันก็ควรจะเป็นเนื้อแมตต์ จะทัชอัปผิวได้ดีกว่า เทรนด์แต่งตาซัมเมอร์แบบไหนที่เข้ากับคนไทย ซัมเมอร์จะไม่เน้นการแต่งตาอะไรมากมาย เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เหมาะกับเทรนด์ง่ายๆ แต่งแล้วดูสบายตาดีกว่า อาจจะใช้สีอายแชโดว์แค่เบาๆ ในโทนสีอ่อนๆ มีการเล่นกับความเปล่งประกายของชิมเมอร์ ปัดขนตาให้สวยๆ ก็พอแล้ว ส่วนอายไลเนอร์จำเป็นไหม ผมว่าไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับซัมเมอร์นี้ เพราะเทรนด์เผยผิวที่ดูเบาสบาย สุขภาพดี ริมฝีปากอวบอิ่มเป็นลุคที่สวยเตะตามากกว่า A post shared by (@yslbeauty) on สีลิปสติกที่ใช้กับซัมเมอร์นี้เป็นอย่างไร อย่างที่บอกว่าเทรนด์ลิปสติกช่วงนี้ที่มาแรง คือเทคนิคการทาแบบ full lip จะทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ซึ่งลิปสติกที่ผมคิดว่าเข้ากับหน้าร้อนหรือซัมเมอร์เมืองไทยคือ ลิปสติกรุ่นใหม่ Volupté Plump-In-Colour จาก YSL ที่เพิ่งเปิดตัวไป สิ่งที่แตกต่างจากลิปรุ่นอื่นๆ คือเนื้อลิปมีความเย็นแบบ Cooling Effect เวลาทาบนปากจะรู้สึกเลยว่ามีความเย็น ซึ่งความเย็นนี้จะคงอยู่ราวๆ 1 ชั่วโมง อีกหนึ่งจุดเด่นของลิปรุ่นนี้คือมีสารที่ช่วย plump up ริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มเติมเต็มจนรู้สึกได้ ภาพ:พิสูจน์อักษร:
ธีร์-สุภชัช ทวีสิน National Makeup Artist เครื่องสำอาง Yves Saint Laurent Beaute มาแชร์เทคนิคแต่งหน้าในเทรนด์ผิวเบาสบาย ริมฝีปากอวบอิ่มเหมาะกับซัมเมอร์เมืองไทย
https://thestandard.co/ysl-summer-makeup-looks/
[ 0, 259, 234186, 210502, 133827, 3945, 197403, 193934, 51523, 107451, 138729, 10062, 99715, 259, 89885, 167110, 259, 39792, 3324, 49590 ]
ตามสบาย BE MY GUEST นิทรรศการ ศิลปะ เสวนา ดนตรี เวิร์กชอป และแรงบันดาลใจจากสิทธิมนุษยชน
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดงานสิทธิมนุษยชนแห่งปี ตามสบาย BE MY GUEST นิทรรศการ ศิลปะ เสวนา ดนตรี เวิร์กชอป และแรงบันดาลใจจากสิทธิมนุษยชน26 พ.ค. 2562 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดงานสิทธิมนุษยชนแห่งปี ตามสบาย BE MY GUEST นิทรรศการ ศิลปะ เสวนา ดนตรี เวิร์กชอป และแรงบันดาลใจจากสิทธิมนุษยชน ณ Whiteline สีลมซอย 8 กรุงเทพฯ โดยงานจะมีการจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.-2 มิ.ย. 2562 นี้ปิยนุช โคตสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่างาน ตามสบาย BE MY GUEST ชวนคุณเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น ผ่านนิทรรศการ งานศิลปะ ภาพยนตร์ การแสดง ดนตรี เวิร์กชอป วงเสวนา และกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบ ซึ่งร่วมสร้างสรรค์ผลงานโดยคนธรรมดาจากหลากหลายสาขา ที่พร้อมมาร่วมกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ธรรมดา โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่เคารพในศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคนเราเกิดมาพร้อมกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นลมหายใจของเสรีภาพที่ไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว แต่ในสถานการณ์ที่มีความท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนอย่างทุกวันนี้ กลับมีวาทกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ของนำเข้าจากตะวันตก นักสิทธิโลกสวย คนชังชาติ คนเห็นต่างโดนไล่ออกนอกประเทศหรือเชิญให้นักสิทธิพาผู้ลี้ภัยไปอยู่บ้าน แอมเนสตี้อยากชวนมาเรียนรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนผ่านอีกมุมมองหนึ่งที่สร้างสรรค์และรู้จักกับสิทธิในรูปแบบต่างๆ ผ่านงานนี้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในฐานะคนธรรมดาไปด้วยกันแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ยืนหยัดทำงานรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนมายาวนาน 58 ปี แม้ว่าโลกของเราทุกวันนี้มีความรุนแรง ความอยุติธรรม และการเอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน แต่แอมเนสตี้ยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ต้องการเห็นโลกสวยด้วยมือเรา โดยยึดหลักการตาม ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights-UDHR) ซึ่งเป็นข้อตกลงที่สหประชาชาติได้กำหนดขึ้นเพื่อให้ประเทศสมาชิกได้ใช้เป็นแนวทางในการคุ้มครองดูแลสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองประเทศของตน โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้นเพราะเราเชื่อมั่นว่า มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ว่าเป็นใคร อาศัยอยู่ที่ใด ทุกคนมีสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นตลอดระยะเวลา 9 วันจึงมีนิทรรศการที่ชวนทุกคนร่วมค้นหาแรงบันดาลใจด้านสิทธิมนุษยชน ทำความเข้าใจเรื่องผู้ลี้ภัย นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และเรียนรู้สิทธิของเราตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน รวมทั้งชวนผู้เข้าชมนิทรรศการร่วมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากนานาประเทศไปด้วยกันนอกจากนั้นในวันเปิดงานยังมีการแสดงละครเวทีโดยกลุ่ม ลานยิ้มการละคร พร้อมเวทีพูดคุยในหัวข้อ โลกสวยด้วยมือเรา : แรงบันดาลใจด้านสิทธิมนุษยชนจากคน 3 รุ่น ร่วมพูดคุยโดย ดร.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย นักคิด นักเขียน คอลัมนิสต์ ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) และสิรินทร์ มุ่งเจริญ รองประธานสภานิสิตจุฬาฯสำหรับงาน ตามสบาย BE MY GUEST จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.-2 มิ.ย. 2562 ตั้งแต่เที่ยงวันยันค่ำคืน โดยมีกิจกรรมที่หลากหลายในแต่ละวันดังต่อไปห้องเรียนสิทธิ 101 นำเสนอในหัวข้อ สิทธิมนุษยชนศึกษาเบื้องต้น ที่คุณจะได้เรียนรู้ว่าสิทธิมนุษยชนคืออะไร มีกี่ประเภท มีคุณค่าอย่างไร แล้วสิทธิที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด 30 ข้อมีอะไรบ้าง รวมไปถึงการทำงานขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ผ่านกิจกรรมสไตล์ Adult Learning Approach และ Pop-ed Educationวันอังคารที่ 28 พ.ค. 2562 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไปTOAST TO HUMANITY 58 ปี แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล มาร่วมชูแก้วเฉลิมฉลองการยืนหยัดทำงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อช่วยกันสร้างโลกที่สวยงาม ฟังแรงบันดาลใจจากสมาชิกแอมเนสตี้ 3 รุ่นและลุ้น Lucky draw ภายในงานชมการแสดงสด Watta (Circular) - Light of Hope Performance Art by Nui Theeranuch ที่เล่าถึงวัฏฏะ คือความวน หรือความเวียน ตามหลักธรรมในพุทธศาสนา มีสามอย่างคือ กิเลส กรรม และวิบาก ทั้งสามสิ่งเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกันวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 2562 เวลา 21:00-22.00 น.พบกับ Live Painting by Panyavee & Cut the Crab (Band) ที่แสดงถึงเสรีภาพในการแสดงออก การพูดความจริง การถกเถียงในประเด็นต่างๆ รวมถึงยอมถึงการเคารพและยอมรับ ความจริงใจเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในสังคมปัจจุบันชมคอนเสิร์ตสไตล์อะคูสติก โดยศิลปินไทยรุ่นใหม่มากความสามารถอย่างวง Rosalyn วง Sweed starlet Jennifer Lackgren และนักร้องชาวเมียนมาร์ รวมทั้งนักแต่งเพลงอย่าง Naw Baybraชมการแสดงสดของเกอร์ด้า ลีปมาน ศิลปินเจ้าของผลงาน The Flavor of Salt Installation Art ที่จะบอกเล่าว่าเมื่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานพังทลาย ไม่ได้รับการใส่ใจ หรือถูกย่ำยี ย่อมส่งผลกระทบต่อมนุษย์ทุกคนวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย. 2562 เวลา 14.00-18.00 น.ชวนดูหนังและพูดคุยเรื่องผู้ลี้ภัยผ่านภาพยนตร์เรื่อง Human Flow สารคดีเรื่องเยี่ยมฝีมือของ อ้าย เว่ย เว่ย ศิลปินชาวจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดย- ลลิตา หาญวงษ์ อาจารย์แห่งภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์- พัฒนะ จิรวงศ์ นักทำสารคดี ผู้กำกับหนังสั้นมือรางวัลชวนคุยโดย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ประกาศข่าวไทยทีวีสีช่อง 3ร่วมเวิร์กชอป เสรีภาพและความลื่นไหลในศิลปะ: Freedom and Fluidity in Art กับ ธาดา เฮงทรัพย์กูล ศิลปินร่วมสมัยมืออาชีพ ที่จะพาคุณเรียนรู้และทดลองใช้ภาษาศิลปะในการสื่อสารเรื่องราวที่คุณอยากพูดภายใต้โลก censorshipนอกจากนั้น ในแต่ละวันยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พาชมนิทรรศการ คอนเสิร์ต ปาร์ตี้ การแสดงสด และมุมสมาชิกที่เปิดให้ทุกคนได้มามีส่วนร่วมกับแอมเนสตี้มากขึ้นในรูปแบบที่สร้างสรรค์ โดยสามารถดูตารางกิจกรรมได้ที่นี่
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดงานสิทธิมนุษยชนแห่งปี ตามสบาย BE MY GUEST นิทรรศการ ศิลปะ เสวนา ดนตรี เวิร์กชอป และแรงบันดาลใจจากสิทธิมนุษยชน26 พ.ค. 2562 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
สังคม,วัฒนธรรม,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
https://prachatai.com/journal/2019/05/82653
[ 0, 259, 43202, 121547, 10228, 17958, 3755, 259, 166774, 259, 157341, 259, 212074, 5405, 12682, 207733, 3324, 236379, 4348, 111173 ]
เว้นภาษีวิสาหกิจชุมชน
รัฐขยายยาวช่วยลดภาระ-สร้างโอกาส,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้สำหรับวิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล โดยมีเงินได้ปีละไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ออกไปอีก 3 ปี สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2560-31 ธ.ค.2562 และกำหนดเงื่อนไขให้วิสาหกิจชุมชนเหล่านี้ ต้องจัดทำบัญชีหรือรายงานแสดงรายได้และรายจ่ายประจำวัน รวมทั้งยื่นแบบภาษีเงินได้ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป,การขยายเวลายกเว้นภาษีฯ ก็เพื่อบรรเทาภาระภาษี และช่วยสร้างโอกาสให้วิสาหกิจชุมชนเข้มแข็งและเติบโตเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในอนาคต จนสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง ที่ผ่านมากระทรวงการคลังมีมาตรการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นกลุ่มเศรษฐกิจพื้นฐานของสังคมชนบท เพื่อให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและเป็นองค์กรทางธุรกิจที่พัฒนาอย่างยั่งยืน,นายกอบศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา ครม.มีมติให้การช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยยกเว้นภาษีให้ตั้งแต่ปี 2551 โดยวิสาหกิจชุมชนเหล่านี้ต้องมีเงินได้ไม่เกินปีละ 1.2 ล้านบาท จากนั้นในปี 2552 ครม.ได้เห็นชอบให้ขยายวงเงินรายได้เพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านบาท เป็นไม่เกินปีละ 1.8 ล้านบาท จนถึงปัจจุบัน สำหรับวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมาย จะต้องเป็นกิจการของชุมชนที่ผลิตสินค้าหรือให้บริการอื่น ที่ทำโดยคณะบุคคลที่มีความผูกพันกัน มีวิถีชีวิตร่วมกัน รวมตัวกันประกอบกิจการเพื่อสร้างรายได้ เพื่อพึ่งพาตนเองและครอบครัว.
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้สำหรับวิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
ข่าว
กอบศักดิ์ ภูตระกูล,บรรเทาภาระภาษี,ยกเว้นภาษี,วิสาหกิจชุมชน,รายได้
https://www.thairath.co.th/news/916840
[ 0, 259, 89402, 3945, 260, 33523, 43408, 4188, 96422, 27968, 235077, 128182, 15319, 2752, 9513, 32816, 80927, 18604, 165279, 100132 ]
น้ำตาไหลพราก แพท วงเคลียร์ ต่อสายตรงร้องเพลงให้แฟนเก่าหญิงสาวกลางเวที
เกิดเป็นกระแสคลิปวิดีโอไวรัลในโลกออนไลน์ เมื่อสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบชื่อว่า Double Diva ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ชื่อว่า แพท วงKlear หาคนที่จะโทรหาแฟนเก่า แล้วร้องเพลงนี้ให้ มีความยาวประมาณ 1 นาที เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นในงาน Freshy Night มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา โดยนักร้องสาว แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย หรือ แพท วงเคลียร์ได้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที พร้อมกับขออาสาสมัครคนที่ยังไม่ลืมแฟนเก่าไม่ได้ขึ้นมาบนเวที และสาวแพทก็ได้โทรศัพท์ต่อสายตรงหาแฟนเก่าของหญิงสาวอาสาสมัครคนหนึ่งที่ขึ้นมาบนเวที พร้อมกับร้องเพลง คำยินดี ให้ฟังผ่านโทรศัพท์ ทำเอาหญิงสาวคนดังกล่าวน้ำตาแตกโผเข้ากอดสาวแพททันที,หลังจากคลิปวิดีโอนี้ได้เผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตจำนวนมาก พากันแสดงความคิดเห็นซาบซึ้งกับบทเพลงที่แพทได้ร้องให้แฟนเก่าของหญิงสาวคนดังกล่าว ล่าสุดคลิปนี้มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 2 แสนครั้ง,ขอให้ความรักมีแต่ความสุขใจ,ไม่ว่าสิ่งไหน เข้ากันหมดทุกอย่าง,ขอให้ความรักเขาและเธอไม่มีจืดจาง,มีเขาเคียงข้างไม่มีความทุกข์ใด,ขอให้ความรักดียิ่งกว่าที่ฝัน,ไม่มีเปลี่ยนผัน รักกันหมดหัวใจ,ขอให้เธอนั้นได้คู่เคียงกันตลอดไป,ถึงแม้ฉันยังไม่เปลี่ยนใจ,และรักได้เพียงแต่เธออยู่เหมือนเดิม
สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบชื่อว่า Double Diva ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอไวรัล เป็นคลิปนักร้องสาว แพท วงเคลียร์ ร้องเพลงคำยินดี ให้กับแฟนเก่าของหญิงสาวคนหนึ่งในงาน Freshy Night มหาวิทยาลัยรังสิต
คำยินดี,ร้องเพลง,กลางเวที,คลิปวิดีโอ,คลิป,ไวรัล,แพท วงKlear,แพท วงเคลียร์,แพท,แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย,แฟนเก่า,ร้องไห้,ซึ้ง,น้ำตาไหลพราก,โซเชียล,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/523756
[ 0, 259, 118407, 7960, 259, 49612, 557, 468, 372, 259, 20279, 11821, 20118, 96375, 20279, 73536, 84881, 3324, 135174, 57997 ]
ส่องตำรวจ : คำสั่งรอง ผบก. - สว.จะคลอดมั้ย?
ตอนนี้ตำรวจกำลังคร่ำเคร่งกับงานหลายด้าน,แต่ที่เครียดสุด สำหรับตำรวจระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.)–สารวัตร (สว.) คือคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายที่ท่านผู้บัญชาการแต่ละ บช. กำลังโม่กันอยู่อย่างหน้าดำหน้าแดง,เพราะใกล้เดดไลน์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กำหนดไว้ว่าต้องออกคำสั่งภายในวันที่ 27 พ.ย.นี้,และถ้าใครคิดว่าการทำคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเป็นเรื่องง่าย ขอบอกเลยว่าให้กลับไปตั้งสติคิดใหม่ เพราะมันมีแรงวิ่งเต้น แรงบีบมาเกี่ยวข้องอีกหลายตลบ,อย่าคิดว่าหลังจากประกาศว่าจะกระจายอำนาจไปให้แต่ละกองบัญชาการทำคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายกันเองแล้ว มันจะเป็นสิทธิ์ขาดของผู้บัญชาการแต่ละหน่วยนะครับ,แว่วมาว่าหลังจากส่งชื่อกันไป ทำคำสั่งกันมา แก้แล้วแก้อีกมาพักใหญ่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา บิ๊กแป๊ะ ผบ.ตร. ขอให้ ผบช.แต่ละหน่วยส่งโผที่ทำแล้วมาให้สแกนอีกครั้ง,เผื่อตำแหน่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่จิ้มมาจะหายหกตกหล่น?,เดี๋ยวสถานภาพการเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปีสุดท้ายจะสั่นคลอน ไหนๆก็ถูลู่ถูกังผ่านปากเหยี่ยวปากกามาได้ถึง 5 ปีแล้ว,นอกจากจะมีตั๋วที่ผ่านมาทาง ตร.โดยตรงแล้ว ยุคหลังเลือกตั้ง ,ท่านนักการเมืองผู้ทรงเกียรติ, ยังมีตั๋วส่งไป ผบช.แต่ละหน่วยโดยตรงด้วยนะครับ?,ทั้งๆที่นักการเมืองบางคน ส่งตั๋วไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วก็ตาม,เรียกว่าเอามันทั้งทางตรงทางอ้อม จนท่าน ผบช.หน่วยต่างๆเริ่มปวดตับ,เรื่องนี้มันละเอียดอ่อน เหมือนน้ำผึ้งหยดเดียว ให้ไปตามที่ขอก็พอใจ แต่ไม่ให้นี่สิ งานมันอาจจะเข้าในภายหลังได้?,เดี๋ยวจะมีลูกขุ่นเคือง มาแก้แค้นกันภายหลัง,นี่แหละชีวิตข้าราชการประจำ ที่มักถูกนักการเมืองผู้มีอำนาจบีบจนไข่เขียวไข่เหลืองอยู่เป็นนิจ,ยังไงขอเอาใจช่วย ให้คำสั่ง รอง ผบก.–สว.คลอดออกมาสำเร็จ ไม่ค้างเติ่งข้ามปีข้ามชาติเหมือนที่ผ่านมา จะเอายังไงก็เอากัน ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป,สหบาท
แต่ที่เครียดสุด สำหรับตำรวจระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.)–สารวัตร (สว.) คือคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายที่ท่านผู้บัญชาการแต่ละ บช.
ส่องตำรวจ,สหบาท,แต่งตั้งโยกย้าย,รอง ผบก.,สารวัตร,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,จักรทิพย์ ชัยจินดา
https://www.thairath.co.th/news/local/1709895
[ 0, 259, 198834, 140828, 167259, 139800, 6581, 260, 53868, 260, 259, 138603, 139800, 6581, 12682, 260, 88424, 153155, 23941, 193397 ]
ขอรถไฟปลอดภัย ภาคประชาชนประณามเหตุระเบิดบนรถไฟ
กลุ่มด้วยใจ เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์ร่วม รถไฟต้องปลอดภัย กลุ่มติดอาวุธทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมายมนุษยธรรมสากล3 ก.ย. 2559 กลุ่มด้วยใจ เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเรื่อง รถไฟต้องปลอดภัย กลุ่มติดอาวุธทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมายมนุษยธรรมสากล โดยระบุว่าจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 มีเหตุลอบวางระเบิดรถไฟขบวนสาย กรุงเทพ-สุไหงโกลก บริเวณสถานีย่อย บ้านนิคมโคกโพธิ์ ม.9 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขบวนรถที่ 176 เมื่อเวลา 17.45 น. ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นพนักงานประจำรถไฟเราขอประณามการก่อเหตุระเบิดบนรถไฟสายกรุงเทพ-สุไหงโกลกเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2559 เวลา 17.30 น. บริเวณสถานีย่อยบ้านนิคมโคกโพธิ์ รถไฟถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่สำคัญที่ประชาชนโดยทั่วไปใช้สัญจรไปมา ผู้คนที่ใช้รถไฟเป็นผู้บริสุทธ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับความขัดแย้งทางอาวุธ การใช้ความรุนแรงทางอาวุธโดยเฉพาะการใช้ระเบิดที่มีอานุภาพสูงส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตของผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เป็นสมบัติของส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน นอกจากนี้สร้างความหวาดกลัวกับประชาชนในพื้นที่ที่ต้องใช้รถไฟในการสัญจรไปมา การโจมตีโดยใช้ความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่กลุ่มติดอาวุธทุกฝ่ายต้องเคารพ อีกทั้งเป็นการทำลายบรรยากาศของความพยายามแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีด้วยการเจรจาตกลงเรื่องการสร้างพื้นที่ปลอดภัย รถไฟต้องปลอดภัย
กลุ่มด้วยใจ เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์ร่วม รถไฟต้องปลอดภัย กลุ่มติดอาวุธทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมายมนุษยธรรมสากล 3 ก.ย. 2559 กลุ่มด้วยใจ เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี
การเมือง,คุณภาพชีวิต,ความมั่นคง
กลุ่มด้วยใจ,ชายแดนใต้,มูลนิธิผสานวัฒนธรรม,รถไฟ,ระเบิด,วินาศกรรม,เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี
https://prachatai.com/journal/2016/09/67754
[ 0, 259, 99412, 111173, 3945, 204425, 97652, 6200, 46694, 58473, 20648, 92401, 3324, 224968, 63917, 202722, 133931, 259, 23045, 237468 ]
ไทยเตรียมหารือสหรัฐฯขอใช้สนามบิน วางกรอบไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ไทย-จีน
สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ไม่ใช่สนามบินแห่งเดียวที่องค์การนาซ่าจะขอใช้พื้นที่สำหรับปฏิบัติงานสำรวจสภาพภูมิอากาศ อีกหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา คือ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็จะหารือกับกระทรวงกลาโหมของไทยในช่วงปลายปีนี้ ถึงกรอบความร่วมมือในการใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในภูมิภาคอีกด้วยจากสถานการณ์ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ บริเวณหมู่เกาะสแปรตเลย์ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแก๊สและน้ำมัน และเป็นพื้นที่ที่หลายประเทศอ้างกรรมสิทธิ ไม่ว่าจะเป็น จีน ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลลิปปินส์ บรูไน และ มาเลเซีย เป็นสสำคัญที่ประธานกลุ่มกิจการระหว่างประเทศ จากมูลนิธิคลังสมองของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรเชื่อว่า เป็นเหตุให้สหรัฐฯ กลับมาให้ความสนใจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค รวมถึงการเจรจาขอใช้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ในภาระกิจด้านภัยพิบัติพล.อ. ธนพล บุญโยปัษฎัมภ์ ประธานกลุ่มกิจการระหว่างประเทศ มูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องระวัง คือ ไม่ให้มีการเข้ามาใช้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาของสหรัฐฯ นำไปสู่การเผชิญหน้าและข้อขัดแย้งทางทหารกับจีน ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมาจีนมีความสัมพันธที่ดีมากกับรัฐบาลไทย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงไทยคนหนึ่งเปิดเผยว่า ปลายปีนี้ นาย เลออน แพเน็ทต้า รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะเข้าหารือกับพลเอกสุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือในการใช้สนามบินอู่ตะเภาด้านป้องกันภัยพิบัติ ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือของกลาโหมอาเชียนกับประเทศคู่เจรจา 8 ชาติซึ่งรวมถึงสหรัฐ และจีน พร้อมยืนยันถึงกรอบความร่วมมือดังกล่าว จะไม่มีการหารือการอนุญาตให้สหรัฐฯ มาตั้งฐานทัพในไทยอย่างที่หลายฝ่ายกังวล
สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ไม่ใช่สนามบินแห่งเดียวที่องค์การนาซ่าจะขอใช้พื้นที่สำหรับปฏิบัติงานสำรวจสภาพภูมิอากาศ อีกหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา คือ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็จะหารือกับกระทรวงกลาโหมของไทยในช่วงปลายปีนี้ ถึงกรอบความร่วมมือในการใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในภูมิภาคอีกด้วย
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
ความมั่นคง,ความสัมพันธ์,จีน,นาซ่า,สนามบิน,สหรัฐอเมริกา,อู่ตะเภา,ไทย
https://news.thaipbs.or.th/content/92465
[ 0, 259, 137738, 36999, 163578, 50427, 47414, 259, 9074, 196758, 260, 28495, 66125, 49883, 20279, 10228, 99650, 4395, 128181, 5405 ]
ผ่าน เว็บ-ทวิต-เฟซ-ไลน์
อัศวินรับมือเข้าหน้าฝน-แจ้งรายงานฝนตก, พื้นที่น้ำท่วม,พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่า จากนี้ไปในเดือนพฤษภาคมจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้วเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือหน้าฝนนี้อย่างเต็มที่ กรุงเทพมหานครโดยสำนักการระบายน้ำจึงได้เร่งลอกท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง เปิดทางน้ำไหล จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่และติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณที่มักจะเกิดปัญหาน้ำท่วม รวมถึงการจัดเตรียมหน่วยเคลื่อนที่เร็วไว้ให้สามารถเข้าถึงพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหาได้ในทันที นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศ กลุ่มฝนจากเรดาร์ตรวจอากาศ เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์ฝน รวมถึงรายงานปริมาณฝนที่ตก บริเวณถนนที่มีน้ำท่วมขัง โดยข้อมูลดังกล่าวยังได้เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ ( ,http://dds.bangkok.go.th/,  ) ทวิตเตอร์ (bkk_best) เฟซบุ๊ก (bkk.best) และระบบไลน์ (@bkk_best) ซึ่งประชาชนหรือผู้สนใจสามารถติดตามสถานการณ์ได้ทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้หากพบท่อระบายน้ำอุดตัน น้ำท่วมขัง หรือได้รับความเดือดร้อนจากการลอกท่อระบายน้ำ จัดเก็บวัชพืช ผักตบชวาตามคูคลองต่างๆ สามารถแจ้งมายังศูนย์ปฏิบัติป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ โทร. 0-2248-5115 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่า จากนี้ไปในเดือนพฤษภาคมจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้วเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือหน้าฝนนี้อย่างเต็มที่
ข่าว
อัศวิน ขวัญเมือง,พฤษภาคม,ท่อระบายน้ำ,ขุดลอกคูคลอง,น้ำท่วม
https://www.thairath.co.th/news/925138
[ 0, 259, 70663, 17958, 131830, 15334, 28017, 17138, 11922, 151422, 259, 60708, 118885, 133173, 234788, 1, 0, 0, 0, 0 ]
ทุเรียนส่งออกจะมีปัญหา
คนที่ผมรู้จักอ่านหนังสือพิมพ์ของไทยเรื่องการตรวจเข้มผลไม้ไทยไปจีน ส่งข้อความและเนื้อหาในข่าวมาถามผม ผมจึงแปลและถามศุลกากรจีน ผลก็คือได้เนื้อหาที่ตรงกัน ปีที่แล้ว แม้จีนตรวจผลไม้จากไทยไม่เข้มงวด ก็ยังพบเพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย หนอนเจาะเม็ด มีปริมาณยาฆ่าแมลงเกินมาตรฐาน และได้ออกคำเตือนมามากกว่า 1,700 ครั้ง,พ.ศ. 2562 การส่งออกทุเรียนไปยังจีนที่จะเริ่มเดือนเมษายนและพฤษภาคม ทางการจีนจะเข้มงวดมาก การส่งออกทุเรียนจากไทยจะต้องระบุเลขที่ GMP ของโรงคัดบรรจุในใบรับรองสุขอนามัยพืช และต้องระบุว่ามาจากสวนไหน,ค้นข้อมูลจากสมาคมส่งออกทุเรียนแห่งประเทศไทย พบว่า พ.ศ.2561 ทุเรียนภาคตะวันออก 3 จังหวัดมีผลผลิตทุเรียน 403,907 ตัน คาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนใน พ.ศ.2562 เพิ่มถึง 486,682 ตัน ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 8 หมื่นตันบวกกับความเข้มงวดของการตรวจมาตรฐานผลไม้สดไทยที่จะไปจีน 5 ชนิดคือ ทุเรียน มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ และมะม่วง จะกระทบเกษตรไทยอย่างมาก,พ.ศ. 2561 ร้านและภัตตาคารอาหารไทยของผมที่เมืองหลินกุ้ยและกุ้ยหลินก็กระทบจากการขาดแคลนมะม่วงน้ำดอกไม้ ข้าวเหนียวมะม่วงคือเมนูฮิตที่ลูกค้าชาวจีนชอบกันมาก ที่จริงมะม่วงน้ำดอกไม้ของไทยไม่ได้ขาดตลาด แต่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าชาวจีน เพราะความยุ่งยากในการทำพิธีสารการส่งออก ในอดีตที่ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะการตรวจไม่เข้มข้น แต่ตั้งแต่ปีนี้ไปจะเข้มข้นมากเป็นอย่างยิ่ง,ผมค้นข้อมูลจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 กรมวิชาการเกษตร (สวพ.6) พบว่า พ.ศ.2562 พื้นที่ระยอง จันทบุรี ตราด มีแปลงทุเรียนทั้งหมด 281,945 ไร่ ขึ้นทะเบียนเพื่อรับมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีเพียง 42,476 ไร่ ผ่านการรับรอง GAP และยังไม่หมดอายุเพียง 30,180.15 ไร่ อยู่ระหว่างการตรวจ 12,296 ไร่ ที่ยังไม่มีใบรับรองมาตรฐาน GAP มีประมาณ 2.4 แสนไร่,สวนผลไม้ต้องขึ้นทะเบียนและได้รับมาตรฐานทางการเกษตรที่ดีหรือ GAP ส่วนโรงคัดบรรจุที่จะส่งออกผลไม้ที่เราเรียกว่า ล้ง ต้องผ่านมาตรฐานหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตหรือ GMP ล้งผลไม้ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกมีประมาณ 400 แห่ง พ.ศ.2561 มี GMP เพียง 147 แห่งหรือร้อยละ 30 ใน 147 แห่งนี้เป็นโรงคัดบรรจุทุเรียนเพียง 97 แห่ง,ปัจจุบัน นักลงทุนจีนไปทำเกษตรแปลงใหญ่ในกัมพูชา ซึ่งมีดินและภูมิอากาศเหมือนกับ 3 จังหวัดภาคตะวันออกของไทย ผลผลิตทางการเกษตรของทุนจีนน่าจะเริ่มได้ในปีนี้ ทว่ายังไม่มากนัก พ.ศ.2561 ผมตามท่านผู้ใหญ่ไปตระเวนในหลายแขวงของ,สปป.ลาวก็พบว่า นักลงทุนจีนเช่าที่ดินใน สปป.ลาวเพื่อปลูกพืชผักผลไม้สำหรับส่งกลับไปขายในประเทศจีนด้วยเช่นกัน,ในขณะที่ไทยยังใช้สารเคมีเพื่อกำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืช แต่บริษัทจีนในกัมพูชาและลาว เพื่อนำพืชพื้นถิ่นมาใช้กำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ไม่ว่าสะเดา ขิง ข่า ตะไคร้ ดาวเรือง พริก ขมิ้น และมะกรูด ดังนั้น พืชผักและผลไม้ที่คนจีนมาเช่าที่ดินในประเทศรอบบ้านของเราผลิต จึงน่าจะไม่มีปัญหาสารตกค้างและยาฆ่าแมลงเหมือนผลผลิตของไทย,รัฐบาลของบางประเทศจัดสะเดา ขิง ข่า ตะไคร้ ดาวเรือง พริก ขมิ้น และมะกรูด เป็นวัตถุอันตราย ทำอย่างนี้เพื่อให้เกษตรกรต้องอยู่ภายใต้การกำกับการผลิตของราชการ เพื่อทำให้ชาวบ้านผลิตขายได้ยากขึ้น โดยอ้างว่าต้องการรักษามาตรฐานให้ผู้บริโภค,รัฐบางประเทศใช้กฎหมายมัดมือเกษตรกรเพื่อไม่ให้ไปผลิตแข่งกับนายทุนชาติ กฎหมายที่ยุ่งยากทำให้บริษัทนายทุนชาติเพียง 3 แห่งเท่านั้นที่ปฏิบัติตามระเบียบได้ ปราชญ์ชาวบ้านและเกษตรกรหัวก้าวหน้าใช้พืชพื้นถิ่นมาปรุงทำสารไล่แมลงใช้เองได้เพียงอย่างเดียว ถ้าจะผลิตเพื่อจำหน่าย หรือผลิตในปริมาณมาก ต้องไปซื้อจากบริษัทนายทุนชาติหรือไม่ก็หันไปใช้สารเคมี,นี่แหละครับ ที่ทำให้ผลผลิตทางเกษตรของบางประเทศมีสารตกค้าง,ไม่เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,songlok1997@gmail.com
พ.ศ. 2562 การส่งออกทุเรียนไปยังจีนที่จะเริ่มเดือนเมษายนและพฤษภาคม ทางการจีนจะเข้มงวดมาก การส่งออกทุเรียนจากไทยจะต้องระบุเลขที่ GMP ของโรงคัดบรรจุในใบรับรองสุขอนามัยพืช และต้องระบุว่ามาจากสวน
ทุเรียน,ส่งออกทุเรียน,ประเทศจีน,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1493193
[ 0, 259, 66191, 109312, 11984, 6494, 18456, 174161, 2091, 38058, 82245, 259, 139127, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
มิว ควงคู่ เซนต์ ออกงานครั้งแรก (คลิป)
วางแพลนบินไปดูชุดเจ้าสาวที่ฝรั่งเศส,ควงคู่ออกงานครั้งแรกที่งาน ELLE Fashion Week Fall/Winter 2019 ฉลองครบ 25 ปีที่เซ็นทรัลเวิลด์ สแควร์ เซ็นทรัลเวิลด์ หลังหนุ่ม เซนต์–ธราภุช คูหาเปรมกิจ คุกเข่าขอนางเอกสาว มิว–นิษฐา จิรยั่งยืน แต่งงานแบบฟ้าแลบ ก่อนเตรียมจูงมือวิวาห์ต้นปีหน้า แต่งานนี้ฝ่ายชายยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ เลยขอสาว,อัปเดตงานแต่งกับสาว,มิว ,เผยว่า, วันนี้เป็นโอกาสครบรอบ 25 ปีของแอล เราตั้งใจจะมาอยู่แล้วก็เลยลองชวนเค้า เค้าว่างก็เลยมา ตอนแรกนึกว่าไม่มีนักข่าว ตกใจเหมือนกันมีตั้งวงสัมภาษณ์ เค้าก็เขินค่ะ ถามว่าพามาบ่อยๆ แล้วจะหายเขินมั้ย ก็อาจจะโอเคแหละ แต่ถ้าจะมีสัมภาษณ์เค้าก็เขิน ไม่เป็นไรให้เขา ทำงานของเค้าไป เราก็ทำงานของเรา,ล่าสุดไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาแล้ว? ,ใช่ค่ะ ไปถ่ายกันที่ระยองคิดว่าน่าจะครบแล้วแหละ เราอยากได้อะไรที่ดูเป็นธรรมชาติ สดใส ไปถ่ายกันที่ระยองเซตเดียวจบ คอนเซปต์ในการถ่ายเป็นมู้ดแบบสบายๆ ไม่ต้องโพส พอดีได้ช่างภาพที่รู้จักกัน รู้จักโลเกชันสวยๆเยอะ อยากได้ฟีลป่าๆ ทะเลๆ,สถานที่นี้มีความเกี่ยวข้องกับคู่เรายังไงบ้าง? ,ไม่เคยไปด้วยกัน ดูจากรูปที่ช่างภาพเลือกให้ 2-3 ที่บางทีเราก็ไม่เคย เห็น จ.ระยอง เป็นสถานที่ที่เลือกค่ะ,มีแพลนจะไปถ่ายต่างประเทศมั้ย? ,มีแพลนค่ะ แต่ไม่ได้ไปถ่ายพรีเวดดิ้งนะคะ ไปเที่ยว,ไปก่อนแต่งงาน?,คิดว่าอย่างงั้นนะคะ ตอนนี้กำลังดูทางกองละครอยู่ว่าเค้าจะให้มิวไปมั้ย,วันนี้มาดูแฟชั่นโชว์ เล็งชุดเจ้าสาวไว้มั้ยว่าจะเป็นแบบไหน? ,มีสวยเยอะเลย แต่จริงๆมิวเลือกไว้บ้างแล้ว ก็คงตามปกติ มีชุดหมั้น ชุดสัมภาษณ์ ชุดงานเลี้ยง แล้วก็ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้,ตั้งใจอยากได้แบบไหน? ,อยากให้เป็นคลาสซี่เลย ไม่เอาฟรุ้งฟริ้ง,แบรนด์ไทยหรือแบรนด์นอก? ,แบรนด์ต่างประเทศค่ะ ที่จะไปต่างประเทศก็ไปดูชุดด้วยส่วนหนึ่ง คือไหนๆก็ไปเที่ยวแล้วก็แวะดูชุดด้วยเลย,แพลนไปเที่ยวที่ไหน? ,ตั้งใจจะไปสกอตแลนด์กับฝรั่งเศส แต่ไม่รู้จะได้ไปรึเปล่า,บอกพี่แอน ทองประสม ผู้จัดละครที่ถ่ายอยู่ไว้แล้วรึยัง? ,เค้าก็ยังขอล็อกเผื่อเอาไว้ก่อน ตอนนี้ถ่ายเหลืออีกแค่ 2 คิวเอง หลังจากนั้นก็จะได้มาจัดการเรื่องงานแต่งโดยตรงแล้ว เพราะ ณ ตอนนี้เราก็ยังต้องแบ่งเวลา ส่วนละครเรื่องต่อไปน่าจะเป็นต้นปีหน้า ไม่ชนกับงานแต่งค่ะ,เซนต์ เค้าโอเคใช่มั้ย แต่งเสร็จทำงานเลย?,โอเคสิคะ.
ควงคู่ออกงานครั้งแรกที่งาน ELLE Fashion Week Fall/Winter 2019 ฉลองครบ 25 ปีที่เซ็นทรัลเวิลด์ สแควร์ เซ็นทรัลเวิลด์ หลังหนุ่ม เซนต์–ธราภุช คูหาเปรมกิจ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
มิว นิษฐา,เซนต์ ธราภุช คูหาเปรมกิจ,อัปเดตงานแต่ง,ดาราแต่งงาน,ถ่ายพรีเวดดิ้ง,ชุดเจ้าสาว,ออกงานคู่ครั้งแรก,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1650785
[ 0, 259, 5269, 84079, 224496, 47534, 6088, 6088, 159716, 24797, 233285, 6494, 11103, 55176, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
เหยื่อไวรัสโคโรน่า พุ่ง 80 พบตายรายแรกในเซี่ยงไฮ้ นายกฯจีนลง พท.อู่ฮั่น
จีนเผยยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่า เพิ่มเป็น 80 ยืนยันติดเชื้อเกือบ 3 พันราย อีกทั้งยังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในเซี่ยงไฮ้ ขณะที่นายกฯ หลี่ เค่อเฉียง เดินทางลงพื้นที่เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางระบาดเมื่อ 27 ม.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศ และรอยเตอร์รายงาน อ้างข่าวจากเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ CGTN ในจีน รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.ว่า คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีนได้แจ้งจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 80 รายแล้ว และยืนยันมีผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มเป็นอย่างน้อย 2761 ราย และในต่างประเทศอีก 37 ราย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาและหายป่วย จำนวน 51 ราย โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเสียชีวิตที่เซี่ยงไฮ้เป็นรายแรก นอกจากในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดด้านนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีนเดินทางลงพื้นที่ในเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. เพื่อติดตามสถานการณ์และความพยายามของเจ้าหน้าที่ทางการในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ยังได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรน่าและแพทย์พยาบาลเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลในอู่ฮั่นด้วยนอกจากนั้น สถานีโทรทัศน์ CGTN ยังรายงานด้วยว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ Novel Coronavirus มีศักยภาพในการกลายพันธุ์ หลังจากนายหม่า เสี่ยวเหวย รมว.สาธารณสุขของจีน แถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถึงความร้ายกาจของไวรัสโคโรน่าว่าสามารถติดต่อไปยังบุคคลอื่น ก่อนผู้ที่ติดเชื้อจะเริ่มมีอาการป่วยซีเอ็นเอ็น เผยว่า นายแพทย์วิลเลียม แชฟฟ์เนอร์ ที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติในสหรัฐฯ ระบุว่าการที่เชื้อไวรัสสามารถติดต่อไปยังบุคคลอื่นก่อนคนที่ติดเชื้อจะแสดงอาการของโรคนั้น นี่คือการเปลี่ยนเกมเลยทีเดียว เพราะเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า และกักกันตัวผู้ป่วยได้อย่างทันเวลา นอกจากนั้น ยังหมายถึงจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่าที่พวกเราคิดกันไว้ในตอนแรก อย่างไรก็ตาม ซีเอ็นเอ็นระบุว่า รมว.สาธารณสุขจีนไม่ได้อธิบาย ทำไมเขาจึงคิดว่าไวรัสโคโรน่าสามารถติดต่อไปสู่คนอื่น ก่อนคนที่ติดเชื้อจะแสดงอาการป่วย
จีนเผยยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่า เพิ่มเป็น 80 ยืนยันติดเชื้อเกือบ 3 พันราย อีกทั้งยังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในเซี่ยงไฮ้ ขณะที่นายกฯหลี่ เค่อเฉียง เดินทางลงพื้นที่เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางระบาด
ข่าว,ต่างประเทศ
ไวรัสโคโรน่า,ปอดอักเสบ,อู่ฮั่น,จีน,โคโรน่าไวรัส,ไวรัสอู่ฮั่น,อู่ฮั่นล่าสุด
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1757195
[ 0, 259, 104582, 9074, 260, 80927, 177566, 10228, 20390, 98833, 47187, 259, 148210, 17858, 211981, 4348, 182034, 69012, 42859, 37362 ]
ไบเดนเลือกคู่หู รองประธานาธิบดี-ข่าวฉาวรุม
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายโจ ไบเดน วัย 77 ปี อดีตรองประธานาธิบดีและว่าที่ผู้แทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ประกาศรายชื่อคณะกรรมการช่วยคัดสรรและตรวจสอบคุณสมบัติผู้เหมาะสมลงสมัครเป็นคู่หูรองประธานาธิบดี จำนวน 4 คน ประกอบด้วย คริส ด็อดด์ อดีตวุฒิสมาชิก ลิซ่า บลันท์ โรชสเตอร์ สมาชิกสภาผู้แทนฯ เอริค การ์เซตติ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส และซินเธีย โฮแกน อดีตที่ปรึกษาของไบเดน ซึ่งประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะเลือกผู้หญิงเป็นคู่หูลงสมัครเลือกตั้งรองประธานาธิบดีข่าวการตั้งคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัครคู่หูดังกล่าวมีขึ้นขณะเกิดกระแสกดดันให้ไบเดนชี้แจงข้อกล่าวหาถูกอดีตผู้ช่วยทารา รีด กล่าวหาไบเดนคุกคามทางเพศที่สำนักงานของไบเดนสมัยเป็นวุฒิสมาชิกเมื่อปี 2536 ซึ่งทีมหาเสียงปฏิเสธมาตลอดแต่ไบเดนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้โดยตรง ต่อมาไบเดนปฏิเสธแล้วและว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นส่วนผู้อาจได้รับเลือกลงสมัครเป็นคู่หูรองประธานาธิบดี มีทั้ง ส.ว. คามาลา แอร์รีสและสเตซี อับรามส์ อดีต ส.ส.แห่งรัฐจอร์เจีย ซึ่งแสดงท่าทีสนับสนุนไบเดนจากข้อกล่าวหาทางเพศ.
นายโจ ไบเดน วัย 77 ปี อดีตรองประธานาธิบดีและว่าที่ผู้แทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้
ข่าว,ต่างประเทศ
เลือกตั้งสหรัฐ,เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ,ประธานาธิบดีสหรัฐ,โจ ไบเดน,รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา,สหรัฐอเมริกา,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1835223
[ 0, 259, 137738, 236041, 231709, 2091, 6582, 1549, 17858, 78839, 148601, 47820, 76484, 57617, 10228, 6196, 130621, 71453, 137738, 236041 ]
มาลาลา นักต่อสู้เพื่อการศึกษา จนโดนตาลีบันยิงหัว ได้เรียน ม.ออกฟอร์ด
สุดดีใจ มาลาลา ยูซาฟไซ นักต่อสู้เพื่อการศึกษา ผู้เคยถูกกลุ่มตาลีบันยิงศีรษะอย่างเหี้ยมโหดในปากีสถาน มาไกลถึงขนาดได้รับเลือกให้เข้าเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ดแล้ว,เมื่อ 17 ส.ค.60 สื่ออังกฤษรายงานครึกโครม มาลาลา ยูซาฟไซ หญิงสาวนักต่อสู้รณรงค์เพื่อสิทธิในการศึกษาของเด็กผู้หญิงและสตรีชาวปากีสถาน จนเธอถูกกลุ่มติดอาวุธตาลีบันยิงเข้าที่ศีรษะ จากความพยายามเรียกร้องสิทธิของเด็กผู้หญิงควรมีโอกาสได้เรียนหนังสือ โชคยังดีที่ มาลาลา รอดตายหวุดหวิด แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นเธอได้ถูกส่งไปรักษาในอังกฤษเมื่อปี 2555 ว่า มีข่าวดีที่น่าตื่นเต้นยินดีสุดๆ เมื่อ มาลาลา ในวัย 20 ปี ได้รับเลือกให้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ดในอังกฤษ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกแล้ว,ข่าวแจ้งว่า มาลาลา ซึ่งคว้ารางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ สามารถเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี สาขาวิทยา ปรัชญา, การเมือง และเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ขณะที่ มาลาลา ได้ทวีตข้อความว่า ตื่นเต้นเหลือเกินได้เรียนที่ออกฟอร์ด ส่วนนายเซียอุดดิน พ่อของมาลาลา ซึ่งผลักดันส่งเสริมให้ลูกสาวได้รับการศึกษามาโดยตลอด ได้ทวีตข้อความแสดงความดีใจว่า หัวใจของผมเต็มไปด้วยความยินดี พวกเราขอบคุณองค์อัลเลาะห์ และขอบคุณท่านทั้งทลายที่สนับสนุน @ Malala
สุดดีใจ มาลาลา ยูซาฟไซ นักต่อสู้เพื่อการศึกษา ผู้เคยถูกกลุ่มตาลีบันยิงศีรษะอย่างเหี้ยมโหดในปากีสถาน ได้รับเลือกให้เข้าเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ดแล้ว
ข่าว,ต่างประเทศ
มาลาลา ยูซาฟไซ,เรียนมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด,ออกฟอร์ด,โนเบล สันติภาพ,อังกฤษ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1041474
[ 0, 259, 4728, 29669, 29669, 91748, 54307, 21005, 88898, 259, 38058, 28456, 4188, 17138, 35436, 1549, 74634, 23045, 175366, 6088 ]
รัฐบาลตู่ไม่โกง ป๋าเปรมออกหน้าอุ้ม (คลิป)
นศ.ชักธงรบวันนี้ ยื่นชื่อสอยกกต.,บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม นำทีม ครม.-ผบ. เหล่าทัพรดน้ำขอพร ป๋าเปรม ชื่นมื่น ประธานองคมนตรี ยืดอกการันตี รัฐบาลประยุทธ์ ไม่โกง แต่หากพูดผิดนายกฯต้องจัดการ ถามตู่เหนื่อยไหมป๋าเป็นกำลังใจให้ ปลอบ บิ๊กแดง อย่าท้อสู้ต่อไป ไม่ต้องสนเสียงวิจารณ์ แซว ประวิตร ป่วยคิดว่าจะไม่มา พท.บี้ กกต.ทบทวนคิดปาร์ตี้ลิสต์ขัดรัฐธรรมนูญ-พ.ร.บ.เลือกตั้ง ชูศักดิ์ ย้ำได้ต่ำกว่า 71,065 เสียง ไม่มีสิทธิได้ ส.ส. แนวร่วมไล่ กกต.รุกหนัก คนส. จี้เปิดคะแนนทุกหน่วย-เผยสูตรคิด ส.ส. 63 ภาคประชาสังคมให้ยุติแจ้งจับคนลงชื่อถอดถอน สนท.,ผุดแคมเปญ กกต.ต้องติดคุก ชวนเพื่อนฟ้อง ม.157 คนรุ่นใหม่ขน 8.4 แสนชื่อยื่น ป.ป.ช. 11 เม.ย. กกต.ปัดวุ่นไล่แจ้งจับคนเข้าชื่อสอย อุตตม คุยไม่ได้อยู่เฉยลุยฟอร์มรัฐบาล นิพิฏฐ์ แฉโกงเลือกตั้งเขต 2 พัทลุงโยงเจรจาลับตัดตอนยุบพรรค,เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำ ครม.และ ผบ.เหล่าทัพเข้ารดน้ำขอพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีอย่างชื่นมื่น โดย พล.อ.เปรมได้ให้กำลังใจในการทำงานแก่นายกฯและ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. รวมทั้งการันตีว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีการโกง แต่ถ้าพูดผิดนายกฯต้องไปจัดการ,บิ๊กตู่ นำ ครม.เหล่าทัพรดน้ำ ป๋าเปรม,เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.นำคณะรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ รวมทั้ง ผบ.เท่าทัพ ประกอบด้วย พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เข้ารดน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์,ไม่ลืมคำสอนยึดมั่นวัฒนธรรมทหาร,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกครั้งที่ได้มาที่นี้ พวกเรารู้สึกอบอุ่นใจ มีความสุข มีความยินดีที่ได้พบประธานองคมนตรี ที่ยังมีสุขภาพแข็งแรง พูดคุยให้คำปรึกษากับพวกเราได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมาท่านได้สั่งสอนเพิ่มเติมกำหนดรูปแบบการดำเนินการดำรงชีวิตระหว่างการรับราชการทหารจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าตนเป็นนายกฯแล้วก็ตาม หลายคนไม่เข้าใจความผูกพันเหล่านี้ ความที่เราเป็นทหาร หรือข้าราชการได้รับการสอนสั่งมาว่าต้องทำเพื่อคนอื่นเสมอมา ให้นึกถึงตัวเองเป็นอันดับ 2 เราเกิดมาเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินและทำงานเพื่อคนอื่นตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ ท่านได้สั่งสอนพวกเราเสมอมาและเน้นย้ำถึงความสำคัญสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เรายังคงยึดมั่นในแบบเรียนทหารวัฒนธรรม การบริหารงานของเราปรับให้สอดคล้องกับการทำงานในแต่ละมิติ พยายามปรับทุกอย่างให้สอดคล้อง ขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยเดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขอให้โปรดดลบันดาลประทานพรประธานองคมนตรีจงมีความสุขสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกายกำลังใจเข้มแข็งเช่นเดิมตลอดไป และขอกราบขอพรเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์วันปีใหม่ไทย,ป๋า ยืดอกป้อง รบ.ประยุทธ์ไม่โกง,พล.อ.เปรมกล่าวตอบให้พรว่า ขอขอบคุณนายกฯ เพื่อนรักของตน พวกเรายินดีที่ได้เห็นนายกฯ กองทัพกับข้าราชการหน่วยต่างๆช่วยดูแลชาติบ้านเมืองกระทั่งมาจนถึงทุกวันนี้ พูดได้เต็มปากว่ารัฐบาลของนายกฯไม่โกง เพราะเป็นคนที่เห็นแก่ส่วนรวมจริงๆ คนที่จะซื่อสัตย์สุจริตต้องเป็นคนที่มีความคิดกว้างไกล ทำเพื่อคนอื่นไม่ใช่ทำเพื่อตนเอง หรือปกป้องพี่น้องที่อยู่ใกล้ชิด ตนพูดเสมอว่ารัฐบาลนี้เก่งไม่เก่งก็ดูเอาเองก็แล้วกัน บอกได้เลยว่ารัฐบาลนี้ไม่โกง ยืดอกพูดได้เลยว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่โกง แต่ถ้าตนพูดผิดนายกฯต้องไปจัดการ ขอฝากนายกฯไปอีกครั้งว่าการรักษาวัฒนธรรมประเพณีคือการรักษาชาติ พวกเราอายุมากแล้ว สิ่งที่ตนจะให้พรหรือร่วมกันอธิษฐาน ขอให้นายกฯและเพื่อนๆทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จงมีร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพใจที่มุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อคนอื่นให้สำเร็จผล เป็นที่ชมเชยหรืออย่างน้อยถูกตำหนิให้น้อย ขอให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแก่นายกฯและรัฐบาลนี้ ขอให้ทุกคนมีแต่ความดีในตัว และนำความดีในตัวของเรามาสร้างเป็นประโยชน์ต่อประชาชน 70 ล้านคน และดูแลชาติบ้านเมืองด้วยความมุ่งมั่น ขอขอบคุณนายกฯอีกครั้ง จะจำความเป็นเพื่อนไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ขอบคุณมาก,ถามเหนื่อยไหมจะเป็นกำลังใจให้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำพวงมาลัยไปกราบและรดน้ำขอพร พล.อ.เปรมได้กล่าวว่า เหนื่อยไหม ตู่ ขอให้รักษาความดีไว้ ป๋าจะคอยดู คอยเป็นกำลังใจให้ ก่อนจะ ถามถึงครอบครัวว่าเป็นอย่างไรบ้างสบายดีกันนะ พอถึงช่วงที่ พล.อ.อภิรัชต์เข้ารดน้ำ พล.อ.เปรมได้กล่าวว่า ให้กำลังใจนะ สู้ต่อไป อย่าท้อขอให้รักษาความดีไว้ เรื่องเสียงวิจารณ์ไม่ต้องไปสนใจ ให้ทำงานไป ต่อมา พล.อ.เปรมได้ทักทาย พล.อ.ประวิตรว่า ได้ข่าวว่าวันนี้ป้อมจะไม่มา เห็นว่าไม่สบาย มือเป็นอะไร โดย พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยกมือผ้าก๊อซปิดแผลสีขาวให้ดู,บิ๊กป้อม แจ่มใสอารมณ์ดี,ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายกฯ ถึงอาการของ พล.อ.ประวิตร โดยนายกฯตอบว่า พล.อ.ประวิตรไม่สบายให้น้ำเกลือมา ไม่เคยเห็นหรืออย่างไร จาก นั้น พล.อ.เปรมเดินทักทาย ครม.และ ผบ.เหล่าทัพอื่นๆ ระหว่างทางนายกฯบ่นถึงอาการเจ็บตาว่ายังปวดอยู่ ส่วน พล.อ.ประวิตรแม้เพิ่งดีขึ้นจากการท้องเสีย แต่มีสีหน้าแจ่มใสหัวเราะอารมณ์ดี แต่ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามถึงอาการเจ็บป่วย ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.อ.เปรมได้เดินเข้ามาพูดคุยว่า คนนี้ชื่อเสียงดี,ต่อมา พล.อ.สาธร สุวรรณภา อดีตฝ่ายนายทหารฝ่ายเสนาธิการ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯได้นำนายทหารเหล่าทหารม้าเข้ารับพร โดย พล.อ.เปรม กล่าวว่า ขอให้ทุกคนอายุยืนมากๆ และในช่วงชีวิตของเราเหล่าทหารม้าขอให้มุ่งมั่นในการถวายความจงรักภักดี ปกป้องชาติบ้านเมือง ดำรงการรักษาวัฒนธรรม และชาติ รวมถึงการรักษาเหล่าทหารม้าของเราจากรุ่นสู่รุ่น รักษาคุณสมบัติความเป็นทหารม้า ต่อยอดยาวไกลถึงรุ่นน้องลูกหลาน ส่งต่อกันของหมู่ทหารม้า,ห่วงบ้านเมืองขอยืนเคียงข้างประเทศ,จากนั้น พล.อ.เปรมเปิดให้สื่อมวลชนเข้าขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ โดยสื่อมวลชนได้อวยพรให้ พล.อ.เปรมอายุยืน 120 ปี พล.อ.เปรมบอกว่า เราต้องอายุยืนสิ ในเมื่อเราอวยพรให้คนอื่นอายุยืน เราก็ต้องอายุยืนด้วย ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าจะต้องอยู่ให้บ้านเมืองสงบก่อน พล.อ.เปรมได้ตอบว่าขณะนี้ยังไม่สงบหรืออย่างไร เราก็ไม่ได้สนใจด้านการเมืองเท่าไหร่ ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองบางทีก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง ขอให้พวกเราช่วยกันรักษาชาติบ้านเมือง สื่อมวลชนสำคัญที่สุด ตนยังรู้สึกเป็นห่วงชาติบ้านเมือง เมื่อถามว่าป๋าเปรมเคยบอกว่าจะอยู่ให้อายุยืนถึง 120 ปี พล.อ.เปรมกล่าวติดตลกว่า ถ้าอายุ 120 ปีก็คงต้องคลานแล้ว แต่อย่างไรก็จะอยู่เคียงข้างประเทศชาติบ้านเมือง หลังจากนั้น พล.อ.เปรมได้ใช้กระบอกฉีดน้ำผสมน้ำอบไทย ฉีดให้สื่อมวลชน ถามว่าเย็นไหม ก่อนจะเดินกลับเข้าไปภายในบ้าน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดีเป็นพิเศษ,นายกฯขออย่ามุ่งติติงกันทุกเรื่อง,ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อม พล.อ.ฉัตรชัย พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.อนันตพร พล.ต.อ.อดุลย์ พร้อมนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ไปเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบางแค กทม.เนื่องในเทศกาลสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ วันที่ 14 เม.ย. โดยจัดการแสดงชุดรำวงดาวพระศุกร์ และการแสดงประกอบเพลง คนดีไม่มีวันตาย ให้นายกฯและคณะได้ร่วมรำวงเพลง ระบำสาวกันตรึม อย่างครื้นเครง ก่อนสรงน้ำพระและรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุ หนึ่งในนั้นเป็นคุณยายอายุ 102 ปี นายกฯกล่าวว่า มีความสุขเหมือนได้เจอคุณพ่อคุณแม่อีกครั้งหนึ่ง คุณพ่อของตนความจำไม่ค่อยดีแล้ว คุณแม่เสียไปนานแล้ว วันนี้มาร่วมอวยพรและขอพรจากพวกท่านเมื่อเช้า ได้ไปขอพรจาก พล.อ.เปรมอายุ 99 เกือบ 100 ปีแล้วยังเดินเหินได้ พูดคุยเก่ง ให้โอวาทได้เหมือนเดิม หลายท่านเกิดในยุคสมัยที่ไม่ใช่แบบนี้ ยุคแห่งโลกดิจิทัลทำให้คนมีวิกฤติและโอกาส คนสมัยก่อนไม่เจอ แต่ประเทศไทยต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจะมุ่งเน้นติติงกันทุกเรื่องก็ทำไม่ได้,ทำ ปชต.แบบชาติสงบโชว์ทูต ตปท.,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หากเราไม่รู้ว่าประเทศ ไทยเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะไม่เกิดแรงบันดาลใจ จำเป็นต้องเรียนรู้จะได้ไม่เป็นคนโง่ อะไรที่ดีให้สืบสานต่อ ต้องนำประวัติศาสตร์มาประยุกต์ในปัจจุบัน สิ่งไหนไม่ดีอย่าทำ ประวัติศาสตร์ชาติไทยเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้มมีความสุข มีทรัพยากรธรรมชาติที่งดงาม ต้องรักษาสิ่งเหล่านั้นให้ได้ ขอฝากพวกเราให้เป็นหลักประเทศ บอกลูกหลานสิ่งสำคัญที่สุด ต้องมีหลักตัวเองในเรื่องสถาบัน วันนี้ต่างประเทศมาเกี่ยวข้องเราเยอะ เรามีทูตหลายสิบประเทศในไทย และเราไปอยู่ข้างนอกเหมือนกันเป็นร้อยประเทศ เชื่อมโยงกัน ถ้าเราทำอะไรไม่ดีออกไปต่างประเทศ ความมีเสถียรภาพ การค้าจะหายหมด การเป็นประ- ชาธิปไตยเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยในแบบที่บ้านเมืองสงบ ด้วยการปฏิรูปตนทำคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกัน,โชว์เพลง จงรัก-คนดีไม่มีวันตาย,จากนั้นนายกฯได้ร้องเพลง จงรัก และ คนดีไม่มีวันตาย พร้อมกล่าวว่าเราต้องทำวันนี้เพื่อคนรุ่นใหม่ ช่วยเตือนอย่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข เตือนลูกหลานต้องอยู่แบบสังคมสงบสุข ทะเลาะกันอีกไม่ได้แล้ว ยิ่งทะเลาะกันเท่าไหร่ จะทำให้ประเทศเสียหาย อะไรเป็นเรื่องกฎหมายก็แก้กันไปโดยคนมีหน้าที่ หากไม่พอใจร้องอุทธรณ์มีกติกาทั้งหมด วันนี้วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ ตนไม่อาจไปแก้ตัวให้กับใครได้ แต่ละคนหน้าที่ไม่เหมือนกัน ถ้ายุ่งทุกเรื่องกลายเป็นรัฐบาลที่ถูกเขาว่าอีก จากนั้นนายกฯพบปะและเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง,ถ้าบ้านเมืองพังพินาศเราอยู่กันไม่ได้,ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) กทม.นายกฯได้กล่าวตอนหนึ่งระหว่างตรวจเยี่ยมมาตรฐานให้บริการขนส่งผู้โดยสารเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า วันนี้มาส่งกลับบ้าน ใครจะไม่รักนายกฯไม่รู้ แต่นายกฯรักทุกคน อย่าให้ใครมาทำให้ทะเลาะแตกแยกกันอีก เบื่อแล้ว นายกฯไม่ต้องการอะไรแค่ขอให้ทุกคนเป็นคนดี เพื่อชาติบ้านเมืองให้มากขึ้น เป็นเวลาที่ทุกคนต้องดูแลประเทศ ถ้าประเทศดีอย่างอื่นก็ดีด้วย ถ้าบ้านเมืองพังพินาศไปแล้ว เราก็อยู่ไม่ได้ ถึงเราจะดีแต่บ้านเมืองไม่ดีไม่ได้ การเชื่อมั่นไว้วางใจใครต้องอยู่ที่กฎหมาย หลักฐาน พยาน อย่าไปคิดเอาเอง ถ้าเราโทษใครสักคน มองแต่ความผิดเขาไปเรื่อยๆ คนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้แก้ตัว สังคมต้องให้โอกาสเขาทำดี ตอนนี้ความไม่ดีอาจมากกว่าความดี ก็ให้เขาทำความดีต่อไป เพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น ถ้าเราสร้างความเกลียดชังมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งอันตรายกับประเทศ ไม่ใช่มามุ่งหวังเปลี่ยนแปลงโดยใช้ความรุนแรงอะไรต่างๆ เราสงบสุขมา 4-5 ปีแล้ว มาทำอะไรกันอีก ต้องทำให้บ้านเมืองสงบ เป็นเป้าหมายสุดท้ายที่เราต้องการ ไม่ใช่มามุ่งหวังเปลี่ยนแปลงประเทศ ใช้ความรุนแรงอะไรต่างๆ เราสงบสุขมา 4-5 ปีแล้ว,พท.บี้ กกต. ยึด รธน.–ก.ม. เลือกตั้ง,เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.วิโรจน์ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่าได้เตรียมจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีวันที่ 21 เม.ย. ที่จะสรุปสถานการณ์การเมืองและท่าทีของพรรคให้สมาชิกพรรคทราบ ส่วนการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต.ในรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.กำหนดวิธีปฏิบัติไว้ชัดเจน ไม่สามารถคำนวณตามอำเภอใจใครได้ ที่ประชุมจึงให้ทำหนังสือเป็นทางการยื่นให้ กกต. หากไม่ปฏิบัติถือว่า กกต.จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ,ขู่ดื้อฝืน ก.ม.ต้องรับผิดชอบ,เมื่อถามว่าถ้า กกต.ยังยืนยันใช้สูตรเดิมคำนวณ ส.ส.แบบเดิมพรรคจะทำอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า กกต.ต้องทำตามกรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ถ้าคำนวณเป็นอื่นแล้วพิสูจน์ไม่ได้ว่าถูกต้อง ถือว่า กกต.พยายามจงใจทำผิดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ต้องไปว่ากันในวันข้างหน้าจะอ้างว่าทำถูกกฎหมายอ้างได้ แต่ถ้าผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบ ภาคประชาชน พรรคการเมือง มีข้อคิดเห็นทางเดียวกัน ล้วนร้องขอให้ กกต.กระทำการให้ถูกกฎหมาย การเข้าชื่อยื่นถอดถอน ประชาชนทำได้ พรรคเพื่อไทย จะไม่หยุดแค่นี้ ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเราโอเคแต่ถ้าไม่จะใช้ทุกช่องทางตามที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ มีช่องทางไหนพอทำได้จะทำทุกช่องทาง กกต. ยังมีปัญหาค้างไว้หลายเรื่อง เราขอข้อมูลดิบ กกต. ยังไม่ตอบไม่แสดงท่าทีใดเลย อยากให้ กกต. กล้าหาญ ถ้ายืนยันว่าไม่ผิดรัฐธรรมนูญ 7 เสือ กกต.บอกมาให้ชัดเจน,ต่ำกว่า 71,065 เสียงไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์,ด้านนายชูศักดิ์กล่าวว่า กกต.แถลงว่าจะมีกว่า 25 พรรคได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น พรรคเห็นว่าวิธีคำนวณอาจขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.วิธีการกำหนดไว้ในกฎหมายชัดเจน จำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงมีต้องยึดจำนวนที่คำนวณได้เป็นเกณฑ์จะนำไปเฉลี่ยให้กับพรรคที่มีคะแนนต่ำกว่า 71,065 คะแนนไม่ได้ พรรคใดมีคะแนนต่ำกว่าคะแนนต่อ ส.ส.หนึ่งคนย่อมไม่มีสิทธิได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคที่จะได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต้องเป็นพรรคที่มี ส.ส.พึงมีเสียก่อน ตามข้อกฎหมายไม่มีช่องทางใดเลยที่พรรคซึ่งมีคะแนนต่ำกว่า 71,065 คะแนนจะได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคได้มีหนังสือถึง กกต.ให้ทบทวนเสียใหม่ให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่อไป หากไม่ทำตามกฎหมาย กกต.ต้องรับผิดชอบ มีมาตราไหนให้เอา 150 ไปบวก 25 เสียงที่พรรคเพื่อไทยได้เกินเป็น 175 แล้วปรับให้เป็น 150 เสียง เปิดดูรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกไม่มีเขียนไว้ ไม่อยากให้ไปคิดอะไรนอกกรอบกฎหมาย,ง้างปาก 7 อรหันต์ยึดกฎหมายใด,ต่อมาเวลา 15.45 น. นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมนายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความไปที่สำนักงาน กกต. เข้ายื่นหนังสือขอความชัดเจนว่า กกต. คิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อยึดตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาตราใด มีเพียงสำนักงาน กกต.ที่เผยแพร่การคำนวณ แต่ยังไม่เคยมีการยืนยันจาก 7 กกต. จึงขอให้ กกต.ตอบสังคมให้ชัดเจน พรรคเพื่อไทยคิดว่าต้องยึดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 และ 129 เท่านั้นจึงจะถูกต้อง หลังเลือกตั้งภาวะปกติพรรคอันดับหนึ่งจะกำลังเดินหน้าตั้งรัฐบาล การค้าการลงทุนจะกระปรี้กระเปร่า แต่ความเป็นจริงฝ่ายสืบทอดอำนาจกลับไม่ยอมรับคำว่าแพ้ ทำทุกทางเพื่อเอาชนะ ไม่คำนึงถึงกฎกติกามารยาท องค์กรอิสระที่จะนำมาพาประเทศออกจากวิกฤติกลับยิ่งทำงานผิดเพี้ยน จนถูกประชาชนเกือบล้านคนลงชื่อถอดถอน มีการดำเนินคดีผู้นำพรรคการเมืองฟากประชาธิปไตยอย่างหนักหน่วง พยายามปิดกั้นไม่ให้ตัวแทนจากชาติต่างๆเข้ามาสังเกตการณ์ ส่ออาจนำพาประเทศไปสู่ทางตันได้,นักวิชาการบี้ กกต.เปิดคะแนน,ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักวิชาการ เครือข่ายนักศึกษาและภาคประชาสังคม ที่เคลื่อนไหวยื่นถอดถอน กกต. เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงาน กกต. นายอนุสรณ์ อุณโณ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองถึง กกต.ระบุว่าการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ไม่ช่วยให้ประเทศไทยพ้นวิกฤติตามที่ควรจะเป็น กลับยิ่งซ้ำเติมให้วิกฤติรุนแรงมากขึ้น มีข้อพิรุธและก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อผิดหลักการอาจขัดรัฐธรรมนูญ ประชาชนที่เข้าชื่อถอดถอน กกต. กลับถูกฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท ยิ่งสร้างความไม่พอใจในสังคมเพิ่มขึ้น สภาพการณ์นี้กำลังพาสังคมไทยไปสู่จุดตีบตันหรือว่าวิกฤติระลอกใหม่ คนส.จึงมีข้อเรียกร้อง กกต.ให้เปิดเผยผลการนับคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งและวิธีรวบรวมผลนับคะแนนที่ กกต.รายงานไม่ตรงกับผู้มาใช้สิทธิ หากผลคะแนนไม่ตรงกัน กกต.ต้องนับใหม่,จี้เผยสูตรคำนวณ ส.ส.เป็นทางการ,นายอนุสรณ์ระบุอีกว่า กกต.ต้องเปิดเผยวิธีการและขั้นตอนคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยละเอียดอย่างเป็นทางการ หากไม่เร่งสร้างความกระจ่าง ไม่นำ วิธีการคำนวณที่ถูกต้องที่ฝ่ายต่างๆเสนอมาประกอบการพิจารณา การประกาศผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน และต้องถอนฟ้องประชาชนที่แชร์การลงชื่อถอดถอน กกต. รวมถึงประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงาน กกต.ในลักษณะอื่น ไม่ควรใช้กฎหมายมาปิดปาก หรือสุ่มเลือกดำเนินคดีกับบางคนภายใต้เป้าหมายบางประการ ถ้าไม่ถอนฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ขอให้ดำเนินคดีกับนักวิชาการที่ลงชื่อและแชร์การถอดถอน กกต.ใน Change.org 121 คนเท่าเทียมกัน อยากให้ กกต.กล้าหาญมากกว่านี้ อย่าเห็นแก่ตนเองที่ได้รับการปลุกปั้นหรือหวาดกลัวสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อเป็นองค์กรอิสระที่เที่ยงธรรม ช่วงแรกเครือข่ายได้มาให้กำลังใจ กกต. ถึง 2 ครั้ง แต่หลังจัดการเลือกตั้งเสร็จพบว่า กกต.ชุดนี้ไม่เป็นกลางมากที่สุด ประเมินว่าสอบตก,วอนยุติแจ้งความผู้เข้าชื่อสอย,ต่อมาเวลา 11.45 น. นายอัมรินทร์ สายจันทร์ นักกฎหมายมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม นำรายชื่อ 63 เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมและมนุษยชนเข้ายื่นต่อประธาน กกต. เรียกร้องให้ 1.กกต.ถอนคำร้องทุกข์กับผู้กล่าวหาทั้ง 7 คนทันที และยุติการแจ้งความต่อประชาชนอื่นที่เผยแพร่รณรงค์และเข้าร่วมลงชื่อถอดถอน กกต. 2.ให้เปิดเผยผลคะแนนเป็นรายหน่วยของทุกหน่วยเลือกตั้ง เผยแพร่ต่อสาธารณชน ไม่ใช่ผลักภาระให้แต่ละคนต้องเดินทางไปยื่นคำร้อง ขอคัดถ่ายสำเนาข้อมูลเอง และ 3.การคำนวณที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเคร่งครัด โดยพรรคที่จะได้รับจัดสรร ส.ส.อย่างน้อย 1 ที่นั่ง ต้องได้คะแนนจากประชาชนรวมกันทุกเขตเลือกตั้งอย่างน้อย 71,065 คะแนน เป็นอัตราส่วนเดียวกันทุกพรรค,สนท.ปลุกฟ้อง ม.157 กกต.ต้องติดคุก,ขณะที่เมื่อเวลา 10.15 น. ที่หน้าตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ สหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นำโดยนายจักรี เสาวภา ประธาน สนท. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) พร้อมสมาชิก สนท. ร่วมกันแถลงข่าว เปิดแคมเปญ# กกต.ต้องติดคุก ชวนเพื่อนนักเรียนนักศึกษาร่วมฟ้อง กกต.ม.157 นายจักรีกล่าวว่า การจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. โดย กกต.ที่มีนายอิทธิพร บุญประคอง เป็นประธาน เต็มไปด้วยความผิดปกติ เป็นที่วิจารณ์ของสังคม ทั้งยังใช้ดุลพินิจวินิจฉัยต่างๆขัดต่อหลักกฎหมายและประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตย เป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม สนท. จะฟ้องร้องเอาผิด กกต. ทั้ง 7 คน ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และขอเชิญชวนองค์กร กลุ่มกิจกรรมนักเรียนนักศึกษา องค์กรภาคประชาสังคม ร่วมเป็นเครือข่ายหรือคณะทำงานเอาผิด กกต. ร่วมกับ สนท. จะรายงานความคืบหน้าทางคดีด้วยการใช้แฮชแท็ก# กกต.ต้องเข้าคุก,เพนกวิน ฮึ่มเผด็จศึกหลัง 9 พ.ค.,นายพริษฐ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต.ชุดที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน เคยถูกฟ้องดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันได้รับโทษอาญามาแล้ว น่าจะเป็นบรรทัดฐานนำมาเปรียบเทียบกับการฟ้องของ สนท.แต่เพื่อไม่ให้กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ในการรับรองผลการเลือกตั้ง สนท.จะรอ จนกว่าการรับรองผลในเดือน พ.ค.เสร็จสิ้นก่อนถึงจะยื่นฟ้อง หากเกิดเหตุกรณีศาลรัฐธรรมนูญออกมาชี้ให้การเลือกตั้งต้องเป็นโมฆะดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ก็เท่ากับว่า กกต.จะต้องรับผิดชอบด้วย อย่างไร ก็ตาม สนท.ขอประกาศเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปส่งหลักฐานการปฏิบัติหน้าที่ไม่สุจริตของ กกต.เข้ามาเพื่อรวบรวมเสนอต่อศาล ส่วนกรณีที่ กกต.แจ้งความตนข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ขอประณาม กกต.ที่พยายามใช้กฎหมายปิดปากประชาชน ทำให้สิทธิเสรีภาพประชาชนตกต่ำลง แต่ยังมั่นใจกระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายเพราะติชมวิพากษ์วิจารณ์ กกต.โดยสุจริต,ภาค ปชช.ขน 8.4 แสนชื่อยื่น ป.ป.ช.,นายอนุสรณ์ หนองบัว ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายกลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม เปิดเผยว่า หลังจากที่กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่ เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคมรณรงค์โครงการ 1 ล้านชื่อยื่นถอดถอน #กกต.โป๊ะแตก ผ่านเว็บไซต์ ,www.change.org, และตั้งโต๊ะล่ารายชื่อในมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 10 เม.ย. มีผู้ลงชื่อร่วมกับเรา 849,079 คน และวันที่ 11 เม.ย. เวลา 09.30 น. จะนำรายชื่อผู้ไม่ไว้วางใจต้องการถอดถอน กกต.พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานร้องเรียนการกระทำความผิดของ กกต.ยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช.สนามบินน้ำ เชิญชวนประชาชนมาร่วมกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการใส่เสื้อสีขาวหมายถึงความโปร่งใสขาวสะอาด,ปัดวุ่นไล่แจ้งจับคนลงชื่อสอย,ช่วงเย็น ศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าว สำนักงาน กกต.ออกเอกสารชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่บทความเรื่อง จากธนาธร อนาคตใหม่ ถึงกรณีหมิ่นประมาท กกต. มีเนื้อหาว่า กกต.มีมติแจ้งความดำเนินคดีหมิ่น ประมาทกับคนที่ร่วมลงชื่อถอดถอน 7 กกต. เป็นการนำเสนอข่าวสารคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง การดำเนินการของ กกต.เป็นการใช้สิทธิทางกฎหมายกับบุคคลที่โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จใส่ร้ายป้ายสี หรือกล่าวหา ทำให้ กกต.ได้รับความเสียหายหรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ไม่ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่ร่วมลงชื่อถอดถอน กกต.รายหนึ่งรายใดโดยเฉพาะ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกบุคคลใดมาสอบสวนถือเป็นการใช้ดุลพินิจพิจารณาพยานหลักฐานของพนักงานสืบสวนตามอำนาจหน้าที่ ส่วนกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟซบุ๊กยกเหตุผล 12 ข้อ เหตุผลทำไม กกต.จึงไม่เป็นที่เชื่อถือของสังคม ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความความจริง,นิพิฏฐ์ ย้ำ กก.บห.เอี่ยวโกง ลต.พัทลุง,ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 แถลงถึงประเด็นการทุจริตการเลือกตั้งส.ส.พัทลุง เขต 2 ว่ายืนยันว่ามีการทำเป็นกระบวนการที่ใหญ่มาก ได้บอกเจ้าหน้าที่รัฐไว้ก่อน พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปประกาศเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ว่ามีการเตรียมทุจริตโดยยื่นเรื่องต่อกับ กกต.พัทลุงและผู้ว่าฯ หลังจากนั้นมีการถ่ายบัตรประชาชนไว้เบื้องต้น 4 หมื่นใบ และเพิ่มเป็น 6 หมื่นใบ กรรมการบริหารพรรคนี้ มีส่วนรู้เห็นเป็นใจการทุจริต มีโทษถึงยุบพรรค แต่มีการต่อรองกับผู้มีอำนาจอย่าให้โทษถึงยุบพรรคให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็พอ จะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลเพราะเป็นพรรคหนึ่งที่จะร่วมรัฐบาล กรณีนี้มีหลักฐานที่โยงถึงกรรมการบริหารพรรคและมีพยานบุคคลรวมถึงคลิปข้อความสั่งทางไลน์ด้วย,แฉเจรจาลับตัดตอนยุบพรรค,เมื่อถามว่า ทราบได้อย่างไรว่ามีการเจรจาต่อรองเพื่อไม่ให้ยุบพรรคดังกล่าว นายนิพิฏฐ์กล่าวว่ารู้มาในทางลับว่ามีการเจรจาต่อรองกันโดยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับผู้มีอำนาจปัจจุบันให้ตัดตอนโทษการยุบพรรคออกไป เพราะพรรคการเมืองที่ว่านี้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากมีการสั่งยุบพรรคจะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล และอยากสื่อไปถึงนักกฎหมาย นักวิชาการ ขอให้ดูเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษา ว่าจะถึงยุบพรรคหรือไม่ เพราะพยานหลักฐานแน่นหนา เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า กกต.ชุดนี้สั่งได้ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าสั่งได้ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับใหญ่กับผู้มีอำนาจเจรจาต่อรองกัน เมื่อถามอีกว่า มีบางฝ่ายระบุว่าการประกาศ พ.ร.ฎ. จนถึงวันเลือกตั้งมีเวลาเกิน 60 วัน ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จะทำให้การเลือกตั้งนี้เป็นโมฆะหรือไม่นั้น นายนิพิฏฐ์ยอมรับว่าไม่ได้ศึกษารายละเอียดในข้อกฎหมายดังกล่าว,ชวน มั่นใจ ปชป.มีคนเก่งหลายคน,เมื่อเวลา 09.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะไม่ขอกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีก หลังจากนายเทพไท เสนพงศ์ ว่าที่ ส.ส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนว่าเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว เหตุผลที่ไม่รับตำแหน่งนี้เพราะเชื่อมั่นว่ายังมีคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความสามารถอีกหลายคน สำหรับตนยืนยันว่าสถานะปัจจุบันที่เป็นอยู่ก็พร้อมช่วยงานพรรค ไม่ต้องเสียเวลาเรื่องพิธีการ สามารถออกไปช่วยได้ตลอดและช่วยได้มากกว่า สมาชิกพรรคทุกคนสามารถช่วยงานให้พรรคได้,เตือนกลุ่มนิวเด็มก่อนกลุ่มถาวร,เมื่อถามถึงกรณีออกมาเตือนกลุ่มนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.สงขลาและอดีตแกนนำ กปปส.ที่สนับสนุนให้พรรคเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลัง–ประชารัฐจนถูกมองว่าเป็นการเตือนเพียงฝ่ายเดียว ทั้งที่กลุ่มนิวเด็มเคยแสดงความเห็นว่าอยากให้พรรคเป็นฝ่ายค้านอิสระ นายชวนกล่าวว่า ก่อนที่จะเตือนกลุ่มของนายถาวรในเรื่องนี้ ตนได้เตือนสมาชิกพรรคกลุ่มที่อยากเป็นฝ่ายค้านอิสระไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่าควรรอให้คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติก่อน จึงค่อยแสดงความเห็นส่วนตัว กลุ่มนิวเด็มยุติการแสดงความเห็นไปแล้ว,อุตตม ไม่ได้อยู่เฉยลุยจัดตั้งรัฐบาล,เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ มีการประชุมคณะผู้บริหาร แกนนำพรรค และประธานยุทธศาสตร์ภาคของพรรค ในที่ประชุมมีการรายงานภาพรวมผลการเลือกตั้งของพรรค จำนวน ส.ส.ที่ได้และข้อร้องเรียน รวมถึงแนวทางปฏิบัติก่อนการจัดตั้งรัฐบาล จากนั้นช่วงบ่ายนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุมว่าที่ ส.ส.ของพรรค มีแกนนำพรรคและว่าที่ ส.ส.เข้าร่วมพร้อมเพรียง นายอุตตมกล่าวว่า แม้บางพื้นที่เราไม่ได้ ส.ส.ต้องให้กำลังใจกัน พรรคจะอยู่ต่อไป เป็นสถาบันทางการเมืองถาวร ทำอะไรใหม่ๆให้ประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่าน เรามีงานที่ต้องทำด้วยกันอีกมาก เช่น การเดินหน้าการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงเตรียมขับเคลื่อนนโยบายที่นำเสนอต่อประชาชน เราพูดแล้วทำได้จริง ทำทันที จะไม่ทิ้งสัญญาของเรา นอกจากนี้ ต้องเตรียมการหากมีเลือกตั้งซ่อม การจัดตั้งรัฐบาลจะเดินตามกรอบเวลาและขั้นตอนที่กำหนดไว้แล้วโดยกกต. เราไม่ได้อยู่เฉยๆ,สูตร รบ.แห่งชาติไม่เคยอยู่ในหัว,นายอุตตมกล่าวอีกว่า พรรคมั่นใจการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ต้องทำไปตามขั้นตอน ต้องรอให้ กกต. แถลงรับรองอย่างเป็นทางการวันที่ 9 พ.ค. ถึงตรงนั้นจะชัดเจนขึ้น ขอเรียกร้องให้ กกต.ทำสิ่งเหล่านี้ให้ชัดเจนมากที่สุด ส่วนเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ พรรคไม่เคยมีแนวคิดเสนอทางเลือกนี้ เดินหน้าภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ยึดมั่นกฎเกณฑ์การเลือกตั้ง การหารือกับพรรคเล็กต่างๆเป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่ แต่ยังไม่ได้มีข้อสรุปอะไร คงไม่มีใครไปพูดอะไรที่ทำให้ผูกมัดได้ตอนนี้ พรรคยืนยันจุดยืนเดิมและจุดยืนเดียวเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ในนามพรรคต่อไป อย่ากังวลว่าจะมีปัญหาเดดล็อกการเมือง อย่าไปคิดถึงตรงนั้นเหตุการณ์ยังไม่เกิด ต้องเชื่อไว้ก่อนว่าจะเดินไปสู่จุดที่คนไทยอยากเห็น คือการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้,เบรกว่าที่ ส.ส.บวชแก้บน-ให้ของ,ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า จำนวน ส.ส.ที่พรรคจะได้เรามีวิธีคำนวณใกล้เคียงที่สุด จะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 19 คน รวมกับ ส.ส.เขต 97 คน ตัวเลข ส.ส.ของพรรคตอนนี้จะอยู่ที่ 116 คน ส.ส.เขต 97 คน มี ส.ส.เก่า 37 คน และเป็น ส.ส.ครั้งแรก 60 คน ไม่นับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล้าบอกว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ไม่ได้แตกต่างจากพรรคที่บอกว่าเป็นคนรุ่นใหม่เท่าไร ตัวเลขเป็นอย่างนี้มีงานต้องทำอีกเยอะ เบื้องต้นสิ่งที่สำคัญที่สุดต้องระวังอย่าให้ผิดคุณสมบัติ มีคนบอกว่าชนะแล้วจะบวชแก้บน อย่าเพิ่งบวช จะผิดคุณสมบัติห้ามเป็นภิกษุสามเณร ต้องรีบเตือนกันไว้ดูให้ดีจะทำอะไรอย่าบุ่มบ่าม ช่วงเทศกาลไม่ควรให้ของขวัญหรือสิ่งของใดๆ ไม่สามารถทำได้ต้องเข้มกันไว้ก่อน อย่าเพิ่งไปให้มีปัญหาคุณสมบัติ เพราะ กกต.ยังไม่ได้รับรอง,อนุทิน ไหว้พระธาตุพนมขอไทยร่มเย็น,ช่วงสาย ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย โพธิ์สุ ว่าที่ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทยและคณะ ไปทำบุญกราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุพนมสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพร้อมประกอบพิธีสำคัญ อาทิ ลงนามห่มผ้าพระธาตุพนม เชื่อกันว่าจะได้รับความสุขความเจริญและมีอำนาจบารมี ไหว้อธิษฐานขอพรภายในองค์พระธาตุพนมบนชั้น 3 ขององค์พระธาตุเพื่อขอพรเสริมดวง โดยนายอนุทิน เปิดเผยว่าใกล้วันสงกรานต์จึงถือโอกาสมาเที่ยวพักผ่อน จ.นครพนม หลังสู้ศึกเลือกตั้งมานานหลายเดือน ไม่ได้ขอพรอะไรเป็นพิเศษ รวมถึงตำแหน่งนายกฯยังไม่คิดเรื่องนี้ การจะนั่งตำแหน่งนี้ไม่ได้สำคัญที่การขอพร ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนและผลงานที่ทำเพื่อบ้านเมือง ได้อธิษฐานขอพรให้บ้านเมือง ประเทศไทยสงบสุขร่มเย็น และเจริญก้าวหน้า ปราศจากความขัดแย้งเดินหน้าไปในทิศทางที่ดี,กต.เฉ่งทูตแทรกแซงไทย,น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตหรืออุปทูตรักษาการสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐฯ ฟินแลนด์ เบลเยียม และสหภาพยุโรป ที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การรับทราบข้อกล่าวหาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เข้าพบรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ รับผิดชอบภารกิจทวิภาคี โดยได้แสดงความผิดหวังและห่วงกังวล โดยเฉพาะการทำให้เกิดภาพที่ถูกตีความได้ว่าไปให้กำลังใจนายธนาธร เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในบริบททางการเมืองไทยปัจจุบัน เกินเลยภารกิจทางการทูต เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในของไทย ละเมิดหลักปฏิบัติและพันธกรณีทางการทูต ภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ค.ศ. 1961 มาตรา 41 จึงขอให้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ส่วนอีก 2 ประเทศจะมาพบวันที่ 11 เม.ย.
บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม นำทีม ครม.-ผบ. เหล่าทัพรดน้ำขอพร ป๋าเปรม ชื่นมื่น ประธานองคมนตรี ยืดอกการันตี รัฐบาลประยุทธ์ ไม่โกง แต่หากพูดผิดนายกฯต้องจัดการ
เลือกตั้ง
เปรม ติณสูลานนท์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,กกต.,เลือกตั้ง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1542185
[ 0, 259, 203061, 2091, 169184, 77772, 34904, 10062, 229634, 138658, 259, 27605, 35835, 259, 89402, 3945, 260, 2091, 139800, 6581 ]
ภาพ น.ศ.ถือป้าย Free Thailandหน้าม.อุบล–ราชภัฏอุบล ที่แท้ภาพเก่าเมื่อ พ.ค.
ภาพนักศึกษาถือป้าย สัญลักษณ์สันติภาพ No Violence Free Thailand หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ที่แท้เป็นภาพเก่าเมื่อเดือนพฤษภาคม20 พ.ย.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 6.10 น. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ โพสต์ภาพกลุ่มคนถือป้ายสัญลักษณ์สันติภาพ No Violence Free Thailand พร้อมบรรยายประกอบภาพดังกล่าวว่า มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีษะเกษ ร่วมกันต่อต้านรัฐประหาร พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องร่วมกันต่อสู้ไปด้วยกันครับ ถ้าเราร่วมกันสามัคคีกันเราชนะเผด็จการแน่ ร่วมกันสู้กับมันลุยโพสต์ดังกล่าวมีผู้กดถูกใจกว่า 800 และแชร์กว่า 300 แชร์ โดยหลายคนที่แชร์เข้าใจว่าเป็นเหตการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าภาพดังกล่าวเคยถูกโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 พ.ค.57 (2 วันหลัง คสช. ยึดอำนาจ) โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ โดยให้เครดิต ปชส. และบรรยายประกอบภาพว่า 14:02น.กลุ่มคนต่อต้านการรัฐประหาร ที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ซึ่งมีผู้กดถูกใจกว่า 800 และแชร์กว่า 100 แชร์
ภาพนักศึกษาถือป้าย สัญลักษณ์สันติภาพ No Violence Free Thailand หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ที่แท้เป็นภาพเก่าเมื่อเดือนพฤษภาคม 20 พ.ย.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 6.10 น.
การเมือง,ไอซีที
ความเงิบ,ต้านรัฐประหาร,ภาพเก่าเล่าใหม่,มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี,เฟซบุ๊ก
https://prachatai.com/journal/2014/11/56595
[ 0, 259, 74634, 69674, 211459, 47815, 168225, 259, 136927, 259, 74634, 47815, 152563, 142995, 80845, 97652, 26493, 189713, 259, 125423 ]
ย้อนกลับไปปี 1929 ประวัติงานออสการ์ และความเป็นมาของรูปปั้นน้ำหนัก 3.856 กิโลกรัม!
ใกล้เข้ามาทุกทีกับงานประกาศรางวัลอคาเดมี อวอร์ดส์ (Academy Awards) หรือในชื่อที่ทุกคนคุ้นเคยกันกับงานประกาศรางวัลออสการ์ โดยปีนี้เป็นปีที่ 90 ของการจัดงาน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม 2561 ที่ดอลบี้เธียเตอร์ ฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนที่ไทยจะเป็นเช้าวันที่ 5 มีนาคม 2561 ก่อนที่จะถึงวันงาน เรามีประวัติความเป็นมาของงานประกาศรางวัลทางภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลกงานนี้มาฝากงานออสการ์ครั้งแรกประวัติความเป็นมาของงานงานประกาศรางวัลออสการ์ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1929 ที่ห้องจัดเลี้ยงอาหารค่ำของโรงแรมฮอลลีวูด รูสเวลต์ ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย งานจัดขึ้นโดยสถาบันการศึกษาศิลปะภาพเคลื่อนไหวและวิทยาศาสตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences หรือ AMPAS) มีประธานสถาบัน ดักลาส แฟร์แบงก์ส เป็นพิธีกร จัดเพื่อเป็นเกียรติให้กับนักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ และบุคลากรที่มีส่วนร่วมในการทำภาพยนตร์ในช่วงเวลานั้น โดยแจกให้หนังที่ฉายในช่วงปี 1927-1928 ในปีแรกมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 270 คน บัตรเข้างานราคา 5 เหรียญสหรัฐ งานมีความยาวแค่ 15 นาที โดยแจกรูปปั้นรางวัลไปทั้งหมด 15 ตัว และชื่อผู้ชนะได้มีการประกาศก่อนหน้าถึง 3 เดือน ต่อมาในปี 1930 มีการเปลี่ยนแปลงโดยชื่อผู้ชนะถูกส่งให้กับสำนักพิมพ์เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนที่ประกาศรางวัล จนกระทั่งปี 1940 หนังสือพิมพ์ Los Angeles Times ได้ตีพิมพ์ชื่อผู้ชนะก่อนงานเริ่ม ชื่อผู้ชนะจึงถูกปิดผนึกใส่ซองไว้ตั้งแต่นั้นมางานได้มีการกระจายเสียงทางวิทยุครั้งแรกในปี 1930 ต่อมาทางช่อง NBC ได้รับหน้าที่ออกอากาศงานทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในปี 1953 จากนั้นช่อง ABC ได้รับหน้าที่ออกอากาศแทนในปี 1960 รวมไปถึงการออกอากาศแบบสีครั้งแรกในปี 1966 หลังจากนั้น ช่อง NBC กลับมารับหน้าที่ออกอากาศในปี 1970-1975 และช่อง ABC ได้รับหน้าที่ออกอากาศอีกครั้งตั้งแต่ปี 1976 จนถึงปัจจุบัน งานประกาศรางวัลครั้งแรกๆ จัดขึ้นที่โรงแรมและโรงละครในแถบลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย แต่เมื่อสื่อโทรทัศน์เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น ช่วงปี 1953-1957 ได้มีการจัดงานขึ้นพร้อมกันที่นิวยอร์กและลอสแอนเจลิส ต่อมาในปี 1961 งานกลับมาจัดที่ซานตาโมนิกา แคลิฟอร์เนีย และในปี 1969 งานได้ย้ายกลับมาจัดในตัวเมืองลอสแอนเจลิส ตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา โดยงานจัดขึ้นที่ดอลบี้เธียเตอร์ Photo: Dorith Mous / ©A.M.P.A.S.รูปปั้นรางวัลออสการ์รูปปั้นมีชื่อว่า Academy Award of Merit หรือที่รู้จักกันในชื่อ รูปปั้นออสการ์ มีความสูง 13.5 นิ้ว (34.3 เซนติเมตร) หนัก 8.5 ปอนด์ (3.856 กิโลกรัม) เป็นหุ่นอัศวินชุบทองคำที่ถูกปั้นในสไตล์อาร์ตเดโค ถือดาบครูเสดยืนอยู่บนฐานโลหะสีดำที่แยกออกมาเป็นม้วนฟิล์ม 5 ม้วน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ 5 รางวัลสาขาดั้งเดิมคือ สาขานักแสดง ผู้เขียนบท ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง และเทคนิคว่ากันว่านักแสดงชาวเม็กซิกัน เอมิลิโอ เฟอร์นันเดซ เป็นหุ่นต้นแบบของรูปปั้น โดยมี เซดริก กิบบอนส์ หัวหน้าผู้กำกับฝ่ายศิลป์ของบริษัท Metro-Goldwyn-Mayer หรือ MGM เป็นผู้ออกแบบ และจอร์จ สแตนลีย์ ประติมากรชาวอเมริกันเป็นผู้ปั้นแม่พิมพ์แรกของรูปปั้นทำขึ้นในปี 1928 ที่โรงหล่อ C.W. Shumway & Sons รัฐอิลลินอยส์ โรงหล่อนี้ทำรูปปั้นให้กับงานออสการ์มาตั้งแต่ปี 1928-1982 งานปีแรกๆ รูปปั้นถูกหล่อขึ้นจากทองบรอนซ์ (โลหะผสมสีน้ำตาลแดง) ไม่กี่ปีต่อมาก็ได้ถูกเปลี่ยนจากทองบรอนซ์เป็นโลหะบริแทนเนีย ซึ่งคล้ายกับโลหะผสม จากนั้นตัวรูปปั้นถูกนำไปชุบทองแดง เงินนิกเกิล และปิดท้ายด้วยชุบทอง 24 กะรัตตั้งแต่ปี 1983- 2015 โรงงาน R.S. Owens & Company เป็นผู้ผลิตรูปปั้นรางวัลออสการ์ ใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ในการสร้างรูปปั้น 50 ตัว ในปี 2016 ได้มีการเปลี่ยนผู้ผลิตรางวัลเป็นบริษัทผลิตโลหะ Polich Tallix Fine Art Foundry ที่นิวยอร์ก โดยกลับไปใช้บรอนซ์หล่อรูปปั้นเหมือนในปี 1929 จากนั้นจึงส่งไปให้บริษัท Epner Technology ที่บรูกลิน นิวยอร์ก นำรูปปั้นไปขัดเงาและชุบทองคำ 24 กะรัตตามกระบวนการที่มาของชื่อรางวัลออสการ์นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่เรื่องที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ มาร์กาเร็ต แฮร์ริก บรรณารักษ์ของทางสมาคม (ต่อมาเธอได้เป็นคณะกรรมการบริหาร) บอกว่ารูปปั้นมีลักษณะคล้ายกับลุงของเธอที่ชื่อออสการ์ โดยทางสมาคมไม่ได้ตั้งให้ชื่อออสการ์เป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการจนกระทั่งปี 1939 Cover Photo: Aaron Poole / ©A.M.P.A.S.อ้างอิง:
งานประกาศรางวัลออสการ์ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1929 มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 270 คน บัตรเข้างานราคา 5 เหรียญสหรัฐ งานมีความยาวแค่ 15 นาที โดยแจกรูปปั้นรางวัลไปทั้งหมด 15 ตัว รูปปั้นมีชื่อว่า Academy Award of Merit มีความสูง 13.5 นิ้ว หนัก 8.5 ปอนด์ ถือดาบครูเสดยืนอยู่บนฐานโลหะสีดำที่แยกออกมาเป็นม้วนฟิล์ม 5 ม้วน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ 5 รางวัลสาขาดั้งเดิม
https://thestandard.co/oscars-and-academy-award-of-merit-history/
[ 0, 259, 93927, 43774, 259, 58296, 197636, 18456, 227900, 1549, 143678, 6200, 47129, 5405, 2091, 129206, 4552, 150508, 46611, 233128 ]
ทอท. ขอความร่วมมือ งดปล่อยโคมลอย หวั่นกระทบการบิน
ทอท. ขอความร่วมมือ ปชช. งดปล่อยโคมลอยช่วงเทศกาลลอยกระทง หวั่นกระทบความปลอดภัย ขณะที่พื้นที่เขตภาคเหนือ จัดพิจารณาตารางการบิน อนุญาตปล่อยโคมในช่วงไม่กระทบการบิน พร้อมรณรงค์ให้ทราบถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ระบุ หากมีความจำเป็นต้องปล่อยโคมลอย ต้องทำหนังสือแจ้ง กพท.-บวท. ล่วงหน้า 7 วัน,วันที่ 9 พ.ย. 58 นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือ เทศกาลยี่เป็ง ในระหว่างวันที่ 24-26 พ.ย.58 จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวปล่อยโคมลอยตามประเพณีเป็นจำนวนมาก โดยในส่วนของ ทอท. ซึ่งบริหารท่าอากาศยาน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยด้านการบิน จึงขอความร่วมมือจากชุมชนและประชาชนโดยรอบท่าอากาศยาน ที่มีความจำเป็นจะต้องปล่อยโคมลอยตามประเพณี ให้ปล่อยโคมลอยในช่วงเวลาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ,สำหรับท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ร่วมประชุมกับสายการบิน ขอความร่วมมือพิจารณาจัดตารางการบินให้เหมาะสมในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงทำการบินหลังเวลา 21.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย. 58 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อนุญาตให้สามารถปล่อยโคมลอยได้ตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ และที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ขอความร่วมมือประชาชน ให้ปล่อยโคมลอยหลังเวลา 21.30 น. ระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2558 และปล่อยโคมควันในช่วงเวลา 10.00 – 12.00 น. ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 เท่านั้น,สำหรับ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานโดยรอบท่าอากาศยาน ตลอดจนประชาชน ชุมชนต่างๆ ช่วยรณรงค์และประชาสัมพันธ์งดปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดเขตบริเวณใกล้เคียงท่าอากาศยานเป็นเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ โดยให้หลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอย การปล่อยลูกโป่งสวรรค์ การจุดพลุและดอกไม้ไฟ รวมถึงการส่องลำแสงขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งอาจเป็นการรบกวนการบินของเครื่องบิน โดยได้มีการรณรงค์ให้ทราบถึงอุบัติเหตุร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นกับอากาศยาน และบทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง ทั้งนี้ วัสดุและรูปแบบที่เหมาะสมของโคมลอย จะต้องมีขนาดที่เป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ได้แก่ ตัวโคมต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 เซนติเมตร ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร ใช้กระดาษว่าวชนิดบาง ไม่ใช้กระดาษว่าวที่มีสีเหมือนหรือคล้ายกับสีของท้องฟ้า,นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีที่มีหน่วยงาน หรือ ชุมชน ที่อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศของท่าอากาศยาน มีความจำเป็นต้องปล่อยโคมลอยในเทศกาลลอยกระทง ขอให้ทำหนังสือแจ้งข้อมูลรายละเอียดก่อนล่วงหน้า 7 วัน โดยแจ้งมายังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) หรือพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตให้แจ้งไปยังนายอำเภอถลาง เพื่อออกประกาศนักบิน (NOTAM) แจ้งถึงสายการบินเกี่ยวกับกิจกรรมการปล่อยโคมลอยในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนที่ ทชม. ทชร. และ ทหญ.ขอให้หน่วยงานแจ้งรายละเอียดมายังท่าอากาศยานในพื้นที่นั้นๆ ได้โดยตรง เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป และเกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน,ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ดังนี้ ทชม.โทร. 0-5392-2210 ทชร.โทร. 0-5379-8177 หรือ 0-5379-8000 และ ทหญ.โทร. 0-7422-7129 และ 0-7422-7192
ทอท. ขอความร่วมมือ ปชช. งดปล่อยโคมลอยช่วงเทศกาลลอยกระทง หวั่นกระทบความปลอดภัยของการบิน พร้อมรณรงค์ให้ทราบถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ระบุ หากมีความจำเป็นต้องปล่อยโคมลอย ต้องทำหนังสือแจ้ง กพท.-บวท. ล่วงหน้า 7 วัน
ท่าอากาศยานไทย,ทอท.,ปล่อยโคมลอย,เทศกาลลอยกระทง,งดปล่อยโคมลอย,นิตินัย ศิริสมรรถการ,การบิน,ความปลอดภัยทางการบิน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,กพท.,วิทยุการบิน,ออกประกาศนักบิน,ตารางการบิน,เทศกาลยี่เป็ง
https://www.thairath.co.th/content/538192
[ 0, 259, 179684, 7960, 260, 75326, 181745, 82551, 2091, 82551, 14785, 42947, 93229, 75346, 192493, 259, 67489, 38276, 82551, 259 ]
รับรองแล้ว น้ำมันกัญชาสูตร เดชา แต่ขาดวัตถุดิบผลิต
นำมันกัญชาสูตรของ เดชา ศิรภัทร ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการแล้ว แต่ขาดวัตถุดิบกัญชาจากหน่วยงานรัฐขณะมีผู้ป่วยนับแสนรายรอใช้ยา หลัง ป.ป.ส. เตรียมทำลายกัญชาของกลาง 16 ตันจาก 18 ตัน เหตุพบยาฆ่าแมลง-แคดเมียมเกินมาตรฐาน ไบโอไทยชี้ ป.ป.ส.ควรมอบของกลางให้หมอพื้นนำไปผลิต โดยตรวจค่าสารตกค้างก่อนเพื่อความปลอดภัย13 มิ.ย. 2562 เฟสบุ๊คเพจ รายงานว่า วานนี้ คณะกรรมการด้านการประเมินรับรองตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาและกระท่อมและการใช้ยาแผนไทย ที่มีกัญชาและกระท่อมปรุงผสม ได้ให้การรับรองตำรับน้ำมันกัญชาที่ปรุงและสกัดโดยใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นของ เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญแล้ว แต่ขั้นตอนการรับรองจะมีผลเป็นทางการก็ต่อเมื่อผ่านคณะกรรมการอีก 2 ชุดคือ1) คณะกรรมการอำนวยการการนำกัญชาและกระท่อมมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แผนไทย และ2) คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษของกระทรวงสาธารณสุขโดยในรายงานการแถลงของกรมการแพทย์แผนไทยฯ มิได้บอกกำหนดเวลาว่าการพิจารณาของคณะกรรมการทั้ง 2 คณะจะใช้เวลานานเท่าใดขณะนี้เดชา ได้รับการรับรองเป็นหมอพื้นบ้านแล้ว ผ่านการอบรมเป็นหมอพื้นบ้านที่สามารถใช้กัญชารักษาโรคแล้ว ยังมีขั้นตอนของหน่วยงานราชการอีกหลายขั้นกว่าหมอพื้นบ้านคนหนึ่้งที่จะแจกจ่ายยากัญชาแก่ประชาชนจะสามารถทำได้ตามประสงค์ที่สำคัญคือเดชาจะยังไม่สามารถผลิตและแจกจ่ายน้ำมันเดชาได้ จนกว่าจะได้รับวัตถุดิบกัญชาจากหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้การปลูกกัญชาสามารถดำเนินการได้โดยวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์การเกษตรนั้นต้องปลูกโดยร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐเท่านั้น หรือในขณะที่ไม่สามารถได้วัตถุดิบจากการปลูกก็ต้องได้รับการอนุเคราะห์วัตถุดิบกัญชาจาก ปปส.เท่านั้น ขณะที่มีผู้ป่วยนับหมื่นนับแสนรายที่รอรับยากัญชาเพื่อการรักษาโรค โดยเฉพาะผู้ที่ทนทุกข์จากโรคร้ายก่อนหน้านี้วันที่ 6 มิ.ย. รายงานว่า นิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. แถลงว่า เบื้องต้นสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ส่งตรวจวิเคราะห์กัญชาของกลางที่ได้จากการขอนิรโทษกรรมเพื่อหาสารปนเปื้อนชนิดโลหะหนักและยาฆ่าแมลงที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวนกว่า 18 ตัน พบว่ามี 7 กิโลกรัม ไม่พบการปนเปื้อนยาฆ่าแมลงและโลหะหนัก เตรียมนำไปใช้ทางการแพทย์ได้ ส่วนกัญชา 2 ตัน ไม่พบการปนเปื้อนยาฆ่าแมลง แต่ตรวจพบแคดเมียม มีค่าเกินมาตรฐาน โดยเตรียมนำไปใช้วิจัยและพัฒนาแจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลและสถานศึกษา รวม 10 แห่ง และ กัญชาอีก 16 ตัน ตรวจพบยาฆ่าแมลง และพบแคดเมียมเกินค่ามาตรฐาน จะทำลายทิ้งต่อไปขณะที่เฟสบุ๊คเพจ ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ไม่มีวัตถุดิบกัญชาสำหรับหมอพื้นบ้านผลิตยาแจกจ่ายแก่ประชาชนเนื่องจากกัญชาของกลางส่วนใหญ่จะถูกเผาทำลาย และส่วนที่จะใช้ประโยชน์ได้ป.ป.ส.จะส่งมอบให้โรงพยาบาลและสถาบันการศึกษา 10 แห่ง นำไปวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์น่าสังเกตว่าแนวปฏิบัติเกี่ยวกับผักผลไม้ที่มีสารพิษตกค้างนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับหลับหูหลับตาเปิดให้ขายแก่ประชาชนโดยไม่เรียกคืนหรือเผาทำลาย ทั้งๆ ที่พบการตกค้างเกินมาตรฐานถึงครึ่งหนึ่งของผักผลไม้ในตลาดทั้งหมด แต่วัตถุดิบกัญชาแทนที่จะนำมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนกลับนำไปเผาทำลายวัตถุดิบกัญชาหากนำมาใช้จะต้องผ่านกระบวนการสกัด และส่วนผสมต่างๆ เช่น น้ำมันเดชา มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชาเพียง 3% เท่านั้น ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบปริมาณการบริโภคโดยคิดคำนวณเป็นวัตถุดิบกัญชาแล้ว พบว่ามีปริมาณเล็กน้อยมากหากเปรียบเทียบกับผักผลไม้ที่ต้องรับประทานมากถึง 400 กรัม/วัน ทุกๆวันไบโอไทยสนับสนุนให้เกษตรกรและหมอยาปลูกกัญชาได้เอง โดยควรปลูกในระบบออร์แกนิค ใช้ดินและแสงแดดธรรมชาติ แต่ในระหว่างที่ไม่มีวัตถุดิบ ปปส.ควรมอบวัตถุดิบของกลางดังกล่าวให้แก่หมอพื้นบ้านเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ โดยเพื่อความปลอดภัย อาจวัดปริมาณของสารตกค้างที่ผลิตภัณฑ์สุดท้าย (end product) แล้วดูว่ายังมีสารตกค้างเกินมาตรฐานหรือไม่ตามหลักเกณฑ์ แทนที่จะเผาทำลายไปโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์รายงานว่า นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้รายงานความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนตามบทบาทภารกิจที่แต่ละคณะรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการด้านการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร เพื่อเตรียมรองรับภารกิจนี้ ได้ดำเนินการจัดอบรมครู ก และบุคลากร ผู้มีสิทธิ์สั่งใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทยแล้ว จำนวน 2937 คน ทั่วทุกเขตสุขภาพ จะดำเนินการอบรมต่ออีก 2 รุ่น ในปีนี้ นอกจากนี้คณะกรรมการด้านการวิจัยและพัฒนาวิชาการตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ มีแผนการศึกษาวิจัยร่วมกับเครือข่ายชัดเจน รวมถึงคณะกรรมการด้านการปลูก และการผลิตตำรับยา ได้มีการลงนามความร่วมมือเรียบร้อยแล้วกับสภาการเกษตรแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
นำมันกัญชาสูตรของ เดชา ศิรภัทร ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการแล้ว แต่ขาดวัตถุดิบกัญชาจากหน่วยงานรัฐ ขณะมีผู้ป่วยนับแสนรายรอใช้ยา หลัง ป.ป.ส. เตรียมทำลายกัญชาของกลาง 16 ตันจาก 18 ตัน
สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
กัญชาทางการเเพทย์,กัญชา,เดชา ศิริภัทร,น้ำมันเดชา,ไบโอไทย
https://prachatai.com/journal/2019/06/82936
[ 0, 259, 116131, 28966, 237063, 2091, 146177, 6581, 146177, 3945, 185674, 52265, 260, 9964, 260, 4552, 260, 259, 70433, 182494 ]
เปิดใจประธานเชียร์ จุฬาฯ- การรับน้องคือการให้ช่วงเวลาดีๆ สำหรับน้องใหม่
ปัญญา บัวบุปผา นิสิตคณะทันตแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 5อดีตประธานเชียร์คณะทันตแพทศาสตร์ปีการศึกษา 2544 และประธานเชียร์หอพักนิสิต จุฬาฯ ปีการศึกษา 2546 ก่อนที่จะมองว่าห้องเชียร์ควรมีหรือไม่มี ต้องดูจุดมุ่งหมายของกลุ่มหรือสังคมนั้นๆ ก่อน ถ้าจำเป็นต้องใช้ลักษณะการประชุมเชียร์ก็ต้องคิดก่อนว่าควรใช้แบบไหน ต้องดูที่รายละเอียดและวิธีการอีกที ซึ่งก็มีหลากหลายรูปแบบ นายปัญญา บัวบุปผา นิสิตปัจจุบันคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ชั้นปีที่ 5 กล่าวขึ้นในความรู้สึกของอดีตประธานห้องประชุมเชียร์ นายปัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับความรู้สึกพี่น่าจะมีกิจกรรมรับน้อง ส่วนการเข้าห้องประชุมเชียร์ก็ต้องพิจารณาตามเหตุผล ซึ่งเราควรที่จะดูพฤติกรรมน้องๆ ก่อน ว่าจะมีรูปแบบว้ากหรือแบบสนุกๆ ทั้งนี้ เราต้องดูพฤติกรรมกลุ่มว่าเห็นควรเหมาะสมหรือไม่ และถ้าจำเป็นก็ต้องใช้มาตรการในห้องประชุมเชียร์ ขณะเดียวกัน นายปัญญา มองว่าหอพักมีความจำเป็นที่ต้องมีระบวนการรับน้อง เพราะต้องการให้รุ่นน้อง รุ่นพี่ พี่ดูแลหอ และอาจารย์ ได้รู้จักกัน เพราะเปรียบเสมือนมาอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งทำให้น้องใหม่รู้จักข้อควรปฏิบัติในการมาอยู่ร่วมกันนั่นเอง นายปัญญาเห็นว่า หอพักของมหาวิทยาลัยจำเป็นต้องมีระบบห้องประชุมเชียร์ เพราะไม่ใช่หอเอกชนที่เน้นแต่เชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าเราจะดูแลคนและลูกหลานในครอบครัว เพื่อให้คนที่อยู่ไกลไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก รวมทั้งมีเพื่อนๆ พี่อยู่รอบข้าง ก็จำเป็นต้องมีการปูพื้นฐานที่ดีเพื่อให้กลุ่มสังคมดูแลกันได้ ทั้งเพื่อนพี่น้องและอาจารย์ แต่ก็ต้องดูว่ามีวิธีการที่ถูกต้องจริงๆ สำหรับปีนี้จะมีพี่สอนเพื่อให้น้องรู้จักกันประมาณ 80% โดยใช้กิจกรรมเป็นหลักและมีพี่วินัยคอยตีกรอบให้เคารพกฎ โดยมีหลักว่าเราต้องมองน้องใหม่ดีหมดทุกคน กิจกรรมต่างๆ ก็เป็นการเปิดให้น้องใหม่ได้รู้จักกัน ซึ่งห้องเรียนไม่ได้สอนวิธีใช้ชีวิต แต่ที่หอมีพี่ๆ เปิดคลาสสอนอย่างมีมาตรฐาน อดีตประธานห้องประชุมเชียร์หอพักนิสิต เล่าให้ฟัง โดยที่กระบวนการและวิธีปฏิบัติที่นำไปใช้กับรุ่นน้องนั้น ล้วนสอนแต่สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องนำมาใช้กับชีวิตในหอพักทั้งสิ้น เช่น การเชิญพี่เก่ามาเล่าให้ฟัง เกมต่างๆ มีการบ้าน จัดบอร์ด งานกลุ่ม เพื่อให้น้องๆ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ขณะเดียวกันก็ต้องมีกรอบทางวินัยมากำหนดด้วย นอกจากนี้ นายปัญญายังบอกอีกว่า ห้องประชุมเชียร์ยังต้องมีกระบวนการเพื่อล้างพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ออกไป เพราะการที่จะมาอยู่ร่วมกันถ้าไม่พัฒนาตนเองก็ต้องหาระบบมาดูแล เช่น การเตือนบอกกล่าว ซึ่งบางคนอาจไม่รู้สึกหรือไม่ใส่ใจ ก็ต้องลงโทษกันนิดหน่อย ถ้าหากใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องมาอยู่หอพัก อย่างไรก็ตาม เหตุผลหนึ่งในการรับน้องนั้น ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมคาดหวังของแต่ละสถาบันว่าต้องการให้สมาชิกออกไปอยู่ในสังคมแบบใด เป็นไปตามที่ควรจะเป็นหรือไม่ แต่ก็มีส่วนน้อยที่จะมาพิจารณาพฤติกรรมและตัวตนที่แท้จริงของน้องๆ ก่อน แต่ถ้าได้วิเคราะห์และมองเห็นเหตุของปัญหาจริงๆ แล้วก็ต้องมองว่าวิธีการที่จะนำไปใช้สอดคล้องกันหรือไม่ นายปัญญา เสนอว่า สำหรับการขัดเกลาน้องๆ เพื่อนำไปสู่สิ่งที่คาดหวังนั้น ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าความคาดหวังมีข้อตกลงเป็นอย่างไรก่อน จะเป็นของอาจารย์ รุ่นพี่ คณะ หรือว่ามหาวิทยาลัย ผมเชื่อว่ากระบวนการเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น แม้แต่ทหารที่ออกไปปกป้องบ้านเมืองยังมีการฝึก แต่สำหรับเราก็ต้องเดินทางสายกลาง แม้จะไม่ต้องต่อสู้เพื่อบ้านเมืองก็จริง แต่ถ้าเราได้คนที่เก่ง ดี แต่อ่อนแอที่จิตใจก็ไม่ได้ ถ้าจะอยู่ในสังคมนี้เราต้องหนักแน่น อดทน ไม่ตามใจตนเอง ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมทุกขั้นตอนก็ต้องอยู่ในทางสายกลางด้วย ผมเชื่อมั่นว่าปัญญาชนตัดสินใจถูกต้องแล้วในสิ่งที่ได้กระทำลงไป เพราะล้วนต้องผ่านการขัดเกลาและใช้เหตุผลมาก่อนทั้งสิ้น อดีตประธานเชียร์ แสดงความคิดเห็น ยิ่งไปกว่านั้น การรับน้องและกระบวนการห้องประชุมเชียร์ น้องใหม่ต้องเปิดใจรับ เพราะถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้ได้รู้กติกาและบรรทัดฐานทางสังคมนั้นๆ เพราะเราต้องมองว่าต่อไปในอนาคตจะต้องออกไปปกครองบ้านเมืองหรือเป็นส่วนหนึ่งของผู้นำในสังคม จึงจำเป็นต้องมีความรักใคร่ปรองดองกันเป็นพื้นฐาน จนอาจกล่าวได้ว่าเพื่อให้เกิดความสามัคคีในระดับประเทศ สังคมต้องเปิดใจรับ อย่าไปกีดกันจนเด็กลุกยืนด้วยตนเองไม่ได้ เขาอ่อนแอเกินไป เพราะพ่อแม่สมัยนี้คาดหวังให้ลูกอยู่กับพ่อแม่เพียงอย่างเดียว โอ๋ลูกเหลือเกิน ไม่เคยว่ากล่าวตักเตือน แต่ไม่เคยคิดว่าเด็กเหล่านี้ยังจะต้องออกไปเป็นปากเสียงของสังคมในอนาคต นายปัญญา ให้มุมมอง กล่าวคือ เมื่อสังคมเน้นย้ำในเรื่องธุรกิจมากขึ้น ทำให้วิธีการรับน้องก็ต้องเปลี่ยนตามด้วยการลดเป้าหมายลง แต่ก็จะทำให้ได้คนที่ไม่อดทนต่อความกดดัน ไม่มีความเข้มแข็ง เพราะสมัยนี้ต่างคนต่างจิตต่างใจ รุ่นพี่จะไปสอนลูกชาวบ้านเขาก็เป็นไปได้ยาก แม้จะมีการตั้งเป้าหมายในการรับน้องไว้แต่คนก็ไม่เคยคาดหวังกับมันจึงทำให้ไม่ประสบความสำเร็จนัก นอกจากนี้ นายปัญญา แนะนำว่า น้องๆ ควรจะเปิดใจรับ เพราะการรับน้องหรือห้องประชุมเชียร์มีความสำคัญกับเราไม่น้อยเลย เพราะหากไม่ได้ผ่านช่วงเวลานี้ไป น้องเองก็อาจไม่รู้จักเพื่อนอีกหลายคนที่จะขอความช่วยเหลือกันได้ คนที่จะมาคิดร่วมกันและต่อสู้มาด้วยกัน และหลายครั้งพี่น้องก็ต้องพึ่งพากัน การรับน้องคือการให้ช่วงเวลาดีๆ สำหรับน้องใหม่เพื่อโยงไปสู่การเข้ามาใช้ชีวิตในสังคมเดียวกัน ควรดูตามความเหมาะสมของกระบวนการ เพื่อให้เกิดความเข้าใจพื้นฐานในการอยู่ร่วมกัน สังคมควรติดตามตรวจสอบมากกว่าที่จะให้มีการยกเลิก เราสร้างวิธีต่างๆ ที่เหมาะสมกับปัญญาชนจริง โดยพิจารณา ปกป้อง เพื่อให้เป้าหมายของการปฏิบัติเป็นไปตามความคาดหวังของคณะ และมหาวิทยาลัย อันเป็นรากเหง้าที่แท้จริงของการสร้างเป้าหมายซึ่งต้องใช้วิธีที่เหมาะสม หากหย่อนไปก็ไม่ดีจะทำให้อยู่ร่วมกันไม่ได้ อดีตประธานเชียร์ อธิบาย อย่างไรก็ตาม นายปัญญา เชื่อว่าประเทศต้องการกลุ่มคนที่เป็นหลักให้คนอีกทั้งประเทศในการพึ่งพา เป็นผู้นำในการพัฒนาสังคม ซึ่งเราคงต้องการคนที่เข้มแข็งเพื่อสามารถเป็นหลักหรือแบบอย่างได้จริง และนำพาบ้านเมืองไปในแนวทางที่ดีขึ้น
ปัญญา บัวบุปผา นิสิตคณะทันตแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 5 อดีตประธานเชียร์คณะทันตแพทศาสตร์ปีการศึกษา 2544 และประธานเชียร์หอพักนิสิต จุฬาฯ ปีการศึกษา 2546 รับน้องในห้องประชุมเชียร์
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2005/06/4464
[ 0, 259, 137738, 41907, 153851, 222709, 259, 107451, 3755, 12976, 183971, 52973, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
วางเงิน5 หมื่น ศาลทหารให้ประกัน หมู่อาร์ม คดีหนีราชการจากการร้องทุจริตในกองทัพ
จนท.นำ หมู่อาร์ม ฝากขังเรือนจำ มทบ.11 หลังขึ้นศาลทหารผัดแรก คดีหนีราชการจากการร้องทุจริตในกองทัพก่อนที่ศาลให้ประกันตัววงเงิน 5 หมื่น22 มิ.ย.2563 ความคืบหน้า กรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์มทหารเปิดโปงการทุจริตภายในกองทัพบก จนถูกปลดออกจากราชการและถูกดำเนินคดีความผิดวินัยฐานขาดราชการในศาลทหาร โดยมีกำหนดเข้ารายงานตัวที่กองบัญชาการศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ปทุมธานี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีหนีทหาร จากการร้องเรียนการทุจริตภายในหน่วยงาน และจะถูกนำตัวส่งฟ้องไปยังศาลทหารกรุงเทพฯ ในวันนี้นั้นสื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า วันนี้ (22 มิ.ย.63) เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ศาลทหารเจ้าหน้าที่นำ ส.อ.ณรงค์ชัยมายื่นขอฝากขังผัดแรก ที่เรือนจำทหาร มทบ. 11 นครปฐมเป็นเวลา 12 วัน ตามข้อกล่าวหาขัดขืนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ตามประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา 30 และข้อกล่าวหาหนีราชการในเวลาปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา 45(3) ประกอบกับมาตรา 46(4)สำหรับการยื่นขอคัดค้านการฝากขังนั้น นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยื่นขอคัดค้านการฝากขัง 5 ประเด็น เช่น การพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นขั้นตอนตำรวจ ซึ่งได้ทำแล้ว ส่วนข้อหาขัดคำสั่ง ผบช. หมู่อาร์มไม่มีพฤติกรรมหลบหนีตามหมายเรียก และหมู่อาร์มไม่ใช่ทหาร ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานซึ่งศาลเห็นว่า เหตุผลจำเลยไม่เพียงพอจึงฝากขัง 12 วันจนถึงวันที่ 3 ก.ค. นี้ต่อมา นรเศรษฐ์ จึงขอยื่นประกันตัวในวันเดียวกันนี้จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว หมู่อาร์ม ขึ้นรถตู้ไปที่ มทบ.11 ระหว่างที่ศาลทหารฯ พิจารณาคำขอประกันตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ศาลฯ อนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 5 หมื่นบาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ถือหมายปล่อยตัวไปที่เรือนจำ มทบ.11 เพื่อนำตัวหมู่อาร์มออกจากเรือนจำต่อไปเรียบเรียงจาก : และ
จนท.นำ หมู่อาร์ม ฝากขังเรือนจำ มทบ.11 หลังขึ้นศาลทหารผัดแรก คดีหนีราชการจากการร้องทุจริตในกองทัพ ก่อนที่ศาลให้ประกันตัววงเงิน 5 หมื่น 22 มิ.ย.2563 ความคืบหน้า กรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี
การเมือง
ณรงค์ชัย อินทรกวี,ประกันตัว,ทหาร,หมู่อาร์ม
https://prachatai.com/journal/2020/06/88271
[ 0, 259, 7960, 51083, 10062, 4348, 96629, 7960, 51083, 10062, 12005, 111173, 3945, 204425, 97652, 6200, 46694, 259, 151987, 35650 ]
ช่วงนี้คนที่ทำงานทยอยลาออกกันเยอะ ถ้าเราลาออกอีกคนจะดูแย่ไหมคะ
Q: ตอนนี้ที่ทำงานมีคนทยอยลาออกกันไปเรื่อยๆ ค่ะ หนูเองก็คิดเรื่องลาออกเหมือนกัน แต่ตอนนี้คนลาออกกันไปเยอะ ถ้าหนูออกไปเป็นคนหลังๆ จะดูแย่ หรือเขาจะไม่ยอมให้ลาออกไหมคะ หัวหน้าจะคิดว่าเราซ้ำเติมเขาในวันที่เขากำลังจะไม่เหลือลูกน้องไหมคะA: มันจะตลกร้ายกว่านั้น ถ้าระหว่างที่น้องกังวลอยู่นี้ว่าจะลาออกดีไหม หัวหน้าจะว่าเราหรือเปล่า แล้วพอน้องเข้าไปคุยกับหัวหน้า หัวหน้าบอกว่า อ๋อ…พี่ก็กำลังจะไปเหมือนกัน ตึงโป๊ะ กอดคอกันลาออกได้เลย ฮ่าๆเวลาคนลาออก เหตุผลพื้นฐานเลยก็คือบริษัทเดิมไม่ตอบโจทย์ชีวิตตอนนี้แล้ว ถ้ายังตอบโจทย์สิ่งที่ต้องการในชีวิตของเราตอนนี้ได้อยู่ เราก็คงไม่ลาออกหรอกมั้งครับ ที่ต้องย้ำว่าเป็นโจทย์ของชีวิตตอนนี้ ก็เพราะว่าเมื่อก่อนบริษัทนี้อาจจะตอบโจทย์ชีวิตที่เราต้องการได้อยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเราได้ใช้เวลากับที่นี่มากขึ้น เราก็เติบโต บริษัทก็เติบโต เราเองก็เปลี่ยนไปจากวันแรกที่เข้ามา บริษัทเองก็เปลี่ยนไปจากวันแรกที่เราเข้ามา อะไรต่างๆ มันก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตเราตอนนี้ก็ได้ตอนนั้นใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว — แหม…ไม่ต่างอะไรกับความรักนะครับ ฮ่าๆเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูกครับ เป็นเรื่องความต้องการเราตรงกันหรือเปล่า ไม่ใช่บริษัทตอบโจทย์เราไหม ตัวเราเองล่ะตอบโจทย์สิ่งที่บริษัทต้องการหรือเปล่า ถ้าต่างฝ่ายต่างตอบโจทย์ซึ่งกันและกันก็อยู่ด้วยกันต่อได้ครับ ถ้าไม่ตอบโจทย์ซึ่งกันและกัน อยู่กันไปแบบคนที่ไม่ใช่ก็คงไม่ไหว ทนอยู่ได้แต่อยู่อย่างมีความหมายหรือสร้างคุณค่าให้แก่กันไหมคงอีกเรื่องจริงๆ แล้วทุกบริษัทมีการลาออกอยู่แล้วครับ ข้อดีของการที่พนักงานลาออกก็คือเป็นการเปลี่ยนเลือดใหม่มาบริหารองค์กร คิดในแง่ดีก็คือบริษัทก็จะได้คนเก่งๆ คนใหม่ๆ มาเติมไฟให้องค์กรได้รสชาติใหม่ๆ วิธีการทำงานใหม่ๆ ตามมาด้วย แต่ข้อเสียคือถ้าคนลาออกกันบ่อยๆ บางทีงานก็ไม่ต่อเนื่องนะครับ เคยไหมครับที่ทำงานไปได้เรื่อยๆ พอมีคนใหม่เข้ามาแล้วต้องรื้อใหม่ ล้างใหม่หมด ไม่ทำแล้วแบบเดิม เริ่มต้นใหม่หมด หรือบางทีก็ออกไปแบบตอนเริ่มงานวางแผนไว้แบบหนึ่ง แต่ได้ผลงานที่ไม่เหมือนกับที่คิดไว้เพราะคนทำเปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนแล้วดีก็ดีไปครับ แต่อย่าลืมว่าคนใหม่เข้ามาก็ต้องให้เวลาเขาในการปรับตัวหน่อย เคมีเข้ากับทีมไหม เข้าใจงานหรือเปล่า ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาหลายๆ บริษัทจะมีวงจรของคนลาออกอยู่แล้ว เช่น หลังได้โบนัสเรียบร้อย คนที่อยากเปลี่ยนงานก็จะค่อยๆ สำแดงตัวออกมา เป็นเรื่องปกติครับ ใครๆ ก็อยากรับโบนัสก่อนทั้งนั้นทีนี้ต้องมาดูว่าการลาออกที่แห่กันลาออกนั้นเป็นการลาออกจากสาเหตุอะไร แน่นอนว่ามีคนลาออกแสดงว่าบริษัทเดิมไม่ตอบโจทย์ของพวกเขาแล้ว แต่ตัวเราเองล่ะครับ เรามีปัญหาอะไรที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากองค์กรหรือเปล่า ตอนนี้เราต้องการอะไร และบริษัทให้สิ่งนั้นเราได้หรือเปล่า รวมทั้งมองกลับไปที่บริษัทว่าบริษัทต้องการอะไร แล้วตัวเราให้สิ่งนั้นกับบริษัทได้หรือเปล่า ที่สำคัญ เราเติบโตในบริษัทนี้ได้หรือเปล่าถ้าเราอยู่ต่อไป และถ้าโตจะโตแบบไหน ใช่แบบที่เราต้องการอยู่หรือเปล่าถ้าจะคิดเรื่องลาออก พี่คิดว่าน่าจะมองเรื่องเหล่านั้นเป็นหลัก ไม่ต้องมองดูคนอื่นๆ เพราะแต่ละคนมีเหตุผลส่วนตัวในการลาออกที่ไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองครับพี่เข้าใจว่าพอเห็นเพื่อนร่วมงานลาออกกันไปหมด บางทีคนที่ยังอยู่ก็รู้สึกใจปิ๋วๆ ว่า แล้วเราอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ หรือเรือกำลังจะแตก เรือไททานิกกำลังจะล่ม เขาหนีกันไปหมดแล้ว เราจะอยู่ต่อทำไมล่ะ บางคนก็คิดแบบนี้ ยิ่งคนที่ทำงานที่เดิมนานๆ บางทีการเห็นเพื่อนร่วมงานเราลาออกแล้วไปเติบโตที่อื่นที่ดูแล้วชีวิตเขาดี๊ดี ไปแล้วตำแหน่งใหญ่โตเชียว ก็คงมีบ้างที่ทำให้เรากลับมาถามตัวเองว่า ทำไมเรายังอยู่ที่เดิม หรือเราจะลาออกไปที่ใหม่ดีความรู้สึกเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ครับ แต่กลับมาเรื่องเดิม เราอยากลาออกเพราะโดยเนื้อแท้แล้วที่นี่ไม่ตอบโจทย์เราอีกแล้ว หรือเราอยากลาออกเพราะเห็นคนอื่นลาออกเลยอยากออกบ้างไปบอกหัวหน้าว่าขอลาออกไม่ใช่เรื่องแย่หรอกครับ จะมองว่าเป็นการซ้ำเติมหัวหน้าที่กำลังจะไม่เหลือใครหรือเปล่าอันนี้พี่ว่าอยู่ที่ว่าที่ผ่านมาเราทำงานเป็นอย่างไร คือถ้าคนที่ลาออกไปทำงานกันไม่ดีอยู่แล้ว หัวหน้าก็อาจจะดีใจก็ได้นะครับ ไม่ได้เป็นการซ้ำเติม แต่เป็นการทำให้หัวหน้าโล่งใจไปด้วยในตัว ฮ่าๆคนเป็นหัวหน้าอย่างไรก็ต้องเคยเจอลูกน้องลาออก นี่เป็นหลักสูตรภาคบังคับที่อย่างไรก็ต้องเจอครับ และหัวหน้าที่ดีก็ควรสนับสนุนลูกน้องให้เจอทางที่ดี ไม่ว่าทางที่ดีนั้นจะหมายถึงดีในบริษัทเดิมหรือดีในบริษัทใหม่ก็ตาม เอาว่าอันไหนดีกับลูกน้องเราที่สุดทำไมจะไม่อยากให้เขาไปสู่สิ่งที่ดีล่ะครับ ว่าไหม?ถ้ามีปัญหาคับข้องใจใดๆ พี่คิดว่าลองคุยกับหัวหน้าก็ดีนะครับแล้วค่อยมาตัดสินใจลาออก หลายครั้งเราคิดเรื่องลาออกก่อนที่จะเริ่มแก้ปัญหาด้วยซ้ำ ลาออกมันง่ายครับ แต่หลังลาออกแล้วจะทำอย่างไรต่อนี่สิยากกว่าแต่ถ้าตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไปในช่วงเวลาที่แพแตกแล้วทุกคนแยกย้ายกันไปหมด พี่คิดว่าเราต้องคุยกับหัวหน้าดีๆ เป็นไปได้นะครับว่าพอคนแห่กันลาออกขนาดนี้ หัวหน้าหรือองค์กรของน้องอาจจะตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าหัวหน้าลงมือแก้ไขปัญหาจริง แล้วบริษัทนี้ยังใช่บริษัทที่เราอยากทำ และใช้ชีวิตอยู่ร่วมได้ น้องจะอยู่ต่อก็ได้ครับ และเหมือนเดิม ถ้าวันข้างหน้ามันไม่ตอบโจทย์แล้วน้องจะไปก็ไม่ผิด ไปจนถึงว่าบางทีบริษัทไม่ได้ทำอะไรผิด แต่น้องเจอโอกาสที่ดีกว่าแล้วอยากจะไป ก็ไม่มีใครผิดครับเคยฟังเพลงปาล์มมี่ไหมครับที่ร้องว่า แต่คนจะไปก็ต้องไป… การลาออกก็เป็นแบบนั้นครับไปขอลาออกไม่ใช่เรื่องไม่ดีครับ แต่มันจะแย่ถ้าเราลาออกไปโดยที่ไม่ได้คิดมาให้ดีๆ เห็นเขาลาออกก็เลยลาออกบ้าง หรือไปบอกลาออกแบบไม่เหลือเยื่อใยใดๆ กับหัวหน้าเลย อันนี้น่ากลัวครับ ทำดีมาตลอด แต่มาตกม้าตายตอนจบก็ไม่สวยนะครับแต่ถ้าคิดอีกมุม ถ้าคนแห่กันลาออกแบบนี้แล้วน้องยังอยู่ ถ้าน้องไม่ได้มีปัญหาอะไรกับบริษัทอยู่แล้ว และก็ยังรู้สึกว่าทำงานได้อยู่ พี่คิดว่านี่แหละคือเวลาที่ทำให้บริษัทเห็นว่ามีน้องอยู่แล้วบริษัทดียังไง เป็นไปได้ว่าน้องจะได้งานเพิ่มขึ้นเพราะคนหายไป และคนใหม่ก็ยังต้องใช้เวลา แต่ก็ถือว่าเป็นเวลาให้น้องได้ฝึกประสบการณ์มากขึ้น น้องอาจจะใช้เวลานี้ทำให้น้องโดดเด่นขึ้นมาก็ได้แต่ถ้าทำดีแล้วเขาไม่เห็นคุณค่าน้อง น้องจะเป็นฝ่ายบอกเขาว่า แต่คนจะไปก็ต้องไป… ก็ไม่ผิดหรอกครับกลับไปคิดดูดีๆ ก่อนว่า อยากลาออกจริงๆ หรืออยากลาออกเพราะคนอื่นเขาลาออกกัน และปัญหาที่เจออยู่นี้จำเป็นว่าต้องลาออกเลยไหมส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [emailprotected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ภาพประกอบ: พิสูจน์อักษร:
เวลาคนลาออก เหตุผลพื้นฐานเลยก็คือบริษัทเดิมไม่ตอบโจทย์ชีวิตตอนนี้แล้ว ถ้ายังตอบโจทย์สิ่งที่ต้องการในชีวิตของเราตอนนี้ได้อยู่ เราก็คงไม่ลาออกหรอกมั้งครับทีนี้ต้องมาดูว่าการลาออกของเรามีปัญหาอะไรที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากองค์กรหรือเปล่า ตอนนี้เราต้องการอะไร และบริษัทให้สิ่งนั้นเราได้หรือเปล่า รวมทั้งมองกลับไปที่บริษัทว่าต้องการอะไร แล้วตัวเราให้สิ่งนั้นกับบริษัทได้หรือเปล่า ที่สำคัญ เราเติบโตในบริษัทนี้ได้หรือเปล่าถ้าเราอยู่ต่อไป และถ้าโตจะโตแบบไหน ใช่แบบที่เราต้องการอยู่หรือเปล่าถ้าตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไปในช่วงเวลาที่แพแตก พี่คิดว่าเราต้องคุยกับหัวหน้าดีๆ เป็นไปได้นะครับว่าหัวหน้าหรือองค์กรของน้องอาจจะตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าหัวหน้าลงมือแก้ไขปัญหาจริง แล้วบริษัทนี้ยังใช่บริษัทที่เราอยากทำ และใช้ชีวิตอยู่ร่วมได้ น้องจะอยู่ต่อก็ได้ครับ
https://thestandard.co/quitting-job/
[ 0, 259, 169184, 98298, 18117, 51523, 147426, 12848, 37861, 18117, 98298, 18117, 73863, 229356, 113262, 2752, 1, 0, 0, 0 ]
ฝากขังหนุ่มตุ๋นเล่นแชร์ เหยื่อกว่า 4 พัน สูญ 5 พันล้าน
ฝากขังหนุ่มแสบ เปิดบริษัทใหญ่โตย่านรัชดา ลวงเหยื่อลงทุนแชร์งานสัมมนา ผลตอบแทนในฝัน 1 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน จ่ายปันผล ทุกอาทิตย์ ปีแรกจ่ายเงินตรงเวลาจนเหยื่อเชื่อสนิททุ่มลงทุนเพิ่ม มีผู้เสียหายกว่า 4พันคน ยอดความเสียหายกว่า 5 พันล้านบาท ช่วงหลังเริ่มเบี้ยวจนถึงขั้นปิดบริษัทหนีไปต่างประเทศ พอเห็นเรื่องเงียบบินกลับมาไม่รู้ว่าถูกออกหมายจับแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธ ศาลไม่ปล่อยตัวชั่วคราวส่งเข้าเรือนจำทันที,กรณีตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับหัวโจกชักชวนเหยื่อเล่นแชร์จัดคอร์สงานสัมมนา จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนหลายพันคน ความคืบหน้าจากศาลอาญา เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ส.ค. ร.ต.ท.ภุชงศ์ เบ้าทุ่ง พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ควบคุมตัวนายภูดิศ กิตติธราดิลก อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288/8 หมู่ 5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1151/2560 ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน คดีชักชวนเหยื่อเล่นแชร์ลูกโซ่จัดคอร์สสัมมนามูลค่าความเสียหายกว่า 5,000 ล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ มาขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก,คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า คดีนี้ผู้เสียหายคือนางศิวัชญา พลอยงาม พร้อมพวก รวม 17 คนเข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีนายภูดิศ กิตติธราดิลก กรรมการผู้มีอำนาจบริษัทอินโนวิชั่น โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัทเดอะซิสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด ข้อหาฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัททั้ง 2 แห่งหลอกลวงผู้อื่นด้วยการจัดสัมมนาแก่ประชาชนทั่วไป ใช้สถานที่โรงแรมชื่อดังย่านลาดพร้าว รัชดาภิเษก และห้องสัมมนาของบริษัทฯ นายภูดิศขึ้นเวทีบรรยายและฉายสไลด์ประกอบ เนื้อหากล่าวอ้างว่า บริษัททั้ง 2 แห่ง ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการเปิดคอร์สสัมมนาสอนเกี่ยวกับการลงทุน ชักชวนให้ผู้ร่วมสัมมนาลงทุนกับบริษัทฯ อ้างว่าจ่ายเงินปันผลตอบแทนให้สมาชิกอัตราสูงในระยะเวลาอันสั้น คือผลตอบแทนอัตรา 1 เปอร์เซ็นต์ต่อวันจากราคาแพ็กเกจที่ซื้อ และจ่ายเงินปันผลให้ทุกสัปดาห์เป็นระยะเวลา 52 สัปดาห์,หากผู้ใดชักชวนผู้อื่นมาซื้อแพ็กเกจกับบริษัทฯได้ จะจ่ายค่าแนะนำอัตรา 5 เปอร์เซ็นต์ ของยอดเงินที่ซื้อแพ็กเกจ และบอกให้ชักชวนคนอื่นต่อเป็นทอดๆ เมื่อกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 17 คนฟังบรรยายแล้วเห็นว่า เป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงในระยะอันสั้น จึงหลงเชื่อจ่ายเงินซื้อคอร์สสัมมนาแบบทยอยซื้อเรื่อยๆ ช่วงแรกบริษัทฯจ่ายเงินปันผลให้จริง ยิ่งทำให้เชื่อพากันทุ่มเงินซื้อคอร์สสัมมนาเพิ่มอีกรวมเป็นเงิน 42,527,896 บาท บริษัทฯจ่ายเงินปันผลให้แล้ว 16,764,218 บาท แต่ภายหลังไม่จ่ายและติดต่อไม่ได้ เหลือเงินที่ค้างจ่ายอีก 25,763,678 บาท จากการตรวจสอบหนังสือจดทะเบียนบริษัททั้ง 2 แห่ง พบว่า นายภูดิศเป็นกรรมการผู้มีอำนาจเพียงคนเดียว บริษัทตั้งอยู่อาคารเดียวกันคือ อาคารฟอรั่ม ถนนรัชดาภิเษก แต่ปิดทำการไปแล้ว สอบสวนเส้นทางการเงินพบว่า บริษัททั้งสองและนายภูดิศเปิดบัญชีไว้ที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หลายบัญชี เพื่อระดมเงินที่สมาชิกซื้อแพ็กเกจและนำเงินสมาชิกใหม่มาจ่ายให้สมาชิกเก่าลักษณะหมุนเงิน แต่ทยอยถอนเงินออกไปแล้วรวม 11 บัญชี เป็นเงิน 5,333,742,677.80 บาท,เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาและครอบครองโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเงินที่ได้จากการกระทำผิด กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและข้อหาฉ้อโกงเงินประชาชน แต่ผู้ต้องหาถอนเงินออกไปเพื่อใช้โดยทุจริตและหลบหนี ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค.2560 พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลอาญา และจับกุมนายภูดิศได้เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2560 เวลา 17.50 น. นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวางดำเนินคดี การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 343 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 2527 มาตรา 4 และ 12 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 มาตรา 3 (3) 5 (3) 60 และ 61 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ผู้ต้องหาปฏิเสธ เหตุเกิดที่บริษัทอินโนวิชั่น โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัทเดอะซิสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด อาคารฟอรั่ม ธนาคารกสิกรไทยฯ สาขายูเนี่ยนมอลล์ ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. และอื่นๆ,ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังสอบสวนไม่เสร็จ ต้องสอบปากคำพยานอีก 10 ปาก รอผลตรวจลายนิ้วมือ ประวัติการต้องโทษผู้ต้องหาและเอกสารอื่นๆ จึงขออำนาจศาลฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-21 ส.ค.2560 นอกจากนี้ หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านเนื่องจากคดีนี้ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนีมาตั้งแต่แรก พฤติการณ์กระทำผิดลักษณะเป็นขบวนการและเครือข่าย กระทำผิดหลายท้องที่ มีผู้เสียหายจำนวนมาก บางส่วนไปร้องทุกข์ไว้ตามสถานีตำรวจท้องที่ต่างๆ และบางส่วนไปร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ อีกทั้ง ผู้เสียหายบางส่วนยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัวด้วย เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 4,000 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000 ล้านบาท ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขัง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวนายภูดิศผู้ต้องหาไปควบคุมยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที,สำหรับบรรยากาศที่ศาลอาญาวันนี้ มีกลุ่มผู้เสียหายนัดรวมตัวกันที่ศาลอาญาเกือบ 20 คน พร้อมนำหลักฐานและเอกสารการลงทุนซื้อคอร์สอบรมสัมมนามายื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวนายภูดิศ นายพัฒน์ขจร เนียมจันทร์ อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการ เผยว่า นายภูดิศเป็นเจ้าของบริษัท อินโนวิชั่น โฮลดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทเกี่ยวกับการลงทุนธุรกิจการจัดคอร์สสัมมนา เนื้อหาส่วนใหญ่จูงใจให้ผู้ร่วมคอร์สสัมมนานำเงินมาร่วมลงทุนทำธุรกิจกับบริษัทฯ ผู้เสียหายถูกหลอกเงินไปลงทุนหลายพันคน ตั้งแต่หลักพันบาทถึงหลักแสนบาท ส่วนสาเหตุที่หลงเชื่อเนื่องจากเห็นว่านายภูดิศเปิดบริษัทฯของตัวเอง 8-9 บริษัท ชักชวนให้ลงทุน นำรางวัลที่ได้รับจากหน่วยงานเอกชนและราชการต่างๆมายืนยันเพื่อให้น่าเชื่อถือ ช่วงแรกผู้ต้องหาจ่ายเงินปันผลให้สมาชิกได้จริงนานเกือบ 1 ปี ทำให้พวกตนหลงเชื่อว่าไม่น่าถูกหลอกจึงลงทุนเพิ่ม แต่ภายหลังไม่สามารถจ่ายได้หลายเดือน สอบถามก็บ่ายเบี่ยง จากนั้นผู้ต้องหาเดินทางไปต่างประเทศก่อนกลับมาถูกจับ ก่อนหน้านี้ไปร้องทุกข์กรมสอบสวนคดีพิเศษและกองปราบปราม หวังว่าจะได้เงินคืนบ้าง,ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอรับคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้ วันนี้หลังพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง นำตัวผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องขอฝากขัง จากนั้นพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง จะนำสำนวนสอบสวนและสำนวนคำร้องขอฝากขังมาส่งให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อรวมสำนวนเป็นคดีเดียวกัน หลังนำตัวผู้ต้องหาฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พนักงานสอบสวนดีเอสไอสามารถไปสอบปากคำผู้ต้องหาในเรือนจำได้ ไม่จำเป็นต้องนำตัวมาสอบที่ดีเอสไอ คดีนี้เป็นคดีฉ้อโกงประชาชนแต่ทำคดีฟอกเงินควบคู่ไปด้วย เนื่องจากมีประชาชนถูกหลอกร่วมลงทุน 4 พันคน มูลค่าความเสียหายสูงถึง 5,000 ล้านบาท
ฝากขังหนุ่มแสบ เปิดบริษัทใหญ่โตย่านรัชดาลวงเหยื่อลงทุนแชร์งานสัมมนา ผลตอบแทนในฝัน1เปอร์เซ็นต์ต่อวัน จ่ายปันผล ทุกอาทิตย์ ปีแรกจ่ายเงินตรงเวลาจนเหยื่อเชื่อสนิททุ่มลงทุนเพิ่ม มีผู้เสียหายกว่า4พันคน ยอดความเสียหายกว่า 5 พันล้าน
ข่าว,ทั่วไทย
แชร์ลูกโซ่,แชร์สัมมนา,ภูดิศ กิตติธราดิลก,ฝากขัง,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1034515
[ 0, 259, 104338, 71810, 17858, 15770, 20279, 185969, 6582, 53530, 76389, 20419, 32816, 86890, 259, 86790, 43790, 159716, 259, 46033 ]
ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็นจี้รัฐไทยออกมาตรการ หลัง 2 นักสิทธิฯ ภาคใต้ถูกสังหาร
โฆษกข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์กรณีนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนถูกสังหารในภาคใต้ เรียกร้องเจ้าหน้าที่ทำคดีรอบคอบ เป็นอิสระ และรับรองความปลอดภัยนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน9 ธ.ค.2557 โฆษกข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ถึงกรณีนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของไทย 2 คนถูกสังหารในพื้นที่ภาคใต้ จากการเคลื่อนไหวคัดค้านเหมืองแร่และที่ดินสวนปาล์มในแถลงการณ์กล่าวว่า นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน 2 คน มีบทบาทในการตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ของเอกชนในพื้นที่ว่าดำเนินงานถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายพิธาน ทองพนัง ถูกยิงเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนใน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการต่อต้านโครงการเหมืองใน อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช และยังเป็นโจทก์หลักในคดีที่ศาลปกครองสั่งให้บริษัทที่เกี่ยวข้องยุติการดำเนินกิจการเหมืองชั่วคราวด้วยนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอีกคนหนึ่งที่ระบุในแถลงการณ์ คือ นายสมสุข เกาะกลาง ถูกยิงเสียชีวิตในสวนปาล์มน้ำมันใน จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางไปพบกับชาวบ้าน โดยนายสมสุขเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินที่มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายในการดำเนินการของสวนปาล์มน้ำมันนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินในประเทศไทยและโดยเฉพาะในภาคใต้ตกเป็นเหยื่อจากการถูกข่มขู่ ก่อกวน และความรุนแรง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดแสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามต่อนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นและความจำเป็นที่ทางการจะต้องให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วนในการสร้างความปลอดภัยและความคุ้มครองให้กับพวกเขา แถลงการณ์กล่าวในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา มีนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 35 คน ถูกสังหารด้วยวิธีการนอกกระบวนการยุติธรรมและถูกบังคับให้สูญหาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินและสิทธิชุมชน ในขณะที่ผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารไม่ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในสถานการณ์ที่ความยุติธรรมและความรับผิดชอบขาดหายไป ผู้กระทำผิดมีความกล้ามากขึ้นในขณะที่นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนต้องทำงานในสภาวะแห่งความกลัวและความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย แถลงการณ์กล่าวข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับตรวจสอบคดีการสังหารและการบังคับสูญหายของนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนทำงานอย่างละเอียด ฉับพลัน และเป็นอิสระ รวมถึงเรียกร้องให้ทางการไทยมีมาตรการคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดิน รวมถึงชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการขนาดใหญ่พึ่งพานักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนนอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐรับประกันความปลอดภัยของนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และรับประกันความปลอดภัยของชุมชนที่เคลื่อนไหวปกป้องสิทธิชุมชน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นและรวมตัวอย่างเป็นอิสระโดยปราศจากความกลัวในการถูกประหัตประหาร
โฆษกข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์กรณีนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนถูกสังหารในภาคใต้ เรียกร้องเจ้าหน้าที่ทำคดีรอบคอบ เป็นอิสระ และรับรองความปลอดภัยนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน 9
สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม
ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ,นครศรีธรรมราช,พิธาน ทองพนัง,สมสุข เกาะกลาง,เหมืองแร่นบพิตำ,แถลงการณ์
https://prachatai.com/journal/2014/12/56906
[ 0, 259, 26420, 217061, 12005, 111173, 3945, 204425, 97652, 6200, 46694, 2361, 30931, 89051, 259, 233576, 85322, 12002, 104338, 42947 ]
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศแล้ว มาตรการ ปลดล็อก เฟส 3 (ฉบับเต็ม)
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ มาตรการผ่อนคลาย ระยะ 3 ลดเวลาเคอร์ฟิว 1 ชม. จาก22.00น. เป็น 23.00-03.00น อนุญาติให้เคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดได้ ขยายเวลาปิดห้างสรรพสินค้าเป็น 21.00 น. มีผล 1 มิ.ย.นี้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘(ฉบับที่ ๙)ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปตั้งแต่วันที่๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้นโดยที่ยังปรากฏการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ในต่างประเทศและมีโอกาสจะแพร่เข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากมีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่องและพบว่ายังมีผู้ติดเชื้อดังกล่าว ประกอบกับองค์การอนามัยโลกได้เตือนว่าการผ่อนคลายความเข้มงวดหลายมาตรการและพร้อม ๆ กันในหลายประเทศอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้ซึ่งเมื่อคำนึงถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศและปัจจัยเสี่ยงจากบุคคล สถานที่ และประเภทของกิจกรรมบางอย่างแล้ว แม้ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐและประชาชนทุกฝ่าย สถานการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจะดีขึ้น แต่ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคงเห็นว่า ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อซึ่งกำลังจะผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการในช่วงที่ ๓ นับจากนี้ไปให้มากขึ้นกว่าเดิมจนใกล้เคียงกับการดำเนินวิถีชีวิตตามปกติ ยังจำเป็นต้องติดตามดูแลสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ต่อไปให้สงบนิ่งอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่วางใจได้อีกระยะหนึ่ง เพื่อว่าหากจำนวนผู้ติดเชื้อกลับเพิ่มหรือโอกาสเสี่ยงมีมากขึ้น จะได้ระงับหรือเปลี่ยนแปลงการผ่อนคลายบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทันท่วงทีอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. ๒๕๔๘ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔นายกรัฐมนตรี จึงออกข้อกำหนดเป็นการทั่วไป และข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้ข้อ ๑ การห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา ๒๓.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๐๓.๐๐ นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น และให้ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกำหนด (ฉบับที่ ๓) ลงวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ยังคงใช้บังคับต่อไปให้ยานพาหนะ ผู้โดยสารตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะที่เป็นการขนส่งคนหรือสินค้ำระหว่างจังหวัดที่เริ่มออกเดินทางจากจังหวัดต้นทางก่อนเวลา ๒๓.๐๐ นาฬิกา และถึงจังหวัดปลายทางหลังเวลา ๐๓.๐๐ นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น สามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานได้ข้อ ๒ การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในระยะแรกนี้ให้ทยอยผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเพื่อจัดการศึกษา การอบรม การประชุมหรือเพื่อประโยชน์ในการสอบหรือการคัดเลือกบุคคล ดังต่อไปนี้(๑) การใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือการฝึกอบรมของโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเฉพาะประเภทวิชาชีพ และประเภทศิลปะและกีฬา (เฉพาะประเภทกีฬาที่ผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมได้) โดยพิจารณาถึงจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียน ความพร้อมและความสามารถในการจัดรูปแบบการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น การจัดสถานที่และระบบต่างๆ ให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโรคเป็นสำคัญ(๒) การใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเพื่อการประชุม การจัดการสอบการสอบคัดเลือก การฝึกอบรมระยะสั้นไม่เกินสิบห้าวัน หรือดำเนินการอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาตาม (๑) หรือ (๒) ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด การจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ รวมทั้งคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัดข้อ ๓ การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และขับเคลื่อนกิจกรรมบางอย่างเพิ่มเติมจากที่ได้กำหนดไว้แล้วตำมข้อกำหนด (ฉบับที่ ๖)ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และข้อกำหนด (ฉบับที่ ๗) ลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆให้สถานที่หรือการดำเนินกิจกรรมที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดเคยมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราวตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ และตามข้อกำหนด(ฉบับที่ ๕) ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างเพิ่มเติมได้ทั่วราชอาณาจักร ตามความสมัครใจและความพร้อม ดังต่อไปนี้(๑) กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตก. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา๒๑.๐๐ นาฬิกาข. ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ ให้เปิดดำเนินการจัดประชุมการแสดงสินค้า หรือการจัดนิทรรศการได้ โดยเป็นกิจกรรมซึ่งจำกัดพื้นที่รวมในการจัดงานขนาดไม่เกินสองหมื่นตารางเมตร และเปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา ๒๑.๐๐ นาฬิกาทั้งนี้ ให้งดเว้นการจัดการแข่งขัน กิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการดำเนินการอื่นใดที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาชุมนุมกันหนาแน่นและอาจเกิดภาวะไร้ระเบียบได้ค. สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง ให้เปิดดำเนินการได้โดยงดเว้นการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาชุมนุมกันหนาแน่นและอาจเกิดภาวะไร้ระเบียบได้ง. ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมสำหรับบุรุษหรือสตรี ให้เปิดดำเนินการโดยจำกัดเวลาการให้บริการในร้านไม่เกินรายละสองชั่วโมงและต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้านจ. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน ให้เปิดได้เฉพาะการปฏิบัติงานที่จำเป็นของเจ้าหน้าที่เพื่อการนัดหมาย จัดสรรและแจกจ่ายเครื่องดื่มและอาหารกลางวัน และการจัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด(๒) กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการก. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง เว้นบริเวณใบหน้า และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าข. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย(งดเว้นการอบตัว อบสมุนไพรหรืออบไอน้ำแบบรวม และการนวดบริเวณใบหน้า) นวดฝ่าเท้า ยกเว้นสถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวดค. สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส ให้เปิดดำเนินการได้โดยจำกัดจำนวนผู้เล่นในการเล่นแบบรวมกลุ่มและงดเว้นการอบตัวหรืออบไอน้ำแบบรวมง. สถานที่ฝึกซ้อมมวย โรงยิมหรือค่ายมวย ให้เปิดได้เฉพาะเพื่อการฝึกซ้อมการชกลมโดยไม่มีคู่ชก การชกมวยแบบล่อเป้า โดยต้องไม่เป็นการแข่งขันและไม่มีผู้ชมจ. สนามกีฬา ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะกิจกรรมเพื่อการออกกำลังกายหรือการฝึกซ้อมในประเภทกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล โดยต้องไม่เป็นการแข่งขันและมีจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมที่อยู่ในบริเวณสนามกีฬา (ไม่นับรวมผู้เล่น) อีกไม่เกินสิบคนฉ. สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ตหรือโรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะเพื่อการออกกำลังกายหรือการฝึกซ้อมช. สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศซ. สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำในบึง เช่น เจ็ตสกี ไคท์เซิร์ฟ เครื่องเล่นประเภทบานาน่าโบ๊ท ให้เปิดดำเนินการได้โดยต้องไม่เป็นการแข่งขันและจำกัดจำนวนผู้เล่นฌ. โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ ให้เปิดดำเนินการได้โดยจำกัดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมไม่เกินสองร้อยคน สำหรับโรงมหรสพในระยะแรกนี้ให้เปิดเฉพาะการจัดแสดงลิเก ลำตัดหรือการแสดงพื้นบ้านอื่น ๆ ก่อน โดยงดเว้นการจัดแสดงดนตรีหรือคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมอื่นที่อาจมีความเสี่ยงต่อการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลและการแพร่กระจายเชื้อญ. สวนสัตว์หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์ ให้เปิดดำเนินการได้โดยจำกัดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่จัดกำรแสดงที่เป็นการรวมกลุ่มข้อ ๔ การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเจ้าของ หรือผู้จัดการสถานที่ในข้อ ๒ หรือข้อ ๓ มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งดำเนินการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ตามคำแนะนำ เงื่อนไข และเงื่อนเวลาที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตามที่ทางราชการกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าตรวจสอบการใช้อาคารสถานที่ตามข้อ ๒ และการดำเนินการของเจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ตามข้อ ๓ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ที่ทางราชการกำหนด หากพบการกระทำที่อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค พนักงานเจ้าหน้าที่อาจให้คำแนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม และมีอำนาจกำหนดช่วงระยะเวลาเพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ของโรค รวมทั้งเสนอให้ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘มีคำสั่งปิดสถานที่ในพื้นที่รับผิดชอบไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้ในกรณีที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราวตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ เมื่อผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดและจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ แล้ว ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณีมีอำนาจสั่งให้เปิดดำเนินการในสถานที่ดังกล่าวได้ข้อ ๕ การผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ตามที่รัฐบาลมีคำแนะนำให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งจากการประเมินของฝ่ายที่เกี่ยวข้องพบว่ามาตรการดังกล่าวนี้เป็นปัจจัยหนึ่งส่งผลให้สำมารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินชีวิตของประชาชนกลับมีสภาพใกล้เคียงกับวิถีชีวิตตามปกติ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จึงเห็นสมควรผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด โดยประชาชนผู้เดินทางซึ่งรวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค กำรจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ ที่ทางราชการกำหนดด้วยซึ่งอาจไม่สะดวกและจำเป็นต้องก่อภาระแก่ผู้เดินทางได้โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การจราจรคับคั่งหรือมีเหตุพิเศษ ทั้งนี้ หากพบว่าผู้เดินทางมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคหรือเป็นพาหะนำโรค พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการสั่งแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อเพื่อป้องกันการแพร่ระบำดของโรคได้ข้อ ๖ ในกรณีมีปัญหาว่าสถานที่หรือกิจกรรมใดเข้าข่ายตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้หรือไม่ ให้หารือคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ซึ่งมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติในฐานะหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 เป็นประธานข้อ ๗ การแสดงตนโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ หรือแอบอ้างว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่กระทำการเรียก รับ ยอมจะรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ หรือแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากการใช้สถานที่ของเอกชนเพื่อการแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต หรือเจตนาแกล้งให้ผู้อื่นมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อหรือข้อกำหนดซึ่งออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตในการเรียกเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนจากการไม่ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมาย ผู้ประสบเหตุดังกล่าวให้แจ้งต่อศูนย์ดำรงธรรมได้ทั่วราชอาณาจักร หรือแจ้งต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19ทำเนียบรัฐบำลทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ มาตรการผ่อนคลาย ระยะ 3 ลดเวลาเคอร์ฟิว 1 ชม. จาก22.00น. เป็น 23.00-03.00น อนุญาติให้เคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดได้ ขยายเวลาปิดห้างสรรพสินค้าเป็น 21.00 น. มีผล 1 มิ.ย.นี้
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,เคอร์ฟิว,พรก.ฉุกเฉิน,มาตรการคลายล็อก,มาตรการผ่อนปรน เฟส3,ราชกิจจานุเบกษา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1856896
[ 0, 259, 207017, 213319, 259, 120110, 381, 259, 121153, 88653, 44954, 77472, 55667, 18604, 124158, 1, 0, 0, 0, 0 ]
คุย แม่หน่อย สุดารัตน์ สอนลูก กับมุมมองคนรุ่นใหม่เรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ
หากจะพูดถึง นักการเมืองหญิง ที่เราเห็นหน้าค่าตากันมาตลอด เรียกว่าแทบไม่เคยห่างหายไปจากหน้าสื่อ เชื่อว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อยู่อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และคนส่วนใหญ่คงมักจะเห็น คุณหญิงหน่อย ในบทบาทของนักการเมือง แต่ในโอกาสวันแม่ปี 2563 นี้ จะขอพาไปพูดคุยในบทบาท คุณแม่ ของลูกๆ ทั้ง 3 คน บอส เบสท์ และจินนี่ ว่ามีการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนลูกอย่างไร รวมถึงมองเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่กำลังเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยแบบไหนแบ่งเวลา อบรมเลี้ยงดู คนในครอบครัวเป็นส่วนสำคัญคุณหญิงสุดารัตน์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองเข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ลูกยังเล็ก จึงต้องมีการจัดสรรเวลา ซึ่งคนในครอบครัวก็ต้องช่วยเราในจุดนี้ด้วย คนนั้นคือสามี (สมยศ ลีลาปัญญาเลิศ) ที่คอยเป็นหลักให้เรา ช่วยรับ-ส่งลูก ดูแลเขาในช่วงเวลากลางวัน สามีจะเป็นผู้ทำหน้าที่นี้ ส่วนคุณหญิงหน่อยเองหากไม่ได้ติดภารกิจอะไรก็จะใช้เวลาในช่วงค่ำทานข้าวกับลูกๆ คอยสอนในเรื่องต่างๆ โดยเรื่องที่จะสอนหลักๆ คือ ความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะต่อตัวเอง ครอบครัว สังคม หรือประเทศชาติ ค่อยๆ พยายามสอนตามลำดับของอายุเขา รวมถึงไม่ให้เบียดเบียน เอาเปรียบ หรือคดโกงใครต้องมีสติ รู้ผิดชอบ ช่วงหนึ่งเขาเชื่อสิ่งที่ฟังมา มากกว่าแม่เราต้องยอมรับว่าวันนี้ลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น โตมากับเทคโนโลยี โลกออนไลน์ เกม ที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ของเขา เป็นโลกที่เราตามเขาไปไม่ได้ เราก็ต้องสอน ความมีสติ ต้องมีการกรอง ไม่ฟังเร็ว เชื่อเร็ว รู้ผิดชอบ ช่วงหนึ่งก็เหนื่อยเหมือนกันที่กระแสออนไลน์เข้ามา ลูกก็จะเชื่อสิ่งที่เขาได้ฟังมามากกว่าเชื่อแม่ แต่พอเราให้ในเรื่องของสติ ความคิด ก็โชคดีว่าลูกทั้ง 3 คน ไม่เกิดปัญหา อาจจะมีเพียงห้วงหนึ่งที่ไม่เชื่อที่แม่พูด แต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆ และเราเองปฏิบัติกับลูกเหมือนเพื่อน เวลาเขามีอะไรมาถามเราจะไม่ว่าเขาทันที เราจะบอกเขาว่า ไหนเปิดให้แม่ดูซิเขาว่ายังไง แล้วเราก็ถกกับเขาว่าอะไรดีหรือไม่ดี ก็เลยเป็นเรื่องของความเข้าใจ การรับฟัง และการพยายามอธิบายให้เขาฟังมากกว่า ก็เลี้ยงกันแบบนี้ค่ะ2 สาเหตุทำให้เด็กตื่นตัว ผู้ใหญ่ควรรับฟังและชี้แนะจริงๆ แล้วเด็กรุ่นใหม่จะมองคล้ายๆ กัน ในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ เรื่องของประชาธิปไตย และเรื่องของความเท่าเทียมกัน ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามาจาก 2 สาเหตุ คือ 1.เรามีรัฐประหารมายาวนาน และการรัฐประหารทำให้ความเหลื่อมล้ำสูงขึ้น 2.เด็กเห็นโลกกว้างขึ้นจากประเทศที่เขาคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่น ความหลากหลายทางเพศ จึงมีความตื่นตัวในประเทศเยอะ 2 สาเหตุนี้ทำให้เด็กตื่นตัวขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ควรรับฟัง รวมถึงความเข้าใจระหว่างวัยก็เป็นสิ่งสำคัญ เด็กๆ มองว่าการเมืองทำให้เขาแย่ ในขณะที่โลกยุคใหม่มันไปไกลแล้ว ส่วนตัวเห็นด้วยในส่วนนี้ และมองว่าเทคโนโลยีเป็นโอกาสมากกว่า เด็กก็มองว่าถ้าเสรีภาพไม่มี รัฐบาลรู้ไม่เท่าทันเทคโนโลยี ล้าสมัย ก็ปิดโอกาสเขา เราก็เข้าใจเขา ก็ต้องอาศัยการพูดคุย ความเข้าใจซึ่งกันและกันเด็กๆ ห่วงอนาคต มองว่ารัฐบาลตกยุค ไม่อยากเห็นประเทศล้าสมัยลูกๆ เคยมาพูดคุยในเรื่องเหล่านี้ แต่เนื่องจากเขาเห็นมาตั้งแต่ยังเด็กและเราก็สอนลูกมาค่อนข้างที่จะเข้มแข็ง คุยให้เขารู้ สิ่งที่เขารู้สึกคงจะเป็นเหมือนเด็กทั่วไปที่ห่วงอนาคต เขามองว่าภายใต้การนำของรัฐบาลที่ถึงแม้ว่าจะมาจากการเลือกตั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นประชาธิปไตย ยังเป็นแบบซ่อนรูปอยู่ และสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่คำนึงกันมากคือการไม่ให้สิทธิเสรีภาพ ความไม่ทัดเทียมกัน การไม่กระจายอำนาจ กระจายโอกาส และความล้าหลังในแนวความคิด การเป็นศูนย์รวมรัฐราชการ ซึ่งรัฐราชการ แต่ประชาชนอ่อนแอ ถ้ามองง่ายๆ เขามองว่ารัฐบาลคิดแบบระบบของราชการ ไม่ทันสมัย ไม่ห็นความสำคัญเสียงของประชาชน ไม่เห็นความสำคัญความคิดของคนรุ่นใหม่ จึงไม่อยากเห็นประเทศที่ล้าสมัย และพลาดโอกาสในการใช้เทคโนโลยี เพื่อมาเป็นโอกาสในการพัฒนาอาชีพของเด็กและการพัฒนาประเทศชาติมุมมองเขาอาจจะมองว่า รัฐบาลตกยุค ออกกฎเกณฑ์ต่างๆ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มาขัดขวางการเจริญเติบโตของพวกเขา การทำมาหากินของพวกเขา รวมทั้งขัดขวางการเจริญก้าวหน้าของประเทศ คิดว่าจุดนี้คืออารมณ์ร่วมมากที่สุดบทบาท นักการเมือง แทบไม่แตกต่างจากบทบาท แม่จริงๆ แล้วความเหมือนมีเยอะ ในบทบาทของความห่วงใยต่อบ้างเมือง แน่นอนว่าความเป็นแม่เราก็ห่วงอนาคตของลูก เราก็อยากให้เขาเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี มีทั้งสังคม ศีลธรรม และเศรษฐกิจที่ดี มันก็คือบทบาทของนักการเมืองที่จะมากำหนดบทบาทของประเทศให้เดินไปแบบนั้น ขณะเดียวกันเด็กๆ มองว่าเราควรจะคว้าโอกาสของโลกยุคใหม่ให้เป็นโอกาสของเขา ของประเทศ เราก็ต้องปรับและพัฒนาตัวเองเช่นเดียวกัน ทุกวันนี้ในความเป็นแม่เราก็ต้องรู้เทคโนโลยี ในความเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้าทันเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเป็นประโยชน์กับประเทศ การพัฒนาเยาวชนของเราให้ได้โอกาส เราต้องไม่ปิดโอกาสนี้เพราะฉะนั้นบทบาทจะคล้ายๆ กัน ความเป็นแม่จะห่วงอะไรที่ไม่ใช่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว จะมองอะไรที่ยั่งยืน แม่ทุกคนเป็นแบบนี้ นักการเมืองหญิงทุกคนก็มักจะห่วงแบบนี้ นักการเมืองหญิงมักจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญของการทำถนนมากกว่าการทำโรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็ก ส่วนความแตกต่างแทบจะไม่มี เพราะมองว่าบทบาทของนักการเมืองที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ขณะเดียวกันในความเป็นแม่ เราต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว ลูก และสังคมฝากเยาวชนคนรุ่นใหม่ใช้โอกาสของโลกยุคใหม่พัฒนาตัวเองคนรุ่นใหม่รุ่นนี้เป็นรุ่นที่โชคดีนะคะ เป็นรุ่นที่มีเทคโนโลยีมาช่วยให้วิถีชีวิตง่ายขึ้น การทำมาหากินง่ายขึ้น โอกาสมีมากขึ้น ต้นทุนต่างๆ ลดลง เข้าถึงแหล่งความรู้ที่ถูกลงและกว้างขวางขึ้น อยากให้ลูกๆ เยาวชนได้ใช้โอกาสของโลกยุคใหม่ให้มาเป็นโอกาสให้การพัฒนาตัวเอง และใช้กำลังของตัวเองในการพัฒนาบ้านเมือง พัฒนาประเทศชาติคุณหญิงสุดารัตน์ ยังแสดงความเห็นส่วนตัวถึงการชุมนุมเมื่อ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่า เห็นด้วยกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ที่เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และหยุดคุกคามประชาชน เพราะถือว่าเป็นข้อเรียกร้องที่สมเหตุผล และอยู่ในวิสัยที่ทุกฝ่ายจะแสวงหาความร่วมมือกันได้ แต่ไม่ควรหมิ่นสถาบัน เพราะอาจจะนำมาซึ่งความขัดแย้งแตกแยกของคนในชาติ จนอาจเป็นเหตุของการยึดอำนาจอีกครั้งเรียกว่าเป็นคุณแม่นักการเมืองที่มีบทบาทมากคนหนึ่ง แถมปรับตัวเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ค่อนข้างดี แม้ปีนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ จะมีอายุถึง 59 ปีแล้ว เข้าสู่การเมืองตั้งแต่ปี 2535 เกือบ 30 ปีกับอาชีพนักการเมือง ผ่านบทบาทในสนามมาอย่างโชกโชน เป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายตำแหน่ง ปราศรัยแล้วมานับไม่ถ้วน และปัจจุบันก็ยังเป็นบุคคลสำคัญของพรรคเพื่อไทยที่สมาชิกให้ความเคารพ ถึงเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 ที่ผ่านมาจะชวดเก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยสูตรคำนวณ แต่ชื่อและบทบาทของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์กลับไม่เคยห่างหายไปไหนผู้เขียน : กิณรีสีอังกาบกราฟิก :Jutaphun Sooksamphunภาพ :Eakalak Mainoy FacebookSudarat Keyuraphan
ถ้าจะพูดถึง นักการเมืองหญิง ที่เราเห็นหน้าค่าตากันมาตลอด เรียกว่าแทบไม่เคยห่างหายไปไหน เชื่อว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อยู่อย่างแน่นอน
ข่าว,การเมือง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,special content,คุณหญิงสุดารัตน์,หญิงหน่อย,วันแม่,นักการเมืองหญิง,ประชาธิปไตย
https://www.thairath.co.th/news/politic/1907405
[ 0, 259, 40626, 3682, 172335, 1881, 66125, 2091, 47414, 78032, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
วางดอกไม้ รำลึก 12 ปี นวมทองประท้วงรัฐประหาร ตร.คุมเข้ม
ภรรยา แกนนำ นปช. และกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย วางดอกไม้รำลึก 12 ปี ณ จุดที่นวมทองปรากฏร่างเขาผูกคอเสียชีวิต หน้า สนพ. ไทยรัฐ โดยมีจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ รองโฆษก คณะรัฐประหาร ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้31 ต.ค.2561 เนื่องในวาระครบรอบ 12 ปีนวมทอง ไพรวัลย์คนขับแท็กซี่ วัย 60 ปี ซึ่งปรากฏร่างเขาผูกคอเสียชีวิต ที่บริเวณบริเวณสะพานลอยหน้า สนพ. ไทยรัฐ โดยมีจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปก.) ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้ นั้นช่วงสาย วันนี้(31 ต.ค.61) ที่บริเวณสดมภ์อนุสรณ์นวมทอง ซึ่งเป็นจุดที่พบร่างเขาดังกล่าวภรรยาของนวมทอง ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ ก่อแก้ว พิกุลทอง พร้อมด้วย สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยและประชาชนจำนวนหนึ่งร่วมวางดอกไม้รำลึก รายงานด้วยว่า บริเวณดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ประจำโดยรอบ ซึ่ง พ.ต.ท.ปริญญา กลิ่นเกสร รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ กล่าวถึงสถานการณ์ในช่วงเช้านี้ว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่จะคอยดูแลสถาการณ์อยู่เรื่อยๆ และว่า การชุมนุมมี 2 แบบ คือการชุมนุมเพื่อเรียกร้องทางการเมือง แต่ในวันนี้เป็นเพียงการมาเงียบๆ เพื่อวางดอกไม้ และจุดเทียน หรือมาแสดงความรำลึก การกระทำในลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่การชุมนุมนอกจากนี้ ในช่วงเย็นวันนี้ กลุ่ม 24 มิถุนาฯ ยังเตรียมจัดกิจกรรม ถ้อยคำรำลึก 12 ปี นวมทอง ไพรวัลย์ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนินฯ ด้วย รายละเอียดโดยภายในงาน อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรม ได้กล่าวรำลึกถึงนวมทอง ไพรวัลย์ด้วย โดยระบุว่า หากนวมทองยังมีชีวิตอยู่ในวันนี้ ก็คงกำลังเฝ้ารอการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง และคงเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเพราะนอกจากเรื่องในทางอดุมการณ์แล้ว นวมทองก็คือคนชั้นล่างในสังคมไทย เมื่อดูสภาวะหลังจากการรัฐประหารเป็นต้นมากลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดไม่ได้หนีไปจากกลุ่มคนระดับล่างเท่าไหร่ แม้ทุกวันนี้รัฐบาลพยายามที่จะบอกว่าเศรษฐกิจเติบโต จีดีพีขยายตัว แต่เอาเข้าจริงแล้วหากเราไปถามชาวบ้านร้านตลาดก็จะทราบว่าชีวิตมันฝึดเคืองขนาดไหน เราจะพบกลุ่มคนที่พยายามดิ้นร้นขวนขวายและหลายรายที่ไม่ประสบความสำเร็จจนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองไปก็เกิดขึ้นให้เราเห็นค่อนข้างมากมายจะว่าไปแล้วรัฐประหารที่เกิดขึ้น กลุ่มคนระดับล่างได้รับกระทบอย่างเต็มที่ กลุ่มเกษตรกรก็พบกับราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ โดยเฉพาะภาคใต้อาจจะเป็นส่วนใหญ่ของคนที่ส่งบัตรเชิญให้กับคณะรัฐประหารปัจจุบันนี้ก็น่าจะตระหนักแล้วใช่ไหมครับว่าราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งยางพาราตกต่ำขนาดไหน คนเหล่านี้จำนวนมากก็เฝ้ารอความเปลี่ยน อนุสรณ์ กล่าวสำหรับ นวมทอง ไพรวัลย์ เขาคนขับแท็กซี่ อดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.บางกรวย วัย 60 ปี ที่ขับรถแท็กซี่โตโยต้า โคโรลล่า สีม่วง เครื่องมือทำมาหากินของเขาพุ่งชนรถถังของ คมช. ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัส จนเป็นภาพข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ในขณะนั้น โดยที่หลังปฏิบัติการขับรถแท็กซี่ชนรถถังประท้วงรัฐประหารของเขาจนบาทเจ็บสาหัส 1 เดือนหลังจากนั้น ในคืนวันที่ 31 ต.ค. 2549 ปรากฏร่างเขาผูกคอเสียชีวิต ที่บริเวณสะพานลอยหน้า สนพ. ไทยรัฐ โดยมีจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปก.) ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้
ภรรยา แกนนำ นปช. และกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย วางดอกไม้รำลึก 12 ปี ณ จุดที่ นวมทอง ปรากฏร่างเขาผูกคอเสียชีวิต หน้า สนพ. ไทยรัฐ โดยมีจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ รองโฆษก คณะรัฐประหาร
การเมือง
นวมทอง ไพรวัลย์,รัฐประหาร
https://prachatai.com/journal/2018/10/79386
[ 0, 259, 51122, 119793, 5490, 85322, 100233, 259, 11103, 87196, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
สุรงค์ ย้ำฐานะการเงินแข็งโป๊ก กทพ. อ่วมจ่ายค่าโง่โทลล์เวย์
เงินต้นบวกดอกเบี้ยพุ่ง 4 พันล้าน,นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดให้ กทพ.จ่ายชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่บริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม จำนวน 1,800 ล้านบาทและดอกเบี้ย กรณีมีการสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต เป็นทางแข่งขันจนส่งผลกระทบต่อทำให้ปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ดของบริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ลดลงจากที่ประมาณการไว้ว่า ขณะนี้ กทพ.ยังไม่ได้รับเอกสารผลตัดสินอย่างเป็นทางการจากอัยการ แต่ก็น้อมรับคำพิพากษาของศาล โดยหน้าที่ของ กทพ.หลังจากนี้คือ ทำอย่างไรให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด,โดยขณะนี้ กทพ.ได้ศึกษาทางออกไว้หลายแนวทาง ว่าจะบริหารเงินจ่ายชดเชยหรือหนี้ก้อนนี้อย่างไร ซึ่งอาจจะใช้วิธีการทยอยจ่ายหรือลดเงินนำส่งคลัง โดยให้รัฐบาลรับภาระไปก่อน หรือเจรจาแลกเปลี่ยนกับผู้รับสัมปทานเพื่อให้ได้เงื่อนไขที่มีผลกระทบน้อยที่สุดกับ กทพ.และประชาชน โดยจะต้องเลือกวิธีที่ต้นทุนต่ำที่สุด,ขณะนี้ กทพ.ยังทำอะไรไม่ได้จะต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมก่อนว่าจะสั่งการให้ กทพ.ดำเนินการอย่างไร และจะใช้วิธีใดต้องไปประสานงานกับคู่สัญญา หรือต่อรองอะไรหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้เสนอเรื่องไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วอยู่ระหว่างรอการพิจารณา ทั้งนี้ หาก กทพ.จะต้องจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย 4,000 ล้านบาท จะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงิน เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจมีสภาพคล่องดีมาก มีกำไรรวมทั้งยังมีรายได้จากการจัดเก็บค่าผ่านทางมาสูงถึงวันละ 70 ล้านบาท,นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ รองผู้ว่าการ กทพ. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกระยะทาง 17 กม. วงเงินลงทุนรวม 31,244 ล้านบาท ซึ่งจะใช้แหล่งเงินลงทุนโครงการจากการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund : TFF) ว่า คาดว่าจะประกวดราคาได้เดือน ต.ค.และได้ตัวผู้ชนะการประมูลเดือน ก.พ. ปี 62.
ขณะนี้ กทพ.ยังไม่ได้รับเอกสารผลตัดสินอย่างเป็นทางการจากอัยการ แต่ก็น้อมรับคำพิพากษาของศาล โดยหน้าที่ของ กทพ.หลังจากนี้คือ ทำอย่างไรให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
ข่าว,เศรษฐกิจ
ทางด่วน,โทลล์เวย์,ค่าผ่านทาง,ค่าทางด่วน,การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
https://www.thairath.co.th/news/business/1384882
[ 0, 259, 224962, 9211, 260, 6494, 59570, 12682, 6088, 53936, 6200, 132192, 1549, 135963, 70847, 60946, 9542, 117092, 152683, 97410 ]
กล้าได้กล้าเสีย : ทรัมป์ หลบฉากหนีอาเซียน
แก้ตัวได้อีกครั้ง,เวทีการประชุมเอเปกที่ชิลีเป็นเจ้าภาพมีอันต้องยกเลิกไปโดยปริยาย เหตุเพราะปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมีการประชุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล,ทำให้มุมหนึ่งที่น่าสนใจคือการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนต้องเลื่อนออกไปทั้งๆที่สามารถตกลงกันได้ระดับหนึ่ง,ถึงขั้นที่จะลงนามข้อตกลงกันที่นั่นก็ต้องเลื่อนออกไปลงสถานที่อื่นคาดว่าเดือนหน้าคงจะประสบผลสำเร็จ,ทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี,ที่ประเทศไทยก็มีการประชุมอาเซียนซัมมิตในฐานะที่ไทยเป็น เจ้าภาพ ก็เป็นอีกเวทีหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ต่างกัน,เพราะในกลุ่มอาเซียนที่มีอยู่ 10 ประเทศ แต่มีประชากรมากถึง 500 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันต้องถือว่าเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญทั้งด้านการเมืองระหว่างประเทศ การค้า การลงทุน,พูดง่ายๆ ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในระดับโลกไปแล้ว,แม้แต่ละประเทศที่ผูกพันในความเป็นอาเซียนนั้นยังอยู่ในระดับประเทศกำลังพัฒนาเป็นส่วนใหญ่,แต่ก็มีอีกหลายประเทศที่มีการพัฒนายกระดับถึงประเทศที่พัฒนาแล้วโดดเด่นที่สุดก็คือสิงคโปร์ ที่ไล่มาติดๆก็คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนามและไทย,ลักษณะความร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียนนั้นแม้ยังไม่ได้ก้าวไปถึงอียูที่กลายเป็นประเทศใหญ่ในยุโรปซึ่งมีความสัมพันธ์กันถึงขั้นใช้เงินสกุลเดียวกัน,แต่อาเซียนมีความสัมพันธ์กันอย่างหลวมๆ แต่ภาพรวมก็มีความเป็นหนึ่งที่เกาะเกี่ยวกันอย่างดีจนทำให้ประเทศมหาอำนาจให้ความสำคัญทุกด้าน,จุดที่ตั้งถือเป็นยุทธภูมิที่ประเทศใหญ่ๆพยายามผูกสัมพันธ์เพื่อครองใจโดยเฉพาะสหรัฐฯ จีน รัสเซีย อียู และอีกหลายประเทศ,การประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่ผู้นำในประเทศอาเซียนเท่านั้น แต่มีประเทศคู่ค้าที่ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อเจรจาว่าด้วยการค้า การลงทุน,ที่สำคัญก็คือการเมืองระหว่างประเทศ,การประชุมครั้งนี้มีหลายระดับเริ่มจาก 30 พ.ค.62 ถึง 4 พ.ย.62 เมื่อเสร็จสิ้นก็จะผ่องถ่ายให้เวียดนาม ซึ่งจะเป็น เจ้าภาพ ในฐานะประธานอาเซียนต่อไป,10 กว่าปีที่ผ่านมาไทยในฐานะประธานอาเซียนจึงเป็น เจ้าภาพ ได้จัดประชุมที่พัทยาได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิ ทำลายภาพลักษณ์อย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น,ระหว่างได้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองปรากฏกลุ่ม นปช.ได้นำกำลังบุกเข้าไปก่อเหตุวุ่นวายสร้างความหวาดหวั่นต่อผู้นำประเทศต่างๆที่เข้าร่วมประชุม,ถึงขั้นต้องหนีตายกันอย่างจ้าละหวั่นผลก็คือการประชุมต้องยุติลงโดยปริยาย,เผอิญระหว่างการประชุมในครั้งนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาบรรดาแกนนำ นปช.และตัดสินจำคุกไปหลายคน พ้นคดีไปส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งเผ่นหนีไป,เป็นเหตุให้รัฐบาลปัจจุบันต้องจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงหมื่นคนเพื่อทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเพราะมีบทเรียนที่ล้ำค่ามาแล้ว,เสียดายที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่มาร่วมประชุม แต่ส่งเจ้าหน้าที่ระดับมาแทนเหมือนไม่ให้ราคา,ก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด แต่อย่างหนึ่งเพราะสหรัฐฯสร้างปัญหาต่อภูมิภาคนี้เอาไว้มาก ยิ่งไทยกำลังถูกเล่นงานในเรื่องที่ถูกตัดจีเอสพีและการแบน 3 สารเคมี ซึ่งไทยจะใช้เวทีนี้เพื่อเจรจาต่อรอง,หรืออาจจะหลบฉากเพราะอาจถูกรุมสกรัมก็เป็นได้?,สายล่อฟ้า
เวทีการประชุมเอเปกที่ชิลีเป็นเจ้าภาพมีอันต้องยกเลิกไปโดยปริยาย เหตุเพราะปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมีการประชุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล
โดนัล ทรัมป์,หนีอาเซียน,ประชุมอาเซียน,สายล่อฟ้า,กล้าได้กล้าเสีย
https://www.thairath.co.th/news/politic/1694743
[ 0, 259, 164407, 194193, 133827, 129774, 98203, 3682, 176501, 1549, 11984, 3682, 33559, 17117, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
สะพรึง ไอ้เข้ตัวเท่านี้ อำพรางตัวสุดเนียน โผล่พรวดจากหนองน้ำตื้น (คลิป)
เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญจับจระเข้ ที่เขตป่าสงวนในออสเตรเลีย แสดงให้นักท่องเที่ยวบางคนที่ชอบเข้าไปอยู่ใกล้ริมแหล่งน้ำตื้นๆ เห็นถึงอันตรายจากจระเข้ ที่สามารถอำพรางตัวได้แนบเนียนชนิดที่คนคาดไม่ถึง ,เมื่อ 24 ต.ค.60 เว็บไซต์ The Sun รายงาน  เจ้าหน้าที่เขตป่าสงวนแห่งหนึ่งในนอร์ท ควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจับจระเข้ ต้องการให้บรรดานักท่องเที่ยวตระหนักถึงอันตรายจากสัตว์ร้ายชนิดนี้ ขณะมาท่องเที่ยวในเขตป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติต่างๆ และเดินเข้าไปใกล้หนองน้ำตื้นๆ เนื่องจากคิดว่าไม่มีอันตรายใดๆ ซ่อนอยู่ โดยได้สาธิตให้ดูว่าจระเข้อำพรางตัวในน้ำได้นิ่งสนิทและแนบเนียนขนาดไหน ด้วยการนำไก่ตัวหน่ึงมาล่อ ซึ่งไม่นานจากนั้น จระเข้ตัวใหญ่มากได้โผล่พรวดขึ้นจากหนองน้ำหลังจากมันถูกรบกวน,จากคลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้ที่ถึงแม้ถูกนำมาโพสต์ทางออนไลน์ครั้งแรกนานพอสมควรแล้ว แต่ยังคงมีการถูกแชร์ต่อและสื่อต่างประเทศนำมาเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้อีกนั้น  แสดงให้เห็นจระเข้ตัวใหญ่ตัวนี้โผล่พรวดขึ้นมาจากหนองน้ำและคลานตรงมาตามกลิ่นเหยื่อของมันอย่างน่ากลัว ซึ่งคลิปวิดีโอนี้ ต้องการเตือนใจให้ผู้คนทั้งหลายรู้ว่า เป็นเรื่องง่ายมากขนาดไหนที่จระเข้สามารถพรางตัว ซ่อนอยู่ในแหล่งน้ำตื้นๆ จนคนเราคาดไม่ถึง .
เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญจับจระเข้ ที่เขตป่าสงวนในออสเตรเลีย แสดงให้นักท่องเที่ยวบางคนที่ชอบเข้าไปอยู่ใกล้ริมแหล่งน้ำ เห็นถึงอันตรายจากจระเข้ ที่สามารถอำพรางตัวได้แนบเนียนชนิดที่คนคาดไม่ถึง
ข่าว,ต่างประเทศ
จระเข้,จระเข้อำพรางตัว,แหล่งน้ำตื้น,นอร์ท ควีนส์แลนด์,ออสเตรเลีย
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1106435
[ 0, 259, 85322, 53936, 214464, 57741, 39932, 49947, 16344, 36595, 124403, 21779, 259, 52631, 4188, 103015, 6196, 36595, 88618, 16485 ]
ขอ 8.3 หมื่น ล.กู้ชีพเศรษฐกิจ ตจว.
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และโฆษกหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชารัฐกำลังหารือร่วมกันเพื่อพิจารณาโครงการจาก 18 กลุ่มจังหวัด รวมกว่า 1,000 โครงการ มูลค่ารวม 83,000 ล้านบาท เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการใช้งบประมาณเพิ่มเติมปี 60 ภายในเดือน ม.ค.60 และจะเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้งบประมาณดังกล่าวสามารถขับเคลื่อนลงสู่ 18 กลุ่มจังหวัดได้ภายในเดือน มี.ค.60 คาดว่าเมื่อเม็ดเงินกระจายลงสู่ 18 กลุ่มจังหวัดแล้ว จะช่วยเพิ่มการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ได้ 0.5% หรือขยายตัวได้ 4-4.5% จากเดิมที่หอการค้าไทยคาดจีดีพีปี 60 จะขยายตัวอยู่ที่ 3.5-4%,ทั้งนี้ ในเบื้องต้นมีโครงการที่นำเสนอเข้ามาแบ่งเป็น 1.โครงการด้านกลุ่มเกษตร 400 โครงการ มูลค่า 25,000 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างแหล่งน้ำชุมชน 2.ด้านท่องเที่ยวและบริการ 400 โครงการ 32,000 ล้านบาท เพิ่มความปลอดภัย และเน้นท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ สร้างอัตลักษณ์จังหวัด 3.ด้านการค้า การลงทุนและการค้าชายแดน 116 โครงการ 7,900 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสาธารณูปโภคพื้นฐานตามด่านชายแดน และ 4.ด้านโลจิสติกส์ 27 โครงการ 18,200 ล้านบาท ทั้งนี้ นโยบายการสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นถ้าทำต่อเนื่องจะลดสัดส่วนการพึ่งพาการส่งออกที่ปัจจุบันสูงถึง 70% ของจีดีพีประเทศ ลงมาอยู่ที่ 60% และเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจในประเทศจาก 30% เป็น 40% ได้ใน 10 ปี.
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และโฆษกหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชารัฐกำลังหารือร่วมกันเพื่อพิจารณาโครงการจาก 18 กลุ่มจังหวัด รวมกว่า 1,000 โครงการ มูลค่ารวม 83,000 ล้านบาท
วิชัย อัศรัสกร,หอการค้าไทย,งบประมาณเพิ่มเติมปี 60,เศรษฐกิจท้องถิ่น,จีดีพี
https://www.thairath.co.th/content/817412
[ 0, 259, 167509, 89153, 32896, 20279, 10228, 99650, 12005, 117065, 38860, 4348, 812, 143750, 67395, 259, 138813, 37513, 630, 62722 ]
ผุดป้ายผ้ารูปชูสามนิ้ว-ต้านรัฐประหาร หลายจุดในเมืองเชียงราย
ผุดป้ายผ้ารูปชูสามนิ้ว และป้ายมีข้อความต่อต้านรัฐประหารหลายจุดในเมืองเชียงราย เบื้องต้นยังไม่ทราบผู้ใดติดป้ายดังกล่าว คาดต้อนรับ อนุพงษ์ ปาฐกถาหอการค้าเชียงราย22 พ.ย. 2557 ที่จังหวัดเชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (21 พ.ย.) มีผู้พบเห็นป้ายผ้าหลายอัน ที่มีรูปวาดมือชูสามนิ้ว และป้ายผ้าที่มีข้อความต่างๆ ในลักษณะต่อต้านการรัฐประหาร เช่น ป้ายที่มีคำว่า Freedom ผมนี่สามนิ้วเลย ไม่เอารัฐทหาร เป็นต้นเท่าที่มีผู้พบเห็น ป้ายลักษณะดังกล่าว ถูกติดอยู่ทั้งบริเวณถนนย่านมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย บริเวณย่านมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง บริเวณถนนหน้าค่ายเม็งรายมหาราช เป็นต้น โดยมีผู้ถ่ายรูปป้ายผ้าดังกล่าวและโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก แต่ในเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ติดป้ายผ้าดังกล่าวด้านรายงานวันนี้ (22 พ.ย.) ว่าจากกรณีที่ทางหอการค้าไทยจัดให้มีการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 37 ที่ จ.เชียงราย โดยมีพิธีเปิดที่หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต.ท่าสุด อ.เมือง และทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง กระทรวงมหาดไทยกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ในช่วงเช้าของวันนี้พบว่าได้มีผู้ออกเคลื่อนไหวด้วยการเขียนข้อความและภาพสัญลักษณ์ที่มีเนื้อหาต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)โดยก่อนเช้าได้มีผู้นำสีไปพ่นบริเวณถนนรอบค่ายเม็งรายมหาราชซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) และหน่วยทหารอื่นๆ อีกหลายหน่วยโดยแต่ละข้อความส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบริเวณถนนรอบค่ายเม็งรายมหาราชมีข้อความที่หลากหลายและบางครั้งก็มีภาพมือชู 3 นิ้วซึ่งการพ่นข้อความตามจุดต่างๆ ดังกล่าวกระจายไปตามถนนรอบค่ายห่างกันรวมจำนวนประมาณ 7 จุดกระทั่งรุ่งเช้ามีผู้ไปพบเห็นข้อความจึงแจ้งเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ทำให้ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ออกมาทำความสะอาดและลบข้อความดังกล่าวให้เป็นไปตามปกติ ทั้งนี้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ว่าช่วงคืนที่ผ่านมาทาง พ.ต.อ.สงวน โรงสะอาด รอง ผบก.ภ.เชียงราย ได้เป็นประธานปล่อยแถวการปฏิบัติภารตำรวจและทหารกว่า 100 นาย จากบริเวณห้าแยกพ่อขุน อ.เมือง เพื่อร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดกลางคืนเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายและตรวจสอบการเคลื่อนไหวเชิงแสดงสัญญาลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลแล้วก็ตามนอกจากนี้พบว่าบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงซึ่งทาง พล.อ.อนุพงศ์ เดินทางไปปาฐกถายังพบมีผู้นำป้ายข้อความไปติดเอาไว้บนป้ายประชาสัมพันธ์งาน MFU Book Fair 2014 มีเนื้อหากระทบกระเทียบการห้ามชู 3 นิ้วและเขียนภาพคนชูนิ้วมือ 3 นิ้วพร้อมข้อความประชดประชัน ขณะที่บางจุดพ่นข้อความด้วยสีระบุข้อความและตัวหนังสือคล้ายๆ กับที่เกิดขึ้นบนถนนใกล้ค่ายเม็งรายมหาราชด้วยซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำความสะอาดและเก็บสิ่งแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าวก่อนจะมีการจัดวางกำลังตามจุดต่างๆเพื่อเฝ้าระวังการแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าวทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่พบผู้กระทำการดังกล่าวในทั้ง 2 จุด คาดว่าได้ออกกระทำตั้งแต่เช้ามืดหรือกลางคืนจึงมีการติดตามด้วยกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามหาตัวว่าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาหรือไม่อย่างไรต่อไป
ผุดป้ายผ้ารูปชูสามนิ้ว และป้ายมีข้อความต่อต้านรัฐประหารหลายจุดในเมืองเชียงราย เบื้องต้นยังไม่ทราบผู้ใดติดป้ายดังกล่าว คาดต้อนรับ อนุพงษ์ ปาฐกถาหอการค้าเชียงราย 22 พ.ย.
การเมือง
ต้านรัฐประหาร,อนุพงษ์ เผ่าจินดา,เชียงราย
https://prachatai.com/journal/2014/11/56635
[ 0, 259, 51122, 119793, 5490, 172335, 24040, 5269, 9211, 75137, 72364, 66248, 42947, 171475, 37070, 229755, 49012, 59270, 47815, 1 ]
รู้จักโรค นิ้ง กุลสตรี ป่วยประหลาด ฟกช้ำทั่วร่าง แพทย์เผยอาการเสี่ยง รีบตรวจ
จากกรณีอดีตนางเอกดัง นิ้ง กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา วัย 46 ปี ป่วยโรคประหลาด ร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง จึงเข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนจะย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ โดยแพทย์ระบุว่าเป็น โรคไขกระดูกบกพร่อง ไม่สามารถสร้างเกล็ดเลือดด้วยตัวเอง,โดย นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ความรู้กับประชาชน ผ่านทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ว่าไขกระดูกเป็นอวัยวะสำคัญทำหน้าที่สร้างเซลล์ 3 ชนิด คือ ,1.เม็ดเลือดแดง 2.เกล็ดเลือด และ 3.เม็ดเลือดขาว, หากร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดน้อยกว่าปกติ จะทำให้เลือดจาง,ส่วนเม็ดเลือดขาวทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรค หากร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดขาวน้อย จะทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีผลทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อง่ายโดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา,ขณะที่ เกล็ดเลือดนั้น มีหน้าที่ห้ามเลือด ฉะนั้น หากร่างกายสร้างเกล็ดเลือดลดลง จะส่งผลให้มีจุดเลือดออกตามตัว เลือดออกในปาก,อาการ,- เลือดออกง่าย, เลือดหยุดยาก, มีจ้ำเลือด,- มีปัญหาเลือดจาง โดยไม่ทราบสาเหตุ,- ติดเชื้อได้ง่าย,- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย,การกินยาบางชนิดโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ อาจส่งผลให้ตัวยาไปกดการทำงานของไขกระดูก เพราะฉะนั้น ประชาชนควรระมัดระวังการใช้ยาและสารเคมี หากไม่มั่นใจ สามารถปรึกษาแพทย์ได้ นพ.มานัส กล่าว,หากพบว่า ตนเองมีอาการลักษณะข้างต้น อย่าชะล่าใจ ต้องรีบเดินทางไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากเหตุใด เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการรักษาให้ตรงจุดที่สุด นพ.มานัส กล่าว,วิธีรักษา,ส่วนวิธีการรักษานั้น ต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ว่า ผู้ป่วยมีไขกระดูกบกพร่อง อันเนื่องมาจากสาเหตุใด ซึ่งวิธีการรักษามีหลายรูปแบบ และขึ้นอยู่กับว่าประสิทธิภาพการทำงานของไขกระดูกลดลงมากน้อยเพียงใด ยกตัวอย่างเช่น การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด, การให้ยากดภูมิคุ้มกัน จะเลือกในรายที่โรครุนแรงแต่ไม่สามารถทำปลูกถ่ายไขกระดูกได้, ใช้เคมีบำบัด, ให้ยากระตุ้นเม็ดเลือด นพ.มานัส กล่าว,นพ.มานัส แสดงความห่วงใยไว้ว่า ประชาชนที่มีความกังวลว่า อาจมีอาการป่วยเกี่ยวกับไขกระดูก ควรตรวจเกล็ดเลือด, เม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดแดง และทุกโรงพยาบาลสามารถตรวจได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนั้น การตรวจสุขภาพประจำปีก็มีโปรแกรมการตรวจเช่นนี้อยู่แล้ว.
โรคไขกระดูกบกพร่อง นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ความรู้กับประชาชน ผ่านทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ว่าไขกระดูกเป็นอวัยวะสำคัญทำหน้าที่สร้างเซลล์ 3 ชนิด คือ
ข่าว,ทั่วไทย
ไขกระดูกบกพร่อง,นิ้ง กุลสตรี,โรคประหลาด,ร่างกายฟกช้ำ,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1618038
[ 0, 259, 95580, 4188, 130215, 6582, 259, 152093, 5490, 228456, 121978, 193870, 9211, 231992, 259, 51523, 83350, 82573, 1549, 118349 ]
นักข่าวพลเมือง: พีมูฟแนะ ปชป. เดิมพันเลือกตั้งด้วยการแก้ปัญหาคนจน
พีมูฟจี้รัฐบาลต้องจริงใจแก้ปัญหาคนจน เจรจาทุกกระทรวงแล้วรอพบนายกฯ เผาหุ่นสุวิทย์เหตุขัดขวางโฉนดชุมชน คลองโยงแนะรัฐบาลเลิกเกรงใจพรรคร่วมสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2554 ตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ได้เดินทางไปร่วมเจรจากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมรับข้อเสนอเชิงหลักการทั้งหมด โดยให้ไปติดตามผลในเชิงปฏิบัติจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม หลังจากนั้น ให้นำผลการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปนำเรียนนายกฯ อีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันนส.พงษ์ทิพย์ สำราญจิตต์ ที่ปรึกษาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) และที่ปรึกษาพีมูฟ กล่าวว่า ขณะนี้ได้หารือกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องแล้ว ผลปรากฏว่าต้องอาศัยอำนาจของนายกฯ ในการสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติตามกรอบแนวการแก้ปัญหาที่ได้มีการตกลงร่วมกัน ระหว่างนี้กำลังประสานงานขอพบนายกฯ เพื่อนำเรียนถึงผลการเจรจากับกระทรวงต่างๆ และหาข้อสรุปร่วมกัน แต่ยังไม่สามารถนัดหมายได้ช่วงนี้นายกฯ คงสนใจเรื่องการเลือกตั้ง ทางพีมูฟเสนอว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรเดิมพันการหาเสียงด้วยการแก้ปัญหาให้คน จนอย่างจริงจังและจริงใจ ตามสโลแกนของพรรคที่ว่า ประชาชนต้องมาก่อน ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาเพียงผิวเผิน หรืออ้างลอยๆ ว่าได้แก้ปัญหาให้คนจนแล้ว ถ้าพรรคประชาธิปัตย์หาเสียงด้วยนโยบายประชานิยมแบบเดิมๆ ก็แสดงว่า ไม่มีภาวะผู้นำ ไม่มีความกล้าที่จะตัดสินใจ ไม่ใช่นักการเมืองแนวใหม่ หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่แก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนอย่างจริงจัง สมัยหน้าคนจนคงไม่เลือก นส.พงษ์ทิพย์กล่าวผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของขบวนพีมูฟ เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.53) ได้มีตัวแทนจำนวนประมาณ 500 คนเดินเท้าจากที่ชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีการเผาหุ่น นายสุวิทย์ คุณกิติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อแจ้งให้นายกฯ ทราบว่า รมต.สุวิทย์ หลีกเลี่ยงที่จะพบตัวแทนพีมูฟ ทั้งที่มีการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงทรัพยฯ และพีมูฟ 3 ครั้ง อีกทั้งไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ทำโฉนดชุมชน เป็นการแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าจงใจขัดคำสั่งนายกฯ และไม่ดำเนินการตามนโยบายโฉนดชุมชนของรัฐบาล ทั้งนี้ พีมูฟมีข้อเสนอให้เรียกตัว รมต.สุวิทย์ มาเจรจาร่วมกับนายกฯ หากไม่สามารถทำได้ให้มีคำสั่งปลด รมต.สุวิทย์ ออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุที่บกพร่องต่อหน้าที่ อีกทั้ง ให้มีคำสั่งนายกฯ คุ้มครองพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงทรัพยฯ 410 ชุมชนด้านนายภาณุ เอี่ยมสุวรรณ รองประธานสหกรณ์คลองโยง ซึ่งรัฐบาลนำโดยนายกฯ ได้ส่งมอบพื้นที่โฉนดชุมชนให้สหกรณ์คลองโยง เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่รัฐบาลยังไม่แก้ปัญหาให้พี่น้องพีมูฟ ไม่รู้สึกภูมิใจที่รัฐบาลมอบพื้นที่โฉนดชุมชนให้คลองโยงเพียงบ้านเดียว ทั้งๆ ที่เราร่วมต่อสู้ด้วยกันมาอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้พี่น้องเร็วๆ เพราะเวลาของรัฐบาลนั้นเหลือน้อยแล้ว กรณีคุณสุวิทย์ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ หากยังไม่สนองนโยบายรัฐบาลเรื่องโฉนดชุมชน ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งอีก ต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนอื่นที่สนองนโยบายรัฐบาล รัฐบาลไม่ต้องเกรงใจพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเวลาของรัฐบาลนั้นเหลือน้อยแล้ว สำหรับพี่น้องขอให้สู้ต่อไป อดทนกันสักหน่อย มีความหวังว่าเราจะต้องทำได้ เอาใจช่วยพี่น้องเต็มที่ นายภาณุกล่าวทั้งนี้ ขบวนพีมูฟ ประกอบด้วยกลุ่มคนจนประมาณ 70000 ครัวเรือน ใน 36 จังหวัด จาก 4 เครือข่าย 3 กรณีปัญหา ได้แก่ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย เครือข่ายชุมชนเพื่อปฏิรูปสังคมและการเมือง สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล เครือข่ายสลัม 4 ภาค ชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวลและคัดค้านโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ อุบลราชธานี จำนวนทั้งสิ้น 5000 คน ซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่ที่ลานพระรูปทรงม้า โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางสังคม และมีนโยบาย ได้แก่ ปฏิรูปที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม รับรองสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
พีมูฟจี้รัฐบาลต้องจริงใจแก้ปัญหาคนจน เจรจาทุกกระทรวงแล้วรอพบนายกฯ เผาหุ่นสุวิทย์เหตุขัดขวางโฉนดชุมชน คลองโยงแนะรัฐบาลเลิกเกรงใจพรรคร่วม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2554
การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม,สังคม
pmove,ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม,ขปส.
https://prachatai.com/journal/2011/03/33338
[ 0, 259, 137738, 99412, 184691, 30713, 161879, 202949, 259, 122112, 259, 203061, 51523, 229356, 113262, 11858, 236180, 1, 0, 0 ]
รายงานวันจันทร์-รีสอร์ตชานกรุง-ปาร์คแห่งแรกที่บางนา สวนน้องใหม่บางนาภิรมย์
สำนักงานเขตบางนา ได้ย้ายจากที่ทำการเดิม อยู่ติดกับโรงพยาบาลไทยนครินทร์ ใกล้ห้างบิ๊กซีบางนาประมาณ กม. 4 ถนนบางนา–ตราด มาอยู่ที่ถนนสรรพาวุธกว่า 2 เดือนแล้ว ทั้งนี้ ที่ทำการสำนักงานเขตบางนาแห่งใหม่ดูแตกต่างจากสำนักงานเขตอื่นๆ เพราะมีสวนหย่อมร่มรื่นสวยงาม ชื่อว่า สวนบางนาภิรมย์,สวนบางนาภิรมย์ หรือรีสอร์ตแห่งบางนา แห่งนี้ มีที่มาเช่นไร รายงานวันจันทร์ วันนี้จะไปฟังเรื่องราวจาก คุณวัลยา วัฒนรัตน์ ผู้อำนวยการเขตบางนา,--------------------,ถาม สวนบางนาภิรมย์ มีที่มาอย่างไร,ผอ.วัลยา,สำนักงานเขตบางนาแห่งใหม่ เดิมเป็นที่ตั้งบริษัทไม้อัดไทย จำกัด ต่อมาเลิกกิจการและขายที่ดินให้กับ กทม.เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ เนื่องจากเนื้อที่กว้างมาก กทม.จึงมีนโยบายให้ก่อสร้างเป็นศูนย์ราชการ ประกอบด้วย สำนักงานเขต โรงพยาบาล ดับเพลิง ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ เบื้องต้นให้ย้ายสำนักงานเขตบางนามาอยู่ก่อน โดยสร้างเป็นอาคารชั่วคราวจนกว่าแบบศูนย์ราชการจะแล้วเสร็จ,ทั้งนี้ ตัวอาคารสำนักงานเขตใช้พื้นที่บริเวณริมขอบ เพื่อความสะดวกในการรื้อถอนในอนาคต ทำให้พื้นที่ตรงกลางว่าง เขตจึงได้ปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งเดิมเป็นป่าต้นกระถินยักษ์จัดทำเป็นสวนหย่อม เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ อยู่ระหว่างด้านหน้าอาคารกับลานจอดรถ มีคูน้ำล้อมรอบ คนที่มาติดต่อราชการจะต้องเดินผ่านสวนหย่อมมายังอาคาร จะได้สัมผัสต้นไม้ เห็นความเขียว ความสวยงาม ที่เครียดมาก็จะเบาลง ส่วนคนที่นั่งรออยู่ในอาคาร สามารถมองเห็นสวนหย่อมจะได้รู้สึกสดชื่น สบายใจ และคลายความเครียด ความกังวล,ถามการจัดสวนเน้นรูปแบบใด,ผอ.วัลยา,การจัดสวนหย่อมจะเน้นการปลูกหญ้า สไตล์ยุโรป ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ อายุสั้น เพื่อความสะดวกในการรื้อถอน หรือล้อมย้ายไปปลูกที่อื่น มากกว่าไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้มีโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการ โดยต้นไม้ที่นำมาปลูกเป็นการย้ายจากจุดอื่นหรือเป็นต้นไม้ที่ทางเขตเพาะขึ้นเอง ไม่ได้ใช้งบประมาณจัดซื้อ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งสวนก็นำเอาของเก่ามาดัดแปลงกลับมาใช้ใหม่,ช่วงต้นปีอากาศเย็นสบายคล้ายรีสอร์ตในต่างจังหวัด จึงมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก และมีการแชร์ภาพต่อๆกันผ่านทางโซเชียลต่างๆ ทำให้สวนบางนา-ภิรมย์ เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความภูมิใจของทางเขต ช่วงนี้ต้นไม้อาจจะแห้งเพราะอากาศร้อน แต่พอถึงฤดูฝน ต้นไม้เริ่มแตกกิ่งใบ พื้นที่จะดูเขียวมากขึ้น ขณะนี้จัดทำเลนขี่จักรยาน,รอบสวนอีก เพื่อใช้ประโยชน์พื้นที่ให้สูงสุด,ถามฟีดแบ็กเป็นอย่างไร,ผอ.วัลยา,คนชอบมาก เพราะสวนบางนาภิรมย์ เป็นสวนหย่อมแห่งแรกของเขตบางนา ซึ่งทางเขตเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการทุกวัน ช่วงเย็นๆจะมีคนแวะเวียนเข้ามาพักผ่อน ถ่ายรูป วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก็เข้ามาทำกิจกรรมแบบครอบครัว ทางเขตยินดีต้อนรับ แต่ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หากทุกคนช่วยกันดูแลสวนบางนาภิรมย์ก็จะสดใส ร่มรื่น อยู่คู่กับคนบางนาไปอีกนาน.
สวนบางนาภิรมย์ หรือรีสอร์ตแห่งบางนา แห่งนี้ มีที่มาเช่นไร รายงานวันจันทร์ วันนี้จะไปฟังเรื่องราวจาก คุณวัลยา วัฒนรัตน์ ผู้อำนวยการเขตบางนา
ข่าว,ทั่วไทย
รายงานวันจันทร์,สำนักงานเขตบางนา,ที่ทำการเดิม,โรงพยาบาลไทยนครินทร์,ถนนสรรพาวุธ,สวนบางนาภิรมย์,รีสอร์ตแห่งบางนา,วัลยา วัฒนรัตน์,ทีมข่าวกทม.
https://www.thairath.co.th/news/local/488467
[ 0, 259, 66191, 31879, 20475, 208274, 104582, 33034, 259, 70824, 3682, 187345, 53530, 48662, 145793, 11984, 259, 46033, 1, 0 ]
ม.บูรพา : โกงกาง จัดวิ่งไล่ลุง จนได้ ท่ามกลางการขัดขวางคุกคาม
กลุ่มโกงกางมหาวิทยาลัยบูรพา จัดวิ่งไล่ลุง ท่ามกลางอุปสรรคทั้งมหาลัยอ้างไม่ได้หนังสือขออนุญาตจนท.เช็คข้อมูล-เก็บภาพงานบางส่วน12 ม.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เวลา 16.00 น.ที่ มหาวิทยาลัยบูรพาบางแสน กลุ่มโกงกางซึ่งเป็นกลุ่มนักกิจกรรมพื้นที่มหาวิทยาลัยบูรพาจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ขึ้น จากลานธรรมวนไปบรรจบที่ลานปลากระเบนระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตรโดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีอุปสรรคขัดขวางเล็กน้อยระหว่างมหาวิทยาลัยกับผู้จัดงาน อย่างไรก็ตามกิจกรรมนี้สามารถจัดได้และดำเนินไปได้อย่างราบลื่นปกติไม่มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ ผู้จัดงานและผู้ที่มาร่วมงานครั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยส่งเจ้าหน้าที่มาเจรจากับผู้จัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ในครั้งนี้ โดยยกเหตุผลเรื่องของการที่ไม่ได้รับทราบถึงเอกสารการขอจัดกิจกรรมในพื้นที่ และขอให้ผู้จัดยุติการจัดกิจกรรม อย่างไรก็ตามผู้จัดยืนยันกับเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยว่า ได้ส่งหนังสือขออนุญาติไปแล้ว พร้อมระบุว่า มหาวิทยาลัยก็รับเรื่องในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้รวมไปถึงการถ่ายคัดลอกสำเนาไว้แล้วเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายความมั่นคง ได้มีการเข้ามาสอบถามถึงรูปแบบการจัดกิจกรรมรวมไปถึงการสอบถามเรื่องการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ อ้างถึงความกังวลว่ากิจกรรมนั้นจะบานปลายไปสู่การชุมนุมทางการเมือง ผู้จัดงานโดยกลุ่มโกงกางส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยเจรจาจนได้ข้อสรุป โดยยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์บานปลายไปถึงการชุมนุมอย่างแน่นอนเพราะสื่อสารประชาสัมพันธ์กิจกรรมรวมและแจ้งผู้ที่มาร่วมงานว่างานครั้งนี้คือ การวิ่ง ที่เป็นกิจกรรมออกกำลังกายไม่ได้เป็นกิจกรรมทางการเมืองแต่อย่างใดผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ภายหลังจากเจรจา ผู้จัดยังดำเนินกิจกรรมดำเนินต่อไป โดยปล่อยตัวนักวิ่งจาก ลานธรรมวนไปบรรจบที่ลานปลากระเบน ระยะทางในการวิ่งครั้งนี้อยู่ที่ 3.1 กิโลเมตร แม้ทางมหาวิทยาลัยยังคงอ้างเรื่องขออนุญาติใช้สถานที่พร้อมทั้งขอให้ยุติกิจกรรมกิจกรรมการวิ่งไล่ลุงที่มหาวิทยาลัยบูรพา บางแสนครั้งนี้มีผู้เข้าร่วม ทั้งจากการลงทะเบียนและเดินเข้ามาร่วมกิจกรรมเลย จำนวน 150 คน ผู้สื่อข่าวสอบถามผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมรายหนึ่งกล่าวว่า การจัดกิจกรรมการวิ่งครั้งนี้สนับสนุนให้จัดและเต็มใจที่จะมาวิ่งเพราะติดปัญหาเรื่องการเดินทางไปกรุงเทพ เมื่อเห็นว่าที่บางแสนจัดก็เลยจึงมาเข้าร่วมต่อประเด็นคำถามถึงความกังวลต่อผู้เข้าร่วมนั้น ได้เสียงสะท้อนกลับว่า ไม่ได้มีความกังวลเพราะมองว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นการนัดกันมาวิ่งเพื่อออกกำลังกายนอกจากนี้ก่อนกิจกรรมจะยุติการจัดกิจกรรมขึ้น ผู้จัดมีกิจกรรมเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมขึ้น โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมเขียนป้ายผ้าแสดงความอัดอั้นและระบายอารมณ์อย่างสร้างสรรค์ลงป้ายผ้าในครั้งนี้ จนเมื่อมาถึงช่วงสุดท้ายของกิจกรรมก็ได้มีการรวมตัวกับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์กิจกรรม วิ่งไล่ลุง ที่เกิดขึ้นทั่งทั้งประเทศอย่างไรก็ตาม หลังจากกิจกรรมยุติทางผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ผู้จัดกิจกรรมถูกคุกคามในหลายทาง เช่น การคุกคามละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเรื่องของการแอบติดตามทีมงานผู้จัดกิจกรรมครั้งนี้จากเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิฯ อีกทั้งเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยก็ใช้วิธีการบันทึกภาพวีดีโอแบบประชิดตัวอีกด้วยทั้งนี้ผู้ที่โดนกระทำดังกล่าวได้แจ้งเรื่องการถูกละเมิดสิทธิฯต่อทางศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชนและ iLaw แล้วเช่นกัน
กลุ่มโกงกาง มหาวิทยาลัยบูรพา จัด วิ่งไล่ลุง ท่ามกลางอุปสรรคทั้งมหาลัยอ้างไม่ได้หนังสือขออนุญาต จนท.เช็คข้อมูล-เก็บภาพงานบางส่วน12 ม.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เวลา 16.00 น.
การเมือง,การศึกษา,สิทธิมนุษยชน,กีฬา
กลุ่มโกงกาง, มหาวิทยาลัยบูรพา,วิ่งไล่ลุง
https://prachatai.com/journal/2020/01/85893
[ 0, 259, 74634, 98786, 10228, 30305, 259, 31879, 90051, 259, 218983, 259, 86372, 155031, 199818, 259, 230520, 193009, 211151, 4215 ]
จตุพร ระบุ นปช.ชุมนุม 5 เม.ย.ค้างแรม 2 คืน ยันไม่เผชิญหน้า กปปส.
ธิดา ยืนยันชุมนุมที่พุทธมณฑล 5 เม.ย.นี้ ย้ำไม่คิดปั่นตัวเลขท้าทาย กปปส. ขอประเมินจำนวนมวลชนตามความเป็นจริง จตุพร ระบุเหตุชุมนุมที่ ถ.อักษะ เพราะไม่ต้องการให้มวลชนทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกัน2 เม.ย.2557 ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวยืนยันว่า กลุ่ม นปช.ไม่เคยดูถูก หรือท้าทายการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. แต่การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 5 เม.ย.นี้จะไม่มีการปั่นตัวเลขจำนวนผู้มาชุมนุมตามที่กลุ่ม กปปส.พยายามกล่าวหา โดยจะมีการประเมินตัวเลขตามความเป็นจริงนางธิดา กล่าวอีกว่า คนเสื้อแดงจะชุมนุมโดยสงบในพื้นที่ ปราศจากอาวุธ และจะไม่มีการเผชิญหน้าระหว่างมวลชนอย่างแน่นอน การชุมนุมใหญ่วันที่ 5 เม.ย.นี้ ถือเป็นการเตรียมการครั้งใหญ่และเป็นการตรวจสอบระบบแกนนำในพื้นที่ ทั้งระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด และระดับภูมิภาค โดยขอให้แกนนำแต่ละพื้นที่ร่วมกับผู้ประสานงาน นปช.ส่วนกลาง เพื่อจัดระเบียบและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุมที่คาดว่าจะเดินทางมามากกว่า 1 แสนคนด้านนายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. กล่าวว่า กลุ่ม นปช.ยืนยันว่ายังใช้พื้นที่ถนนอักษะ พุทธมณฑล เป็นพื้นที่การชุมนุมในวันที่ 5 เม.ย.นี้อย่างแน่นอน ไม่มีการเปลี่ยนพื้นที่แต่อย่างใด โดยกิจกรรมการชุมนุมจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป และการชุมนุมจะเสร็จสิ้นในช่วงเช้าของวันที่ 7 เม.ย. โดยขอให้มวลชนออกมาร่วมชุมนุมให้มากที่สุด
ธิดา ยืนยันชุมนุมที่พุทธมณฑล 5 เม.ย.นี้ ย้ำไม่คิดปั่นตัวเลขท้าทาย กปปส. ขอประเมินจำนวนมวลชนตามความเป็นจริง จตุพร ระบุเหตุชุมนุมที่ ถ.อักษะ เพราะไม่ต้องการให้มวลชนทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกัน 2 เม.ย.2557
การเมือง
ธิดา ถาวรเศรษฐ,นปช.
https://prachatai.com/journal/2014/04/52567
[ 0, 259, 135570, 44836, 259, 235757, 22254, 225244, 97652, 97264, 259, 148210, 6582, 21746, 12066, 42576, 66248, 70663, 5405, 97652 ]
นิธิ เอียวศรีวงศ์: ลงแดงกับจิตเภท
ผมมีเหตุจำเป็นต้องกลับไปอ่านบทความ บ้านเมืองเราลงแดง ของอาจารย์เบน แอนเดอร์สัน ใหม่ ก็เหมือนบทความเรื่องอื่นของท่าน คือนอกจากประเด็นหลักที่ต้องการเสนอแล้ว ยังมีอะไรสำคัญอื่นแฝงอยู่ในเนื้อหาอีกมาก อ่านใหม่ทีไรก็ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คิดอะไรที่ไม่เคยคิดมาก่อนกลุ่มคนที่เป็นแรงผลักดันสำคัญทั้งใน 14 ตุลา และ 6 ตุลาคือกระฎุมพีและคนชั้นกลางระดับกลางซึ่งเพิ่งขยายตัวขึ้นไม่นานนัก แต่ภายใต้ระบอบเสรีนิยมซึ่ง 14 ตุลานำมาให้ คือวิกฤตการณ์น้ำมัน การพังสลายของแนวต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกัน การถอนตัวของกำลังรบอเมริกันออกจากประเทศไทย การเปิดเสรีด้านการต่อรองค่าแรงในประเทศ การลงทุนจากต่างประเทศซึ่งชะลอตัวลง การท้าทายต่อระเบียบแบบแผนทางสังคมซึ่งเคยประกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัวเขา (โดยลูกหลานของเขาเอง) และความน่าหวั่นวิตกอื่นๆตรงกันข้ามกับที่กล่าวข้างต้น คือยาเสพติดที่กระฎุมพีและคนชั้นกลางเคยเสพตลอด 16 ปีที่ผ่านมา จนทำให้เขาประสบความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ หรือเริ่มวางฐานะทางสังคมและเศรษฐกิจให้แก่ลูกหลานได้อย่างมั่นคง แต่ยาเสพติดนี้กำลังหายไปภายใต้ระบอบเสรีประชาธิปไตยที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขาเอง กระฎุมพีและคนชั้นกลางไทยจึง ลงแดง จนพากันโล่งอกคลายเงี่ยนจากเหตุการณ์ 6 ตุลา ต่างหวังกันว่ายาเสพติดที่เคยชินกำลังจะกลับมาใหม่แน่นอน เงื่อนไขของการเมืองภายในและระหว่างประเทศ ทำให้ยาเสพติดชุดนั้นไม่กลับมาอีกเลย ผมคิดว่ากระฎุมพีและคนชั้นกลางจึงต้องมีชีวิตอยู่ในภาพมายา ความสัมพันธ์มายา สัญลักษณ์มายา เศรษฐกิจมายา และการเมืองมายา เพื่อบรรเทาอาการ ลงแดง สืบมาจนทุกวันนี้นี่เป็นเรื่องที่ผมคิดเอาเอง อาจารย์เบนไม่ได้พูดไว้ ทั้งนี้ เพราะมันมีอะไรบางอย่างที่พอเทียบกันได้ ระหว่าง 6 ตุลากับวิกฤตการเมืองไทยในทศวรรษที่ผ่านมากลุ่มคนที่มีความสำคัญทางการเมืองอย่างมากในวิกฤตการเมืองไทยที่ผ่านมาคือคนชั้นกลางระดับล่าง หรือสำนวนอาจารย์เบนคือ กระฎุมพีน้อย คนเหล่านี้เริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อตลาดมาก่อน 14 ตุลา แต่เป็นตลาดที่ถูกรัฐควบคุมอย่างใกล้ชิด 14 ตุลาช่วยปลดปล่อยพันธนาการของรัฐเหนือตลาดลง ไม่ได้หมายความว่ากลายเป็นตลาดเสรีจริงหากแต่ว่าพันธนาการตลาดเกิดจากเอกชนผู้มีอำนาจในตลาด อาจโดยการสนับสนุนจากรัฐ แต่เป็นการสนับสนุนโดยอ้อม ไม่ใช่การเข้ามาเก็บพรีเมียมข้าวจากผู้ส่งออกโดยตรงอย่างที่เคยทำมา ค่าแรงไม่ได้มาจากคำสั่งของรัฐ แต่มาจากการต่อรองที่ไม่เท่าเทียมกันในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำคนชั้นกลางระดับล่างเติบโตมาเรื่อยๆ และขยายตัวอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปลายรัฐบาลเปรมเป็นต้นมา ในฐานะฐานเสียงสำคัญของ ส.ส. โดยเฉพาะจากต่างจังหวัด ทำให้รัฐจำเป็นต้องลงทุนไปในการพัฒนาชนบทมากขึ้น นับตั้งแต่การประกันราคาข้าว การขยายบริการไฟฟ้าให้ทั่วถึง การขยายโอกาสทางการศึกษาและการเข้าถึงสื่อมวลชน การขยายสาธารณูปโภคในต่างจังหวัด เป็นต้นในขณะเดียวกัน กระฎุมพีและคนชั้นกลางระดับกลางก็มีความสัมพันธ์กับคนในชนบทมากขึ้น นับตั้งแต่ทุนจำเป็นต้องสยายปีกไปใช้ประโยชน์ทรัพยากรท้องถิ่นโดยตรง นับตั้งแต่เหมืองเกลือ เกษตรตามพันธสัญญา เขื่อนผลิตไฟฟ้า และธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งนี้ ยังไม่พูดถึงการอพยพเข้าเมืองของคนชั้นกลางระดับล่างอีกจำนวนมาก จากชั่วคราวกลับกลายไปเป็นถาวรมากขึ้น ทั้งเพื่อช่วยเหลือครอบครัวเดิมหรือตั้งครอบครัวใหม่เช่นเดียวกับคนชั้นกลางระดับกลางที่เติบโตมาในสมัยสฤษดิ์-ถนอม-ประภาส ได้เรียนรู้แบบแผนชีวิต (อุดมคติของชีวิตที่ดี ระบบคุณค่า ความสัมพันธ์ทางสังคม) ของกระฎุมพีชั้นสูง คนชั้นกลางระดับล่างก็ได้เรียนรู้แบบแผนชีวิตจากคนชั้นกลางระดับกลางที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตนด้วยเช่นกันที่เหมือนกันอีกอย่างหนึ่งก็คือ คนชั้นกลางระดับล่างเพิ่งเติบโตมาไม่นาน หากนับจากกลางสมัยเปรมก็ประมาณ 24 ปี (2525-2549) ในขณะที่กระฎุมพีและคนชั้นกลางระดับกลางเพิ่งขยายตัวก่อน 14 ตุลาเพียง 16 ปีเท่านั้น เหตุดังนั้น ทั้งสองกลุ่มนี้จึงมีประสบการณ์ทางการเมืองไม่มากกระฎุมพีและคนชั้นกลางรู้จักแต่การเมืองของเผด็จการทหารซึ่งน่าพอใจกว่าการเมืองเสรีประชาธิปไตยหลัง 14 ตุลา ในขณะที่คนชั้นกลางระดับล่างรู้จักแต่ประชาธิปไตยครึ่งใบ ที่ทำให้เขาได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐมากขึ้น และทำให้เขาไต่เต้าขึ้นมาสู่ความเป็นคนชั้นกลางระดับล่างได้(ผมกล่าวตรงนี้เพื่อจะเตือนว่า ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่พึงคาดหวังว่าเสื้อแดงและแกนนำเสื้อแดงจะเป็นตัวแทนของประชาธิปไตยเต็มใบ เช่นเดียวกับที่ไม่พึงประเมินว่ากระฎุมพีและคนชั้นกลางไทยเป็นหัวหอกของประชาธิปไตยเช่นกัน)คนไร้ประสบการณ์ทางการเมืองที่หลากหลายเช่นนี้แหละที่ ลงแดง ทางการเมืองได้ง่าย หากจะมีอาการ ลงแดง ในวิกฤตการเมืองครั้งล่าสุดนี้ ก็น่าจะเป็นกลุ่มคนชั้นกลางระดับล่างนี่แหละ เพราะได้เสพติดนโยบายรัฐที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกเขาบ้างอันเป็นนโยบายที่ดำเนินมาแล้วกว่าสองทศวรรษ (ผมไม่ได้หมายความว่านโยบายนี้ผิด) และเสพติดกับการเลือกตั้ง เพราะเป็นเงื่อนไขเดียวที่ประกันว่า รัฐจะมีนโยบายเช่นนั้นตลอดไปอย่างไรก็ตาม ตัวแบบ (model) ลงแดง อาจใช้เพื่อการวิเคราะห์วิกฤตการเมืองไทยช่วงนี้ได้ไม่ทะลุเท่าไรนักก็ได้กระฎุมพีและคนชั้นกลาง ลงแดง หลัง 14 ตุลา ด้วยเหตุหลายอย่าง แต่เหตุอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยเลยคือเหตุทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีอนาคตที่ค่อนข้างมืดมนในช่วงที่เป็นประชาธิปไตยขณะนั้น และด้วยเหตุดังนั้นจึงหันไปสนับสนุน 6 ตุลา เพื่อคืนกลับไปสู่เผด็จการทหารที่ตนเองเคยชินและวางใจกว่าแต่วิกฤตเศรษฐกิจ 2540 ซึ่งรุนแรงอย่างที่เราไม่เคยประสบมาก่อน กลับนำมาซึ่งรัฐธรรมนูญ 2540 ทำไม ผมตอบไม่ได้ และยังไม่พบคำตอบที่น่าพอใจ แต่อีกส่วนหนึ่งของคำตอบน่าจะเริ่มกับการทบทวนข้อมูลบางอย่างเราเคยชินที่จะเรียกการประท้วงในเดือนพฤษภาคม 2535 ว่า ม็อบมือถือ ผมคิดว่านี่เป็นนิยามของผู้สื่อข่าวท่านหนึ่งที่ได้คลุกคลีกับผู้ประท้วง และพบว่ามีผู้พกพาโทรศัพท์มือถือ (ซึ่งมีราคาแพงในขณะนั้น) อยู่มาก ผมสงสัยข้อเท็จจริงครับ แต่ยังไม่อาจหารายงานข่าวที่ไม่เชื่อมโยงกับรายงานข่าวเรื่อง ม็อบมือถือ ได้ ที่ผมสงสัยก็เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด ได้เห็นม็อบประท้วงในต่างจังหวัดว่าอยู่ในระดับคนชั้นกลางระดับกลางขึ้นไปก็ไม่น้อย แต่จำนวนที่มากที่สุดคือคนชั้นกลางระดับล่าง ส่วนใหญ่ขี่มอเตอร์ไซค์มาร่วมประท้วงหากม็อบที่ประท้วงในกรุงเทพฯ เกี่ยวกับพลตรีจำลองและสันติอโศกอยู่บ้าง งานศึกษาเกี่ยวกับสันติอโศกบอกว่า ส่วนใหญ่ของสาวกเป็นคนชั้นกลางระดับล่างเช่นเดียวกับการรณรงค์ให้รับร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ในต่างจังหวัดที่ผมอยู่ รถที่ติดธงเขียวส่วนใหญ่คือรถ ใช้งาน เช่นขนคนงานก่อสร้าง ขนส่งของ รถรับจ้าง มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ แม้รถส่วนตัวก็มีติดอยู่เหมือนกันประเด็นของผมก็คือ บทบาทของคนชั้นกลางระดับล่างในการขับเคลื่อนพลังเพื่อต่อต้านเผด็จการทหาร และสนับสนุนรัฐธรรมนูญที่เปิดให้มีการเลือกตั้งหลายระดับได้รับความเอาใจใส่จากผู้สนใจการเมืองไทยน้อยเกินไป จู่ๆ เขาก็โผล่มาเป็นมวลชนคนเสื้อแดง โดยมองไม่เห็นรากเหง้าการเติบโตในเวทีการเมืองของเขาเลยและหากข้อสงสัยของผมถูก คนที่ชอบพูดว่า ประชาธิปไตยไม่ได้มีแต่การเลือกตั้ง ก็ต้องตอบด้วยว่า ในสถานะอย่างคนชั้นกลางระดับล่าง ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง เขาจะเข้าไปกำกับนโยบายสาธารณะได้อย่างไร ความไม่ใส่ใจต่อการขยายตัวของคนชั้นกลางระดับล่างนำไปสู่มโนภาพว่าชนบทไทยเต็มไปด้วยชาวไร่ชาวนาที่ถูกรัฐและทุนรังแก สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนคือมีรัฐที่ไม่อยู่ฝ่ายทุน แต่ทำหน้าที่ปกป้องคนเล็กคนน้อยในชนบท เผด็จการทหารหรือเผด็จการอะไรก็ตามจึงไม่น่ารังเกียจ หากเผด็จการเข้ามาทำหน้าที่อย่างนั้นอีกเหตุผลหนึ่งก็คือกระฎุมพีและคนชั้นกลางถูกจับ อดยา มานาน จนน่าจะหาย ลงแดง กับยาเสพติดตัวเก่าไปแล้ว พวกเขาคงต้องยอมรับว่า ความรุ่งเรืองและมั่นคงทางเศรษฐกิจซึ่งตั้งอยู่บนการหนุนหลังของสหรัฐ จะไม่มีวันกลับมาอีก โลกาภิวัตน์ทางวัฒนธรรมย่อมเปลี่ยนลูกหลานเขาเสียยิ่งกว่าหนังสือฝ่ายซ้ายเพียงไม่กี่เล่มที่ถูกนำมาพิมพ์ใหม่หลัง 14 ตุลาแต่ดังที่กล่าวแล้วว่า กระฎุมพีและคนชั้นกลางหลัง 6 ตุลา ต้องหันไปบำบัดอาการ ลงแดง ของตนด้วยสิ่งที่เป็นมายาทั้งหลาย (ดูข้างต้น) มายาคือไม่จริง การหันไปยึดโครงสร้างรัฐตามอุดมคติซึ่งกระฎุมพีและคนชั้นกลางเองก็รู้ว่าไม่จริง คือการติดยาตัวใหม่นั่นเอง เช่น กองทัพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง ฉะนั้น หากยึดอำนาจก็จะทำให้เกิดความสงบสุขแก่บ้านเมือง เพราะกองทัพไม่มีเส้นสายกับใคร จึงไม่มีเหตุที่จะต้องคอร์รัปชั่น ฯลฯ อะไรทำนองนี้(ผมคิดว่าจะเข้าใจคำพูดที่แย้งกันเองของนักคิดฝ่ายขวาหลายคนในช่วงนี้ได้ดีขึ้น หากยอมรับว่าพวกเขาติดยา ยิ่งกองทัพยึดอำนาจ ยิ่งต้องหลับตากับความจริงที่เขารู้อยู่เต็มอกมากขึ้น)ประโยคสั้นๆ อันหนึ่งที่อาจารย์เบนพูดทิ้งท้ายไว้ในบทความ อาจารย์เบนพูดทำนองว่า หากไม่นับเลนินและพรรคบอลเชวิคแล้ว ไม่มีการปฏิวัติครั้งไหนจะประสบความสำเร็จได้ หากนักปฏิวัติไม่ได้ถูกมองว่ากระทำการเพื่อชาติ ท่านพูดเรื่องนี้เพื่ออธิบายว่า หลัง 6 ตุลา โดยเฉพาะหลังการรัฐประหารซ้อนใน 2520 สถานะของนักศึกษาทั้งที่ต้องคดีในประเทศหรือหลบหนีไปร่วมกับคอมมิวนิสต์ในป่าหรือหลบออกต่างประเทศ เปลี่ยนไป แม้ผู้คนยังไม่เห็นด้วยกับความคิดของพวกเขาแต่ไม่มีใครปฏิเสธว่า พวกเขาทำการทั้งหมดด้วยความรักชาติ เรื่องนี้อาจตรงกับที่อาจารย์ธงชัย วินิจจะกูล พูดถึง ความเงียบ ของฝ่ายขวาในปาฐกถาของท่านหลัง 6 ตุลาอีกหลายปีผมอ่านประโยคนี้ของอาจารย์เบนแล้วคิดถึงความปรองดองที่กระฎุมพีและคนชั้นกลางพูดถึงอยู่ผู้ต่อต้านการรัฐประหาร มองกระฎุมพีและคนชั้นกลางที่สนับสนุนการรัฐประหารว่า ต้องการกีดกันมิให้รัฐใช้ทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือค้ำจุนคนระดับล่าง พูดอีกอย่างหนึ่งคือ กระฎุมพีและคนชั้นกลางสนับสนุนการรัฐประหารเพื่อประโยชน์ส่วนตัว คือจะกันให้รัฐใช้ทรัพยากรเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น ตรงกันข้าม กระฎุมพีและคนชั้นกลางกล่าวหาคนที่ต่อต้านการรัฐประหารว่ารับเงินจากนักการเมืองที่เพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้กับกองทัพ มีผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้งอย่างน่ารังเกียจฉะนั้น มองจากประโยคนั้นของอาจารย์เบน ก็หมายความว่า จะไม่มีฝ่ายใดได้ชัยชนะเลย ความขัดแย้งจะดำรงอยู่ตลอดไป จนถึงวันนี้และต่อไปในวันหน้าที่พอจะมองเห็นได้ จะไม่มีฝ่ายใดเลือก ความเงียบ เป็นทางออก ข้อกล่าวหาเรื่อง อันธพาลการเมือง และ รับเงินทักษิณ ยังดังเท่ากับก่อนหน้าการรัฐประหาร เผยแพร่ครั้งแรกในมติชนรายวัน เมื่อวันที่18 กรกฎาคม 2559
ผมมีเหตุจำเป็นต้องกลับไปอ่านบทความ บ้านเมืองเราลงแดง ของอาจารย์เบน แอนเดอร์สัน ใหม่ ก็เหมือนบทความเรื่องอื่นของท่าน คือนอกจากประเด็นหลักที่ต้องการเสนอแล้ว ยังมีอะไรสำคัญอื่นแฝงอยู่ในเนื้อหาอีกมาก
การเมือง
คนชั้นกลาง,นิธิ เอียวศรีวงศ์,เบน แอนเดอร์สัน
https://prachatai.com/journal/2016/07/66957
[ 0, 259, 32087, 141204, 143916, 57716, 2091, 11821, 45015, 45984, 44072, 154424, 205422, 185674, 6494, 69691, 11867, 1, 0, 0 ]
ดีไซน์สุขภาพด้วย ‘Design Thinking’
สำหรับคนที่อยู่ในวงการธุรกิจ โดยเฉพาะคนที่ทำงานด้านที่เกี่ยวกับ Innovation คงจะคุ้นเคยดีกับหลักการคิดแก้ปัญหาแบบ Design Thinking แต่สำหรับหมอนั้น เพิ่งจะมีโอกาสได้เรียนรู้ในเรื่องนี้เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เริ่มจากการอ่านหนังสือ ซึ่งก็อ่านแล้วเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ไม่ค่อยเข้าถึงใจเท่าไร จึงพยายามไปเรียนและพูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์ในด้านนี้ จนเข้าใจมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้าถึงใจเท่าไร จวบจนกระทั่งในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ที่ได้ลองนำ Design Thinking มาปรับใช้กับตัวเองในการดูแลสุขภาพ และพบว่าได้ผลดีไม่น้อย จึงเป็นที่มาของบทความนี้ค่ะDesign Thinking เป็นหลักสูตรดังของ Stanford d. School ซึ่งเปิดสอนมาตั้งแต่ปี 2005 ว่าด้วยหลักการคิดแค่ปัญหาทางธุรกิจซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักคือ Empathize Define Ideate Prototype และ TestEmpathize คือการพยายามสังเกต รับฟัง และเข้าใจ ในแบบที่เข้าไปถึงหัวใจของคนที่เราต้องการแก้ปัญหาให้ว่าเขารู้สึกอย่างไรในเบื้องลึกของจิตใจ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก ควรต้องเริ่มจากเข้าใจตัวเองก่อนว่าทำไมถึงอยากลด รู้สึกอย่างไรกับปัญหาน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ที่กำลังเผชิญอยู่ หรือมีความกังวลใจอย่างไรบ้างกับการลดน้ำหนักเมื่อเข้าใจปัญหาและความกังวลในใจแล้ว จึง Define ปัญหาว่าที่ผ่านมาลดได้ไม่สำเร็จเพราะอะไร Pain Points หรือจุดที่ทำให้เราพ่ายแพ้ต่อความอ้วน คืออะไร ทำความเข้าใจกับปัญหาแต่ละข้ออย่างละเอียด สองขั้นตอนแรกนี้เป็นขั้นสำคัญที่ควรให้เวลาค่อนข้างมาก เพราะถ้าเราตั้งต้นผิด ไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร จะไม่มีทางแก้ปัญหานั้นได้ ยกตัวอย่างเช่น บางคนเข้าใจว่า ลดน้ำหนักไม่สำเร็จเพราะการเผาผลาญไม่ดี ทั้งที่จริงๆ แล้วความล้มเหลวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลจากขาดแรงบันดาลใจในการลด การตั้งต้นด้วยความเข้าใจหัวใจและความต้องการที่แท้จริงของตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมากขั้นตอนต่อมาคือ Ideate หรือระดมไอเดียว่าจะแก้ปัญหานั้นอย่างไรดี เช่น เมื่อพบว่าปัญหาการลดน้ำหนักไม่สำเร็จนั้น เกิดจากขาดความตั้งใจจริง ขาดแรงบันดาลใจ ขั้นตอนนี้ก็จะเป็นการหาวิธีที่จะกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจกับตัวเองให้ได้ โดยควรเปิดกว้างที่จะกล้าคิดทุกวิธี โดยอย่าเพิ่งตีกรอบว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้หรือไม่ เมื่อได้ไอเดียมากพอ จึงค่อยนำมาจัดลำดับความสำคัญว่าไอเดียไหนที่ควรจะนำมาทดลองก่อนเมื่อได้ไอเดียที่คิดว่ามีความเข้าท่าที่จะแก้ปัญหาได้ จึงนำไอเดียนั้นมาทำ Prototype หาวิธีที่ง่ายที่สุดในการพิสูจน์ว่าไอเดียนั้นเวิร์กไหม โดยออกแบบวิธีทดสอบที่ง่ายที่สุดที่จะเป็นไปได้ แล้วทำการ Test หรือทดสอบอย่างรวดเร็ว ถ้าทดสอบแล้วพบว่ามาผิดทาง ก็แค่ย้อนกลับไปเริ่มคิดแก้ปัญหาใหม่ การแก้ปัญหาในแบบ Design Thinking นั้นเน้น ทำ มากกว่า พูด เพราะการทดสอบโดยการทำเลย(แต่อยู่ภายใต้การออกแบบให้เร็วและสูญเสียน้อยที่สุด) จะเป็นตัวบอกเราได้ว่าวิธีที่คิดนั้นถูกหรือไม่ โดยไม่ต้องกลัวที่จะล้มเหลว เพราะยิ่งล้มเร็ว ลุกเร็ว เราก็จะยิ่งเรียนรู้เร็วและพัฒนาไปได้ไกลกว่าเดิมส่วนตัวหมอเชื่อว่า Design Thinking ไม่ได้ใช้ได้เฉพาะกับการแก้ปัญหาทางธุรกิจ แต่เป็นหลักคิดที่ใช้ได้กับหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะการดูแลสุขภาพ ปัญหาในที่ทำงาน หรือแม้แต่ปัญหาหัวใจ เพราะทุกปัญหาเริ่มจากเข้าใจแก่นของปัญหาก่อน แล้วค่อยนำมาสู่การระดมความคิดแบบไม่ปิดกั้น ออกแบบวิธีแก้ปัญหา และทดสอบวิธีการนั้นๆ โดยอย่าเพิ่งกลัวว่าจะล้มเหลว เรามาลองเป็น Designer ดีไซน์สุขภาพ รวมไปถึงดีไซน์ชีวิต ด้วยหลักคิดแบบ Design Thinking กันค่ะฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ดีไซน์สุขภาพ ด้วย Design Thinking ได้ด้านล่างนี้พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
Design Thinking ว่าด้วยหลักการคิดแก้ปัญหาทางธุรกิจ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักคือ Empathize Define Ideate Prototype และ Test และไม่ได้ใช้ได้เฉพาะกับการแก้ปัญหาทางธุรกิจ แต่เป็นหลักคิดที่ใช้ได้กับหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะการดูแลสุขภาพ ปัญหาในที่ทำงาน หรือแม้แต่ปัญหาหัวใจ
https://thestandard.co/healthcare-design-thinking/
[ 0, 259, 68755, 126856, 177831, 7850, 4255, 42376, 347, 259, 181130, 98490, 156778, 6582, 134615, 1549, 184599, 91061, 10062, 152410 ]
ติดป้ายกับต้นไม้เป็นทำลายทรัพย์สิน กทม.ขู่แจ้ง กกต.กทม.
สั่งให้ย้ายป้ายขวางทางเท้า, บดบังจราจร,ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการ กทม.2 (ดินแดง) เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม.เปิดเผยว่า จากที่ กกต.กทม. ขอให้ กทม.ช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายได้กำหนดขั้นตอนและวิธีการดำเนินการที่แตกต่างไปจากกฎหมายเดิมหลายประการ ทั้งระยะเวลาลงคะแนนที่กำหนดให้ดำเนินการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. หรือคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่มีจำนวนลดลงเหลือหน่วยเลือกตั้งละ 5 คน ทำให้ กทม.ได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน อาทิ เมื่อวันที่ 9-10 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานเขต 50 เขต รวมถึงสั่งการให้ทุกหน่วยเลือกตั้งจัดเตรียมความพร้อมอุปกรณ์และสถานที่ หากประสงค์จัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมให้แจ้งความประสงค์มายัง กทม. เพื่อจัดสรรงบประมาณดังกล่าว,นางศิลปสวยกล่าวว่า ส่วนการติดป้ายหาเสียง ตนได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้ทุกเขตเข้มงวด กวดขัน ทุกป้ายไม่ให้กีดขวางทางเท้าและบดบังการจราจร และให้ดำเนินการโดยไม่ขัดต่อประกาศของ กกต.กทม. ทั้งนี้ ปัจจุบันได้รับรายงานภาพรวมการติดป้ายหาเสียงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีบางพื้นที่ที่มีปัญหา เช่น ติดตั้งขวางทางเดินเท้า บดบังการจราจร ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่เขต หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งไปยังผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ที่เป็นเจ้าของป้ายดำเนินการแก้ไข นอกจากนี้ กทม.ไม่อนุญาตให้นำป้ายหาเสียงติดตั้งบนต้นไม้เด็ดขาด ที่ผ่านมาพบมีผู้สมัคร ส.ส.ติดป้ายตามต้นไม้โดยใช้ตะปูตอก และขึงลวด ทำให้ต้นไม้ กทม.ได้รับความเสียหาย และอาจทำให้ต้นไม้บางต้นเสี่ยงยืนต้นตาย ทั้งนี้ ต้นไม้เป็นทรัพย์สินของทางราชการ และตามประกาศ กกต.กทม.ระบุชัดแล้วว่าการติดตั้งป้ายหรือประกาศจะต้องไม่ทำลายทรัพย์สินของราชการด้วย หาก กทม.พบเห็นการกระทำดังกล่าว จะแจ้งให้แก้ไขทันที หากไม่มีการแก้ไข กทม.จะแจ้งไปยังคณะกรรมการ กกต.กทม.พิจารณาตามกฎหมาย.
จากที่ กกต.กทม. ขอให้ กทม.ช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายได้กำหนดขั้นตอนและวิธีการดำเนินการที่แตกต่างไปจาก
ข่าว,ทั่วไทย
เลือกตั้ง,เลือกตั้ง62,หน่วยเลือกตั้ง,ป้ายหาเสียง,ศิลปสวย ระวีแสงสูรย์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1497491
[ 0, 259, 224962, 3945, 260, 4188, 22065, 68069, 157344, 149827, 26871, 165852, 223326, 22065, 150201, 156983, 109293, 6088, 236808, 9542 ]
โลกาภิวัตน์ 03/06/59
กะเทยและผู้ผ่าตัดแปลงเพศในจีน ต่างเพิ่งเริ่มโผล่หน้าออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของตน ในภาพเป็นผู้ผ่าตัดแปลงเพศผู้หนึ่ง ใช้ชื่อว่านายซี ได้มารายงานเพื่อร่วมอภิปรายความเห็นเกี่ยวกับการแปลงเพศ ที่กรุงปักกิ่ง เขาไม่ยอมเปิดเผยว่า เป็นลูกเต้าเหล่าใคร เพราะเกรงว่าจะกระทบกระเทือนชื่อเสียงของพ่อแม่ อุปสรรคอันหนึ่งของคนแบบเขาในเมืองจีน ก็คือการหางาน ซึ่งวงการทั่วไปยังไม่เป็นที่รับรองกันนัก.,ตัวอย่างของภาพภัยอันน่าเกลียดน่ากลัว ของผู้สูบบุหรี่ในนิวซีแลนด์ เป็นภาพตัวอย่างแบบหนึ่งที่ติดอยู่บนซองบุหรี่ โดยมีข้อความว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากและคอหอย.,ผู้คนมุงดู รถยนต์เฟอร์รารี่ จี ที ซี 4 ลัสโซ่ รุ่นใหม่ที่นำออกอวดโฉม ในงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ที่ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย.,ตัวคาปิบารา สัตว์ในตระกูลพวกหนูที่มีตัวใหญ่ที่สุด เมื่อโตเต็มที่ มีความสูงจากพื้นถึงไหล่ 2.5 ฟุตน้ำหนัก 50 กก. เริ่มออก งานหนแรกที่บริษัททำขนมคาลบีของญี่ปุ่น ในกรุงโตเกียว ทางบริษัทได้ไปหาตัวมันมาหนึ่งคู่ ใช้ในงานโฆษณาขนมพวกมันฝรั่งทอด.
กะเทยและผู้ผ่าตัดแปลงเพศในจีน ต่างเพิ่งเริ่มโผล่หน้าออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของตน ในภาพเป็นผู้ผ่าตัดแปลงเพศผู้หนึ่ง ใช้ชื่อว่านายซี ได้มารายงานเพื่อร่วม อภิปรายความเห็นเกี่ยวกับการแปลงเพศ ที่กรุงปักกิ่ง
ข่าว,ไอที
โลกาภิวัตน์,ข่าววิทยาการ,กะเทยจีน,ผ่าตัดแปลงเพศ,การแปลงเพศ,บุหรี่,ซองบุหรี่,รถยนต์เฟอร์รารี่,เฟอร์รารี่รุ่นใหม่,หนูน้ำคาปิบารา,ข่าวไอที,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/news/tech/630656
[ 0, 259, 58976, 31753, 6200, 204401, 12002, 145815, 43112, 7910, 64531, 2361, 47187, 259, 44072, 135647, 54434, 53477, 27796, 15918 ]
บิ๊กก้อง พร้อมหนุนไทย เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก
ผู้ว่า กกท. ชื่นชมแข้งเท้าเปล่าช้างศึกผลงานเยี่ยม ในศึกฟุตบอลชายหาดนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 THAILAND BEACH SOCCER FIVES 2019 แม้จะพลาดแชมป์ก็ตาม โดยพร้อมหนุนจัดชิงแชมป์โลกในอีก 2 ปีข้างหน้า ด้าน บิ๊กป๋อม อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ มั่นใจไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพและวางแผนเสนอตัวต่อฟีฟ่า,วันที่ 12 พ.ค.62 ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลชายหาดนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 THAILAND BEACH SOCCER FIVES 2019 โดยทีมเลบานอนคว้าแชมป์ไปครอง ขณะที่ทีมชาติไทยได้รองแชมป์ โอมานอันดับ 3 และอุซเบกิสถานอันดับ 4,โดยทางด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย แม่งานใหญ่ในการจัดศึกครั้งนี้ ได้เดินทางมาให้กำลังใจกับทัพเท้าเปล่าช้างศึกในเกมนัดสุดท้าย ที่สามารถพลิกชนะโอมานไปได้ 6-1 ก็เผยว่า สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายหาดนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 หรือ THAILAND BEACH SOCCER FIVES 2019 ปีนี้ถือว่าน่าพอใจอย่างมากทั้งกระแสตอบรับจากแฟนบอล เกมการแข่งขันที่สนุกตื่นเต้นทุกคู่ และผลงานของทีมชาติไทยที่แม้ว่าจะไม่ได้แชมป์มาครอง แต่ก็ขอชื่นชมที่ทุกคนแสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่,โดยเฉพาะนัดสุดท้ายที่เราชนะโอมานทีมที่ดีกว่าเราได้ถึง 6-1 ต้องปรบมือให้เลย เพราะทุกคนสู้ด้วยหัวจิตหัวใจ ความมุ่งมั่น ตั้งใจ และสปิริตในการเล่นเพื่อชาติจริงๆ แสดงให้เห็นว่าฟุตบอลชายหาดของเรายังพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไปได้,ก็ยินดีและเป็นกำลังใจให้กับฟุตบอลชายหาด ที่จะมีอีกหลายรายการรออยู่ขอให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะการชิงแชมป์อาเซียนในปีนี้ หรือชิงแชมป์เอเชียปีหน้า รวมไปถึงรายการ เวิลด์ บีช ที่ได้ข่าวว่าจะมีแข่งในปีหน้า นอกจากนี้ก็เห็นว่าไทยจะยื่นเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลกใน 2 ปีข้างหน้าด้วย ก็ยินดีที่จะให้การสนับสนุนเช่นกัน,ด้าน บิ๊กป๋อม อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาดแห่งชาติ ก็ได้กล่าวถึงการที่ไทยจะยื่นเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลกว่า ทางเราเตรียมจะยื่นเสนอตัวต่อฟีฟ่า ในการขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลกในปี 2021 ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องดีถ้าไทยได้จัด เพราะมีความทุกด้าน รวมทั้งเป็นการยกระดับการพัฒนาทีมฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทยของเราอีกด้วย ซึ่งหลังจากยื่นแล้ว ก็จะเตรียมงานถึงความพร้อมด้านต่างๆ ต่อฟีฟ่าต่อไป,จะเห็นว่าในการแข่งขัน THAILAND BEACH SOCCER FIVES 2019 เรามีการปรับเปลี่ยนการทำงานทั้งสตาฟฟ์โค้ช และผู้เล่นที่มีดาวรุ่งหลายคน แต่ทุกคนก็ได้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และการพัฒนาที่ดีต่อไปได้ ซึ่งทีมชุดนี้ก็คือชุดที่จะเตรียมในอีก 2 ปีข้างหน้าสำหรับการชิงแชมป์โลก.
ผู้ว่า กกท. ชื่นชมแข้งเท้าเปล่าช้างศึกผลงานเยี่ยมในศึก THAILAND BEACH SOCCER FIVES 2019 แม้จะพลาดแชมป์ก็ตาม ด้าน บิ๊กป๋อม มั่นใจไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลกในอีก 2 ปี
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
ฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย,ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก,บิ๊กก้อง,ดร.ก้องศักด ยอดมณี,บิ๊กป๋อม
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1566096
[ 0, 259, 198834, 9964, 87529, 74687, 26461, 81125, 156943, 259, 36445, 142674, 39932, 16344, 205692, 177208, 259, 212693, 11984, 6494 ]
พลาดไปเสียดายแย่ สารพัดไส้ ชิมขนมไหว้พระจันทร์ เจ้าอร่อยสุดๆ
ใกล้วันไหว้พระจันทร์เข้ามาทุกที หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลนี้คือ ขนมไหว้พระจันทร์ ที่สามารถแบ่งปันและมอบให้เป็นของขวัญทั้งในระหว่างครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหายได้ วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ ขอพาทุกคนไปชิมขนมไหว้พระจันทร์เจ้าอร่อย บอกเลยว่าเด็ดทุกร้าน ไม่เชื่อตามมาดูกันได้เลย,1. หม่าน ฟู่ หยวน,เทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ หม่าน ฟู่ หยวน ต้นตำรับอาหารจีนแบบกวางตุ้งอันเลื่องชื่อ รังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์รสเลิศให้เลือกสรร ทั้งไส้ ชาเขียวญี่ปุ่นกลิ่นมะลิ ที่อบอวนกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยส่วนผสมของชาเขียวมัชชะแท้ 100% ให้รสชาตินุ่มละมุนลิ้น และอีกหนึ่งรสชาติที่ไม่ควรพลาด สูตรต้นตำรับอย่างไส้ เม็ดบัวไข่แดงคู่ เอาใจคนรักสุขภาพด้วยสูตรหวานน้อย ปริมาณน้ำตาลที่ลดลงกว่า 50% พร้อมคงความหอมอร่อยของเนื้อขนมไว้อย่างเหนียวแน่น,2. สีฟ้า,สีฟ้า ชวนชิมขนมไหว้พระจันทร์ ทำมือ Handmade Mooncake ตำรับฮ่องกง สุดคลาสสิก ที่ยังคงรักษาศาสตร์แห่งการผลิตแบบดั้งเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิตที่ยังคงใช้พิมพ์ไม้แบบดั้งเดิม สำหรับอัดส่วนผสมให้ติดแน่นอยู่กับ แผ่นแป้งบางๆ ที่เหนียวนุ่ม ละมุนลิ้น และยังคงความหอมอร่อยของส่วนผสมที่สอดไส้ไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้ง 4 ไส้คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน ลูกบัว โหงวยิ้ง และงาดำ แล้วค่อยๆ เคาะขนมไหว้พระจันทร์ออกมาทีละชิ้น จนได้เป็น ขนมไหว้พระจันทร์รูปทรงงดงาม มาให้แฟนคลับสีฟ้าเลือกสรรเป็นชุดของขวัญสุดพิเศษ เพื่อความเป็นสิริมงคล และแบ่งปันความสุขในเทศกาลสุดประทับใจ คืนวันที่พระจันทร์สวยที่สุดในรอบปีของชาวจีนแต่โบราณที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน ที่บรรจุไว้ในกล่องสีแดงสวยสดใสพร้อมลายเส้นสวยงาม,3.โคคา,โคคา ต้อนรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับที่สืบทอดมากว่า 50 ปี โดยเชฟฝีมือดีของโคคาได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาบรรจงทำ ด้วยกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ ทำสดใหม่ทุกวัน ปราศจากสารกันบูด อร่อยเป็นเอกลักษณ์ด้วยไส้ที่มีให้เลือกตามความชอบ ทั้งโหงวยิ้ง ทุเรียน ลูกบัว เกาลัด และคัสตาร์ด บรรจุในกล่องสวยงามที่จัดทำเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญเพื่อส่งความปรารถนาดีและความสุขให้แก่คนในครอบครัวและคนที่รัก วางจำหน่ายตั้งแต่ 26 สิงหาคม–27 กันยายนนี้ ที่ร้านโคคาทั้ง 8 สาขา (สุรวงศ์ สยามสแควร์ สยามเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ไทม์สแควร์ สุขุมวิท 39 แจ้งวัฒนะ เมกะบางนา) และร้านไชน่าไวท์ ชั้น 3 เซ็นทรัลเวิลด์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 085-123-4575 ,4.โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ,โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ คัดสรรแต่เฉพาะวัตถุดิบนำเข้าชั้นเยี่ยม คุณภาพสูง บรรจงปรุงอย่างพิถีพิถันดุจดั่งงานฝีมืออันประณีตทุกชิ้น ด้วยบล็อกพิมพ์แผ่นไม้นำเข้าตรงตามประเพณีจีน สดใหม่จากเตาอบวันต่อวันในแบบโฮมเมด โดยเชฟ กอ เอง ยิว  และทีมเชฟจีน เพื่อให้ได้ขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษที่ได้รับความนิยมมายาวนาน พร้อมบรรจุในกล่องของขวัญสุดหรูโดยมีรสชาติยอดนิยมให้เลือกชิม อาทิ ไส้ทุเรียนไข่, ไส้เม็ดบัวไข่, ไส้โหงวยิ้งไข่, ไส้ใบเตยงาดำไข่, ไส้คัสตาร์ด มีทั้งในชุดกล่องของขวัญสุดหรู ชุดดีลักซ์ (Deluxe Boxes) 4 ชิ้น ราคา 688 บาทสุทธิ และชุดพรีเมียม (Premium Boxes) 8 ชิ้น ราคา 1,088 บาทสุทธิ,5. ห้องเดอะ เลาจน์ โรงแรม เดอะเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ,ห้องเดอะ เลาจน์ โรงแรม เดอะเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ แนะนำขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อย มีทั้งขนมไหว้พระจันทร์แบบอบ สูตรดั้งเดิม มี 4 รสชาติให้ท่านได้เลือกลิ้มลอง ทั้งไส้ทุเรียนหมอนทอง (Durian Monthong) ไส้เม็ดบัวไข่เดี่ยว (lotus seed with single egg yolk)  ไส้เต้าซ่าดำไข่เดียว (red bean and lotus seed with single egg yolk) ไส้โหงวยิ้ง (Mixed Fruits and nuts) พร้อมบรรจุในกล่องหนังสไตล์ เดอะ เซนต์ รีจิส สีดำทองหรูหรา ออกแบบพิเศษสำหรับเทศกาลนี้โดยเฉพาะ มีวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ 1 ก.ย. 2558 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ในราคากล่องละ 1,388 บาทสุทธิ  (บรรจุ 4 ชิ้น),6. ซิงก์ เบเกอรี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์,ซิงก์ เบเกอรี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ร่วมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย ขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยสูตรดั้งเดิม ที่มีหลากหลายรสชาติให้เลือกลิ้มลอง อาทิ ไส้ทุเรียนหมอนทองไข่เดี่ยว/ไข่คู่, ไส้ลูกบัว, ไส้ถั่วแดง และ อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ทีมเชฟเบเกอรีของเรา ยังได้คิดเมนูใหม่สุดอินเทรนด์ ดัดแปลงจากวัตถุดิบชั้นเลิศแถบตะวันตก ด้วยเมนูขนมไหว้พระจันทร์บัวหิมะ สีสันสดใสน่ารักไว้ให้ทุกท่านได้ลิ้มรสถึง 4 รสชาติ ได้แก่ ไส้ครีมชีสเกาลัด, ไส้ครีมชีสราสพ์เบอรรี่, ไส้ช็อกโกแลต และ ไส้ผลไม้รวม ในราคาชิ้นละ 140 บาท (ไม่รวมอัตราภาษีและค่าบริการ) เชิญมาสัมผัสความหอมหวานแสนอร่อยของขนมไหว้พระจันทร์จาก ซิงก์ เบเกอรี เพื่อเป็นของขวัญแทนใจให้แก่ทุกคนที่คุณรัก ได้ตั้งแต่ วันที่ 27 สิงหาคม ถึง 27 กันยายน 2558 ณ ซิงก์ เบเกอรี ชั้น 1 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
ใกล้วันไหว้พระจันทร์เข้ามาทุกที หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลนี้คือ ขนมไหว้พระจันทร์ ที่สามารถแบ่งปันและมอบให้เป็นของขวัญทั้งในระหว่างครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหายได้ วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ขอพาทุกคนไปชิมขนมไหว้พระจันทร์เจ้าอร่อย
ไลฟ์สไตล์,อาหาร
ขนมไหว้พระจันทร์,เทศกาลไหว้พระจันทร์,ขนมไหว้พระจันทร์ เจ้าไหนดี,ขนมไหว้พระจันทร์เจ้าอร่อย,เดอะ เลาจน์ โรงแรม เดอะเซนต์ รีจิส,สีฟ้า,โคคา,หม่าน ฟู่ หยวน,โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล,ซิงก์ เบเกอรี,ข่าว,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/527801
[ 0, 259, 18604, 202071, 4388, 259, 21005, 143917, 259, 140612, 68978, 259, 126560, 211151, 65884, 145815, 229042, 20921, 144525, 113638 ]
มิน ชม โอ๊ต โรแมนติกมาก จัดช่อดอกไม้ให้ทุกเดือน
สบายใจกับความสัมพันธ์นี้ ถูกใจเป็นคนสม่ำเสมอ,ดีกรีความหวานระหว่างนางเอกฮอต ,มิน-พีชญา วัฒนามนตรี, กับหวานใจ ,โอ๊ต–พิทักษ์, ไม่มีตก ยิ่งช่วงหลังยิ่งดูหวานมากขึ้นเรื่อยๆ ให้ช่อดอกไม้ตลอด เจอ มิน มาร่วมงานเปิดตัว ,ซัมซุง กาแลคซี่ เจ7 พลัส, ที่ บูธซัมซุง งาน ,ไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2017, ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เลยถามว่า,หลายคนแซวว่าช่วงนี้ความรักเราดูหวานมาก?, เบาๆ มีทริปไปไหนด้วยกันไม่ค่อยเยอะ แต่ว่าส่วนใหญ่เราจะไปทำงานด้วยกันมากกว่า ส่วนช่อดอกไม้ก็มีให้ตลอด เพราะคนนี้เขาจะนับเป็นเดือน ประมาณว่าให้เดือนละครั้ง เหมือนเขาตั้งใจว่าจะให้มันเป็นแบบนี้ ซึ่งเขาก็จะมีกิมมิคของคือ อย่างเดือนแรกเขาก็จะเริ่มจาก 1 ดอก แต่หลังๆดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยได้นับแล้ว เพราะว่างานเขายุ่งก็เลยจัดให้ไม่ทัน เนื่องจากว่าเขาจะเป็นคนที่จัดดอกไม้ให้ด้วยตัวเอง คือเขาเป็นคนที่ชอบสร้างเรื่องราวให้น่าจดจำ ซึ่งสำหรับมินก็ประทับใจนะ ดูเขามีความตั้งใจที่จะทำให้เราจริงๆ ส่วนตัวเองก็มีให้ดอกไม้เขากลับบ้างเหมือนกัน แต่อายมากเลย เพราะจริงๆ มินตั้งใจจะเซอร์ไพรส์เขา เนื่องจากเขางานยุ่ง มินเลยคิดว่าเขาจำไม่ได้ แต่ปรากฏว่าเขากลับให้ดอกไม้ช่อใหญ่กว่า แถมแพงกว่าเราอีก (หัวเราะ) เขาเป็นคนโรแมนติกมากกว่ามินหลายเท่าเลยค่ะ, เรียกว่าตอนนี้เขาสามารถชนะใจเราได้รึยัง?, มันก็ต้องดูกันต่อไปค่ะ เล่นตัวนิดหนึ่ง (หัวเราะ) ส่วนจะเรียกว่าแฟนรึยัง คือมินก็คุยแค่คนเดียวนะคะ จริงๆ จะเรียกอะไรก็ได้ เพราะมันก็พัฒนาไปเรื่อยๆ แค่เรายังไม่รีบเร่งตัดสินใจมากกว่า,แฮปปี้ที่สุดแล้วมั้ยกับความรักครั้งนี้?, ต้องบอกว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ให้เกียรติ ซื่อสัตย์ ไม่มีความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ สบายๆ มากกว่าค่ะ แต่เขาเป็นคนสม่ำเสมอนะคะ ถ้าหากช่วงไหนเรายุ่งเราก็จะสื่อสารกันตลอดไม่เคยหายไปไหน ไม่เคยใช้อารมณ์คุยกัน มินก็เลยค่อนข้างสบายใจกับความสัมพันธ์นี้มาก เรารู้สึกได้ว่าเราสามารถเดินไปด้วยกันได้ ไม่มีความกดดันให้กัน คือเอาจริงๆ มินมองว่ามันต้องมีศีลเสมอกันด้วยนะ และเป้าหมายเราต้องเหมือนกันด้วย, สัญญากับทางช่องสรุปตอนนี้เป็นยังไง?, มินเพิ่งจะต่อสัญญาไปค่ะ ต่อไปหลายปีเลย คือมินไม่ได้จะไปไหนอยู่แล้ว แต่มินคิดว่ามินเติบโตขึ้นมากกว่า มินก็เลยเลือกโฟกัสจุดที่เรารู้สึกว่าเราจะมีความซื่อสัตย์กับงานตรงนี้ และตัวมินเองก็อยากเน้นคุณภาพไม่ได้เน้นที่ปริมาณเหมือนเมื่อสมัยก่อน อย่างเวลามีบทส่งมามินก็จะให้ผู้ใหญ่เป็นคนเลือกให้ก่อน แล้วจึงค่อยส่งต่อมา ให้มินตัดสินใจ ซึ่งส่วนตัวมินเอง มินก็ชอบหมดค่ะ.
ดีกรีความหวานระหว่างนางเอกฮอต มิน-พีชญา วัฒนามนตรี กับหวานใจ โอ๊ต–พิทักษ์ ไม่มีตก ยิ่งช่วงหลังยิ่งดูหวานมากขึ้นเรื่อยๆ ให้ช่อดอกไม้ตลอด
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
มิน พีชญา,พีชญา วัฒนามนตรี,โอ๊ต พิทักษ์,โอ๊ต พิทักษ์ แฟนมิน พีชญา,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1086192
[ 0, 259, 219923, 183690, 8357, 1881, 259, 149831, 259, 43408, 3755, 207005, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ระดม จนท.กรอกกระสอบทราย ย้ายคลังยารับมือน้ำท่วม
เตรียมขนยาขึ้นที่สูง ย้ายรถออกจากลานจอดชั้นใต้ดิน กรอกกระสอบทรายป้องกัน,น้ำท่วม, พร้อมทำพนังกั้นน้ำไว้รับมือ หลังแม่น้ำมูลขึ้นสูงจนอาจล้นเอ่อเข้าท่วมได้,เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ก.ย.62 ที่ ถ.สรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี นายแพทย์มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการ อุบลราชธานี นำเจ้าหน้าที่มาช่วยกันกรอกกระสอบทราย เพื่อเตรียมพร้อมทำพนังกันน้ำที่อาจไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ภายในโรงพยาบาล เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกไม่ถึง 10 เซนติเมตร ระดับน้ำจะท่วมเท่าปี 2545 ถึงแม้ปีนั้นน้ำจะไม่ท่วมถึง รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แต่เพื่อความปลอดภัยจึงมีการเตรียมแผนรับมือไว้,อีกทั้งขณะนี้น้ำจากชุมชนบ่อบำบัดได้ไหลเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนมาถึงหน้าวัดศรีประดู่ ห่างจากหน้าโรงพยาบาลเพียง 2 กิโลเมตร โดยเมื่อญาติคนไข้ทราบข่าวต่างมาช่วยกันกรอกกระสอบทรายกันอย่างขันแข็ง นอกจากนี้จากนี้ทาง รพ.ยังประกาศให้แพทย์ พยาบาล นำรถออกจากชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล และมีการขนย้ายเวชภัณฑ์ ทางยาที่ห้องเก็บชั้นใต้ดินขึ้นไปไว้บนอาคารที่ปลอดภัยด้วย,นายแพทย์มนต์ชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง รพ.มีการเปิดวอร์รูมประเมินสถานการณ์วันต่อวัน โดยสถานการณ์วันนี้น้ำเพิ่มสูงขึ้นมาก ด้วย รพ.เป็นโรงพยาบาลของประชาชน และเป็นโรงพยาบาลศูนย์เป็นที่พึ่งของ รพ.5 จังหวัดอีสานใต้ และ รพ.อำเภอใกล้เคียงโดยรอบ ขณะนี้มีผู้ป่วยหนัก 250 คน คนไข้สามัญกว่า 1,200 คน จึงต้องเตรียมความพร้อมไว้ว่าเราจะทำหน้าที่ได้อย่างไรหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมมาถึงโรงพยาบาล แม้พื้นที่ รพ.จะสูงกว่าพื้นปกติ 1 เมตร,ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นได้ทำการสำรวจระบบน้ำ ระบบไฟ ระบบออกซิเจน หรือแม้แต่เรื่องการสำรองเลือด ตอนนี้จึงต้องมีการกรอกกระสอบทรายช่วยกัน เพื่อป้องกันพื้นที่สำคัญของ รพ. ต้องรักษาพื้รที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง รวมทั้งสิ่งสำคัญที่อยู่ชั้นใต้ดินและชั้น 1 มีการสำรองน้ำหากถูกตัดขาดจะมีน้ำใช้ได้ใน 5 วัน ส่วนคนไข้เองเรามีแผนสำรองเคลื่อนย้ายคนไข้หากถึงจุดวิกฤติ จะมีการเคลื่อนย้ายขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ขึ้นไป โดยมีการเตรียมพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว,ขณะที่ชุมชนหน้าวัดศรีประดู่ กำลัง ทหารจาก มทบ.22 อุบล ราชธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.22 อุบล ราชธานี ต่างออกมาช่วยเหลือประชาชนขนย้ายทรัพย์สิน ขึ้นมาอยู่บนจุดอพยพภายในวัดศรีประดู่ และช่วยนำกระสอบทรายใส่เรือลุยน้ำเข้าไปทำผนังกั้นน้ำไม่ให้น้ำไหลเอ่อจากพื้นถนนซึ่งบางจุดสูงกว่า 1 เมตร จะไหลท่วมผนังกระสอบทรายเข้าไปในบริเวณ บ้านแล้ว โดยหลายรายเอารถยนต์ ออกมาจากบ้านไม่ทัน.
โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เตรียมขนยาขึ้นที่สูง ย้ายรถออกจากลานจอดชั้นใต้ดิน กรอกกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม พร้อมทำพนังกั้นน้ำไว้รับมือ หลังแม่น้ำมูลขึ้นสูงจนอาจล้นเอ่อเข้าท่วมได้
ข่าว,ทั่วไทย
รพ.สรรพสิทธิประสงค์,รับมือน้ำท่วม,น้ำท่วมอุบล,นพ.มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์,อุบลราชธานี,แม่น้ำมูล,น้ำท่วม
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1658346
[ 0, 259, 221847, 260, 211151, 9211, 111173, 186886, 259, 70433, 30804, 12002, 9211, 4388, 116179, 84012, 234788, 2091, 70433, 30804 ]
ทหารพม่ากดดันกองทัพรัฐฉานเหนือให้วางอาวุธ
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-8 ก.ค.48 กลุ่มหยุดยิงไทยใหญ่ กองทัพรัฐฉานเหนือ SSA-N ถูกทหารพม่ากดดันหนัก มีการตรวจค้นบ้านพัก บีบให้วางอาวุธ สำนักข่าว S.H.A.N รายงานว่า ผู้นำระดับสูงในกองทัพรัฐฉานเหนือ SSA-N ถูกทหารพม่ากดดันมากยิ่งขึ้น และมีบางคนถูกเข้าตรวจค้นบ้านพัก ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า SSA-N อาจจะถูกทหารบีบให้วางอาวุธ ดังเช่นกลุ่มหยุดยิงอื่นๆ โดยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา พ.อ. ก่ายฟ้า รองประธานกองทัพรัฐฉานเหนือ (SSA-N [Shan State Army - North]) พร้อมด้วยทหารอารักขาอีก 5 นาย เดินทางจากเมืองหมู่แจ้ ที่ตั้งฐานบัญชาการไปตรวจงาน ที่เมืองล่าเซี่ยวภาคกลางรัฐฉาน โดยระหว่างทางพบด่านตรวจของทหารพม่าบริเวณหลักไมล์ที่ 105 โบกรถให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนพก 5 กระบอก จากนั้น ทหารพม่าได้จับกุมทหารอารักขาทั้งหมดไปสอบสวน รวมทั้งยึดรถยนต์ที่พวกเขาใช้ในการเดินทางไปด้วย หลังจากนั้น พ.อ.ก่ายฟ้า พยายามติดต่อพลตรีมิ้นหล่าย แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงของพม่าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวเพื่อช่วยคลี่คลายเหตุการณ์ ซึ่งพลตรี มิ้นหล่าย ได้บอกให้เขาเดินทางกลับไปก่อน พร้อมกล่าวว่าจะช่วยหาทางแก้ไขให้ภายหลัง แต่พ.อ. ก่ายฟ้า ไม่ยอมกลับโดยให้เหตุผลว่าจะต้องอยู่ดูแลลูกน้อง จนกระทั่งถึงเช้าวันรุ่งขึ้นจึงตัดสินใจเดินทางกลับ เนื่องจากการพยายามต่อรองกับทางฝ่ายทหารพม่าไม่เป็นผล และหลังจากเดินทางถึงบก.ของเขาที่เมืองแสงแก้วแล้วก็ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ในกองทัพ SSA-N เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.ค. ทหารพม่ากองพันทหารราบที่ 33 ที่มีบก.อยู่ที่เมืองต้างยาน ได้บุกเข้าตรวจค้นหมู่บ้านน้ำเลา ต.เมืองก๋าว ซึ่งเป็นหมู่บ้านของครอบครัวทหาร SSA-N กองพลน้อยที่ 1 ของพันเอกป่างฟ้า เสนาธิการของ SSA-N รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของพันโท เงาฟ้า และพันโทสายฟ้า นายทหารระดับสูงของ SSA-N ถูกค้นด้วย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นเป็นต้นมา ทหารพม่าได้จับกุมผู้นำไทยใหญ่ รวมทั้งกดดันกองกำลังหยุดยิงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ได้จับกุมเจ้าขุนทูอู ประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติฉาน รวมทั้งผู้นำไทยใหญ่คนอื่นๆ อีกร่วม 30 คน ต่อมาในวันที่ 7 เดือนเมษายน พันตรีกันนะ ผบ.กองพลน้อยที่ 11 ของกองทัพแห่งชาติรัฐฉาน SSNA ถูกบังคับให้วางอาวุธ ตามด้วยกลุ่มหยุดยิงชาวปะหล่อง และพันตรี กุงเคอ ผบ.กองพลน้อยที่ 19 ของ SSNA เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ทำให้เจ้าจายยี่ ผบ.สูงสุดของกองทัพแห่งชาติรัฐฉาน SSNA ประกาศเข้าร่วมกับเจ้ายอดศึกเพื่อต่อสู้กับพม่าเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่กลุ่ม SSNA ของเจ้าจายยี่ เข้าร่วมกับเจ้ายอดศึกแล้ว กองทัพรัฐฉาน SSA-N ถูกทหารพม่าบีบบังคับด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ อยู่ตลอดเวลา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-8 ก.ค.48 กลุ่มหยุดยิงไทยใหญ่ กองทัพรัฐฉานเหนือ SSA-N ถูกทหารพม่ากดดันหนัก มีการตรวจค้นบ้านพัก บีบให้วางอาวุธ สำนักข่าว S.H.A.N รายงานว่า ผู้นำระดับสูงในกองทัพรัฐฉานเหนือ SSA-N
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2005/07/4797
[ 0, 259, 111243, 209977, 49947, 142319, 3945, 111243, 44628, 38295, 44891, 2091, 139891, 18169, 1549, 62658, 12066, 17856, 185050, 8084 ]
คนมวยค้านหัวชนฝา หลัง สนช. ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชก
กลุ่มคนมวยไม่เห็นด้วยกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกมวยไทย โดยล่าสุด พยัคฆ์หน้าหล่อ สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตนักมวยไทยชื่อดัง ก็ออกมาแสดงจุดยืนที่จะคัดค้าน พ.ร.บ.ดังกล่าว พร้อมกับเตรียมยื่นหนังสือต่อนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในวันที่ 12 พ.ย.นี้,ตามที่การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีความพยายามที่จะผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกมวยไทย โดยในการจัดการแข่งขันต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ในกิจกรรมด้านการกีฬา และมีมาตรการป้องกันอันตรายทางร่างกาย และมีกฎกติกาการเล่นที่เหมาะสม เป็นการเฉพาะนั้น,ล่าสุด พยัคฆ์หน้าหล่อ สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตนักมวยไทยชื่อดังในฐานะนายกสมาคมกีฬามวยไทยนายขนมต้ม พร้อมคณะกรรมการ เตรียมเข้ายื่นหนังสือต่อ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการห้ามนักมวยที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชก ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ โดยระบุว่าเราจะขอสู้เพื่อลูกหลานเป็นครั้งสุดท้าย หากแพ้หมายถึงมวยไทยสูญสิ้น ถ้าชนะก็เป็นการป้องกันกีฬามวยไทยให้อยู่สืบต่อไป,ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวอีกว่า เวทีมวยมาตรฐานอย่างเวทีมวยลุมพินี ถ.รามอินทรา กม.2 ก็ออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวอีกด้วยเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการส่งแบบสำรวจไปยังค่ายมวยและหัวหน้าค่ายมวยต่างๆ เพื่อขอให้ร่วมกันแสดงจุดยืนคัดค้านร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชกมวย โดยขอให้ทุกค่ายส่งรายชื่อนักมวยในสังกัด และขอให้แสดงเหตุผลของการคัดค้านดังกล่าว.
กลุ่มคนมวยไม่เห็นด้วยกับ สนช. ที่จะห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกมวยไทย โดยล่าสุด พยัคฆ์หน้าหล่อ สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตนักมวยไทยชื่อดัง ก็ออกมาแสดงจุดยืนที่จะคัดค้าน พ.ร.บ.ดังกล่าว
กีฬา,มวย/MMA
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ,สามารถ พยัคฆ์อรุณ,สนช.,พระราชบัญญัติกีฬามวย,การกีฬาแห่งประเทศไทย
https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1415438
[ 0, 259, 219478, 122572, 4215, 108631, 35872, 11922, 140256, 69121, 259, 219478, 122572, 4215, 108631, 35872, 11740, 108604, 20390, 259 ]
รื้อ10รีสอร์ต บนภูทับเบิก
ป่าไม้นัดพม. ไปตรวจสอบ วันที่22ตค.นี้,โดนแล้ว ภูทับเบิก หลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต จนสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเปลี่ยนไป เพราะนายทุนเข้ามายึดครองที่ดินสร้างรีสอร์ตเพียบ จนแปรสภาพเป็นแหล่งแออัด กรมป่าไม้เตรียมเข้ารื้อ 10 รีสอร์ตดังรุก ภูทับเบิก พร้อมลงพื้นที่ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลุยจัดระเบียบ 22 ต.ค. อธิบดีกรมป่าไม้เร่งทำแผนจัดโซนนิ่งใหม่ภายใน 2 เดือน,กรณีปัญหาบ้านพักและรีสอร์ตบุกรุกสร้างบน ภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตก่อสร้างแบบไร้ทิศทางจนแออัด ส่งผลให้สภาพแวดล้อมที่เคยสวยงามตามธรรมชาติเปลี่ยนไป กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนั้น,เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ตั้งแต่ช่วงเช้าที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกัน รักษาป่าและควบคุมไฟป่า ประชุมร่วมกับนายพุฒิพัฒณ์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่องการแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ภูทับเบิก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หลังประชุมนายชลธิศแถลงว่า พื้นที่ภูทับเบิกเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้มอบให้กรมประชาสงเคราะห์เดิม เพื่อจัดสรรให้กับชาวไทยภูเขา เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งทำกิน จำนวน 4.7 หมื่นไร่ จำนวน 3,500 ครัวเรือน หลังจากปี 2545 ที่มีการปฏิรูประบบราชการ การทำงานของกรมประชาสงเคราะห์ไม่ชัดเจนนัก ทำให้ไม่สามารถเข้าไปดูแลพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง ทำให้พื้นที่มีการเปลี่ยนแปลง ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่นำพื้นที่ที่ได้รับมอบ ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์รวมทั้งเปลี่ยนมือจนมีสภาพแออัดอย่างปัจจุบัน,อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวอีกว่า ระหว่างปี 2556- 2557 กรมพัฒนาสังคมฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ตรวจสอบพบว่ามีการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ จึงได้ประสานกับกรมป่าไม้ให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดี จำนวน 27 คดี และศาลได้มีคำสั่งและคดีสิ้นสุดแล้ว 10 คดี หลังจากนี้ ในวันที่ 22 ต.ค. กรมป่าไม้และกรมพัฒนาสังคมฯ จะลงพื้นที่ภูทับเบิก เพื่อตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้งว่า นอกจาก 27 คดีที่มีอยู่ในขณะนี้มีรายใดบ้างที่ทำผิดเจตนารมณ์ของกรมประชาสงเคราะห์เดิม,นายชลทิศกล่าวอีกว่า ยืนยันว่า กรมป่าไม้พร้อมจะเข้าไปดำเนินคดีทุกราย เพราะทีมพยัคฆ์ไพรของกรมป่าไม้พร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมง แต่ต้องดูในแง่รัฐศาสตร์ด้วย เพราะหากบางรายสร้างโฮมสเตย์หรือเพิงพักสำหรับนักท่องเที่ยวขนาดเล็ก ไม่ขัดกับระบบนิเวศที่เป็นอยู่ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่พื้นที่ทั้งหมด 4.7 หมื่นไร่ จะเป็นโฮมสเตย์และเอาไร่กะหล่ำปลีมาอ้างทั้งหมดคงไม่ได้ ต้องมีการจัดโซนนิ่งพื้นที่อย่างชัดเจน ยืนยันว่าภายในปีนี้ที่เหลือเวลาอีก 2 เดือน จะมีคำตอบให้กับทุกคนว่าจะทำอย่างไรกับภูทับเบิก โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปจัดทำโรดแม็ปออกมาชัดเจนว่าจัดการอย่างไร,ด้านนายพุฒิพัฒน์กล่าวว่า เจตนารมณ์เดิมของกรมประชาสงเคราะห์ที่จัดสรรที่ดินให้ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งเข้ามาอยู่ คือ การอนุรักษ์ทรัพยากร การป้องกันปัญหายาเสพติด และพัฒนาคุณภาพชีวิต ทว่าตั้งแต่ปี 2509 ที่กรมป่าไม้มอบที่ดินให้กรมประชาสงเคราะห์นั้น สภาพสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไป การเข้าไปดำเนินการก็จะต้องมีการผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย แต่จะต้องอยู่ภายใต้เจตนารมณ์เดิม,เมื่อถามว่ากรมพัฒนาสังคมฯ มีรายชื่อประชาชนที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่ทั้ง 3,500 ครัวเรือนหรือไม่ และหากปัจจุบันมีคนใหม่เข้ามาครอบครองแทนจะถือเป็นการบุกรุกที่ดินหรือไม่ นายพุฒิพัฒน์กล่าวว่า กรมมีรายชื่ออยู่ แต่จะไปบอกว่าคนที่ครอบครองอยู่เวลานี้ ไม่ใช่รายเดิมที่กรมประชาสงเคราะห์มีรายชื่ออยู่ก็ไม่ถูกต้อง เพราะคนเหล่านั้นอาจจะมีลูกมีหลานที่ได้รับการตกทอดมา ดังนั้น การตรวจสอบอย่างละเอียดแบบเอกซเรย์พื้นที่ในวันที่ 22 ต.ค. จึงสำคัญมาก เพราะจะได้พิสูจน์ให้ชัดว่า พื้นที่ใดเป็นของนายทุน หรือคนนอกที่มากอบโกยผลประโยชน์,ขณะที่นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมพัฒนาสังคมฯ มีรีสอร์ตที่ใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์จำนวน 57 แห่ง แต่ขณะนี้จะดำเนินการในส่วนที่ศาลมีคำพิพากษาให้ผู้ครอบครองและบริวารออกจากพื้นที่แล้วจำนวน 10 คดี ได้แก่ 1.ไร่เติมรัก 2.ริมธารรีสอร์ท 3.โรงเตี๊ยม 4.ช้างทอง 5.สมบุญรีสอร์ท 6.กาแฟแม่ล้ำ 7.เอนกาย@ภูทับเบิก 8.ยูงทอง 9.ทับเบิกวิลเลจ และ 10.ภูทองคำ โดยจะส่งหนังสือถึงกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เพื่อบังคับคดีและรื้อถอนต่อไป ในส่วนที่เหลือถ้าพบว่ามีการต่อเติมขยายพื้นที่ออกมาไม่ยอมหยุดก็จะดำเนินคดีต่อไป
โดนแล้ว ภูทับเบิก หลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต จนสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเปลี่ยนไป เพราะนายทุนเข้ามายึดครองที่ดินสร้างรีสอร์ตเพียบ จนแปรสภาพเป็นแหล่งแออัด กรมป่าไม้เตรียมเข้ารื้อ 10 รีสอร์ตดังรุก ภูทับเบิก พร้อมลงพื้นที่
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ภูทับเบิก,รื้อถอนรีสอร์ต,ยึดครองที่ดิน,รีสอร์ต,กรมป่าไม้,จัดระเบียบ,บ้านพัก,บุกรุก,สภาพแวดล้อม,เปลี่ยนไป,บุกรุกป่าไม้,สร้างรีสอร์ต,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/532628
[ 0, 259, 74425, 73008, 48662, 259, 70433, 17138, 10228, 147851, 475, 259, 209402, 47129, 6196, 69171, 174588, 259, 144678, 204820 ]
เตือน ปชช.เฝ้าระวัง หลังเขื่อนเจ้าพระยาเตรียมเร่งระบายน้ำถึง15ก.ค.นี้
เขื่อนเจ้าพระยาเตรียมเร่งระบายน้ำในอัตรา 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจนถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ หวั่นส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำของลำน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องแจ้งเตือน ปชช. อ่างทอง อยุธยา เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้าน, ,เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกทางตอนเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้มีปริมาณน้ำในแม่น้ำเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางกรมชลประทานเตรียมระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จังหวัดนครสวรรค์ ในอัตรา 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลมารวมที่เขื่อนเจ้าพระยา ประมาณ 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที,นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ในวันนี้ ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 16.75 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 11.20 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนที่สถานีวัดน้ำ C2 นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,140 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยหลังจากนี้ เขื่อนเจ้าพระยาจะเริ่มมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันเสาร์ที่ 15 ก.ค.60 ในอัตราถึง 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำของลำน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทำให้พื้นที่บริเวณอำเภอเสนา อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ลุ่มต่ำในจังหวัดอ่างทอง ได้รับผลกระทบจากน้ำที่เพิ่มระดับสูงขึ้นจนเข้าท่วมเอ่อล้นตลิ่ง ในพื้นที่ ที่ท่วมอยู่เป็นประจำเพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดตลิ่ง แต่พื้นที่ทางการเกษตรจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด,จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ไปจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางกรมชลประทานได้สั่งการให้ทุกสถานีวัดน้ำทุกหน่วยและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ทำประชาคมและชี้แจงสถานการณ์ทำความเข้าใจให้ประชาชนได้ทราบล่วงหน้าก่อนที่น้ำจะเข้าท่วมบ้านเรือน นายสุชาติกล่าว
เขื่อนเจ้าพระยาเตรียมเร่งระบายน้ำในอัตรา 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจนถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ หวั่นส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำของลำน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น
ข่าว,ทั่วไทย
เขื่อนเจ้าพระยา,ระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา,น้ำล้นตลิ่ง,สำนักงานชลประทานที่ 12,ชัยนาท,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1003444
[ 0, 259, 188810, 70851, 3755, 6582, 259, 127515, 11699, 2361, 191413, 81740, 114766, 5405, 126560, 103347, 1, 0, 0, 0 ]
ไตรภพ สวันตรัจฉ์ นักดนตรีรุ่นเก๋า แต่งเพลงรณรงค์ 1 คน 1 เสียงเท่ากัน
เพลงรณรงค์ล่าสุดจากนักดนตรีรุ่นเดอะ ได้แรงบันดาลใจจากคลิปกลุ่ม We Vote เตือน 65 ปีของชีวิตเห็นการฆ่ากันมาตั้งแต่ยุคสฤษดิ์ ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น เชื่อคอร์รัปชั่นแก้ได้ในระบบแต่ต้องใช้เวลาอยากฝากคนไทย อย่างน้อยๆ เราก็ไม่ควรจะมาฆ่ากันอีกแล้ว ผมเห็นมาตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์ เพราะผมเกิดทัน มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เผด็จการไม่มีอะไรดีขึ้น ไตรภพ สวันตรัจฉ์ นักดนตรีวัย 65 ปี น้องชายของนักดนตรี ชื่อดัง นุภาพ สวันตรัจฉ์ กล่าวเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ไตรภพส่งเพลง 1 คน 1 เสียงเท่ากัน มาให้ประชาไทเผยแพร่ เขาบอกว่าเพลงนี้เพิ่งแต่งและลงเสียงด้วยตนเองเมื่อวานนี้ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากไตเติ้ลของคลิปกลุ่ม ที่ตัดมาจากเพลงเก่า (Day-O (The Banana Boat Song) ของ Harry Belafonte) จึงนั่งเขียนเนื้อเพลงเพื่อสื่อความหมายว่าเราก็หนึ่งคนเท่ากัน เหมือนกัน หนึ่งสิทธิ์ก็มีหนึ่งเสียง เพราะฉะนั้นให้คนอื่นมาตั้งรัฐบาลให้น่าจะไม่เข้าท่าก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาและนุภาพ ทำดนตรีให้กับเพลง ของ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับ หงา คาราวาน (สุรชัย จันทิมาธร)ไตรภพบอกว่า ถ้าเรามั่นใจในระบอบก็ควรจะไปเลือกตั้ง ไม่ควรยอมให้ใครมาทำอะไรนอกกติกา ส่วนการคอร์รัปชั่นนั้นก็ไปแก้กันเอาในระบบ ถ้าเรามีเลือกตั้ง มีรัฐบาลครบวาระ ไม่เกิน 3 ครั้งระบอบมันจะไปได้ฉลุย และจะแก้ในตัวมันเอง คนอย่างเราๆ จะเป็นคนสกรีนคอร์รัปชั่นเองผมก็ไม่ได้จบปริญญาอะไร จบแค่ ม.6 แต่ถ้าให้ผมเลือกตั้งไปเรื่อยๆ มีรัฐบาลที่มาถูกต้อง เดี๋ยวเราก็สกรีนกันไปได้เอง คอร์รัปชั่นมันก็จะลดไปเอง ไตรภพบอกและว่าส่วนใครจะมากล่าวหาว่าเขาเป็นเสื้อแดงแปลงกายนั้น เขาไม่กังวลผมไม่ได้เป็น ผมไม่เคยไปร่วมชุมนุมกับเสื้อแดงหรืออะไรทั้งนั้น ผมก็ติดตามแค่ข่าวเท่านั้นเขาฝากถึงรัฐบาลว่า ต้องจัดการเลือกตั้งให้ได้และฝากถึง กปปส. ว่าอยากให้ช่วยกันคิด เพราะดูแนวทางแล้วมันไปทางมืดมนขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ นักดนตรีชื่อดังอีกคน คือ กบ ไมโคร (ไกรภพ จันทร์ดี) ได้เผยแพร่เพลงรณรงค์ทางการเมือง คำถามของสายลม ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเนื้อหาของเพลงตั้งคำถามว่าผู้ที่มีความเห็นที่แตกต่างกันจะอยู่ร่วมในสังคมเดียวกันได้หรือไม่ ล่าสุดมีผู้ชม 11635 ครั้งแล้ว
เพลงรณรงค์ล่าสุดจากนักดนตรีรุ่นเดอะ ได้แรงบันดาลใจจากคลิปกลุ่ม We Vote เตือน 65 ปีของชีวิตเห็นการฆ่ากันมาตั้งแต่ยุคสฤษดิ์ ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น เชื่อคอร์รัปชั่นแก้ได้ในระบบแต่ต้องใช้เวลา
การเมือง,วัฒนธรรม
การเลือกตั้ง,การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57,ดนตรี,ไกรภพ จันทร์ดี,ไตรภพ สวันตรัจฉ์
https://prachatai.com/journal/2014/01/51037
[ 0, 259, 185924, 10228, 52854, 9211, 80267, 63753, 18117, 158023, 2361, 36595, 6581, 93715, 8302, 51523, 5269, 48429, 97003, 4188 ]
บทบาทสตรีไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0 ผู้หญิงต้อง Learning by doing มากขึ้น
วัลลภ ตังคณานุรักษ์ (กลาง) ประธานคณะกรรมาธิการสังคม เด็ก เยาวชน สตรีฯ สนช. ต้อนรับสุรางคณา วายุภาพ, เกศรา มัญชุศรี, สุวรรณี สิริเวชชะพันธ์, วิปัญจิต เกตุนุติ ที่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น.,ในโอกาสวันสตรีสากล 8 มีนาคม คณะกรรมาธิการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ร่วมฉลองวันสำคัญของสตรีจากการต่อสู้อันยาวนาน เพื่อให้ได้มาซึ่งความเสมอภาค ความยุติธรรม สันติภาพ และการพัฒนาสตรีทั้งมวล โดยจัดกิจกรรมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความเสมอภาคระหว่างเพศและการพัฒนาส่งเสริมความก้าวหน้าของบทบาทสตรีในประเทศไทย พร้อมจัดสัมมนาเรื่อง บทบาทสตรีไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยมีสตรีแถวหน้าในแต่ละภาคส่วนมาร่วม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่บริเวณโถงชั้น 1 อาคารรัฐสภา 1 รัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา,สุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่ง ชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุฯ กล่าวว่า ครอบครัวมีส่วนสำคัญมากในการปลูกฝังความคิด ตนโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ให้สิทธิลูกชายและลูกหญิงเท่ากัน และถูกหล่อหลอมให้มีความคิดเป็นของตัวเอง จึงไม่รู้สึกถูกเลือกปฏิบัติ แต่พอได้มาทำงานภาคสังคม ได้เห็นประเด็นปัญหาของกลุ่มผู้หญิงในสังคม โดยผู้หญิงบางกลุ่มมีชีวิตพึ่งบุรุษ นอก,จากนี้ ยังมีเรื่องเจตคติทางสังคมไทย ที่บ่มเพาะเลี้ยงดูลูกชายอยู่เหนือลูกหญิงเสมอ รวมทั้งการศึกษา หากทางครอบครัวยากจน มักจะเลือกส่งลูกชายให้เรียนมากกว่าลูกสาว สำหรับในส่วนอนาคตที่เราก้าวสู่ยุค 4.0 ไม่เฉพาะผู้หญิง ผู้ชายเองก็ต้องมองการวางชีวิตในอนาคต การก้าวสู่ยุค 4.0 ที่มีการเปลี่ยนแปลง คนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้หมายความว่า ต้องอายุน้อยเท่านั้น ต้องอยู่กับการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ ความคิดต่างๆ ต้องเปลี่ยน แต่ไม่เปลี่ยนตัวตนของตัวเอง ต้องมีความใฝ่รู้ เข้าใจการเปลี่ยนแปลง และต้องนำการเปลี่ยนแปลงนี้ให้เข้ามาในบริบท,ของตัวเองว่า จะรับมืออย่างไร รูปแบบไหน ที่จะก้าวไปในสังคมไทยแลนด์ 4.0 โดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตนของตนเอง,ส่วนผู้หญิงแถวหน้าในวงการเงินที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนอยากให้ผู้หญิงในยุคนี้ภาคภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น และคิดว่าเราไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่น และต้องเปิดโอกาสให้ชีวิตของตัวเอง อย่าไปคิดว่าเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชาย โดยให้โอกาสตัวเอง และทำตาม passion ของตัวเอง ทำอะไรที่สนุกและอยาก ทำสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้หญิงยุค 4.0 ต้อง มีความรู้ และบางครั้งการเรียนในระบบ อาจจะไม่เพียงพอ ต้องแสวงหาความรู้อื่นๆด้วย รวมทั้งต้อง รู้ทางด้านภาษา โดย เฉพาะภาษาอังกฤษ,ด้าน สุรางคณา วายุภาพ ผอ.สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า การก้าวหน้าของคนเราอย่างแรกคือ ค้นหาตัวเองให้เจอ จากนั้นเมื่อมีโอกาสก็คว้าและทำงานด้วยความทุ่มเท ซึ่งจะพาให้เราไปถึงจุดสูงสุด ไลฟ์สไตล์ของคนยุค 4.0 ทำอะไรด้วยความรักความชอบ เรียนจบก็ไม่ได้ทำงานอย่างที่เรียนมา บางคนเรียนวิศวะ แต่มาเปิดร้านกาแฟ นอกจากนี้ เรายังก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุ จำนวนประชากรที่มีอายุยืนขึ้น ทั้งหมดนี้มีผลต่อการใช้ชีวิตและวิธีคิด คนทุกคนจึงต้องมีการปรับตัว ถ้าไม่ปรับตัวก็จะอยู่ยากมาก ภาษาและเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ทำให้เรา ก้าวไปข้างหน้า แต่การใช้เทคโนโลยีต้องรู้เท่าทัน นอกจากนี้ รูปแบบการเรียนรู้ของยุค 4.0 เราต้อง Learning by doing มากขึ้นด้วย.
ในโอกาสวันสตรีสากล 8 มีนาคม คณะกรรมาธิการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ร่วมฉลองวันสำคัญของสตรีจากการต่อสู้อันยาวนาน
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
สตรีไทย,ยุคไทยแลนด์ 4.0,สุรางคณา วายุภาพ,เกศรา มัญชุศรี,สุวรรณี สิริเวชชะพันธ์
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/1222192
[ 0, 259, 137738, 77772, 56215, 236041, 3755, 66125, 259, 22397, 259, 201554, 259, 177104, 70546, 31190, 48263, 259, 204401, 6088 ]
หมอวิจารณ์ ห่วง คสช. แก้ กม.สสส.-บัตรทอง ทำระบบสุขภาพไทยถอยหลัง
หมอวิจารณ์ ท้วง คสช. ห่วงแก้ กม.สสส.-กม.บัตรทอง หวั่นทำระบบสุขภาพประเทศถอยหลังเข้าคลอง อยู่ภายใต้ระบบราชการ หลังระบบสุขภาพไทยประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับเป็นตัวอย่างแก่โลก6 เม.ย. 2559 จากกรณีที่มีข่าวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเตรียมหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ.2544 ให้เกิดความยั่งยืน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย ยังเห็นควรให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ในคราวเดียวกันนั้นนพ.วิจารณ์ พานิช นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล และอดีตกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เขียนข้อความผ่านทาง www.gotoknow.org ลงวันที่ 4 เมษายน 2559 โดยได้แสดงความเป็นห่วงต่อการแก้ไขกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ โดยมีข้อความระบุดังนี้ในฐานะพลเมืองเจ้าของประเทศคนหนึ่ง ผมหวังว่า รัฐบาล คสช.จะไม่ทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลองด้วยการแก้ไข พ.ร.บ.ของ 2 หน่วยงานนี้ ในลักษณะที่ทำให้ทำงานเชิงสร้างสรรค์ได้ยากขึ้น เพราะตกอยู่ใต้ระบบที่รัดรึงแบบราชการยิ่งขึ้นนพ.วิจารณ์ กล่าวต่อว่า ระบบสุขภาพไทยนั้นประสบความสำเร็จสูงเป็นตัวอย่างแก่โลก Center for Global Health ทำโครงการ Millions Saved เพื่อบอกโลกว่า ในประเทศกำลังพัฒนามีตัวอย่างความสำเร็จขนาดใหญ่ในด้านการพัฒนาสุขภาพในเรื่องใด ที่ไหน ประกาศออกมาแล้ว 14 เรื่อง เป็นของไทยเสีย 2 เรื่อง คือโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า (ผลงานของ สปสช.) และการรณรงค์ลดการสูบบุหรี่ (ผลงานของ สสส.)ทั้ง 2 เรื่อง มีผลงานที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จระดับโลก แต่ตัวองค์กรกำลังจะถูก reform แปลกดีนะครับ ในฐานะพลเมืองเจ้าของประเทศคนหนึ่ง ผมหวังว่า รัฐบาล คสช.จะไม่ทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลองด้วยการแก้ไข พ.ร.บ. ของ 2 หน่วยงานนี้ ในลักษณะที่ทำให้ทำงานเชิงสร้างสรรค์ได้ยากขึ้น เพราะตกอยู่ใต้ระบบที่รัดรึงแบบราชการยิ่งขึ้น นพ.วิจารณ์ ระบุในตอนท้าย
หมอวิจารณ์ ท้วง คสช. ห่วงแก้ กม.สสส.-กม.บัตรทอง หวั่นทำระบบสุขภาพประเทศถอยหลังเข้าคลอง อยู่ภายใต้ระบบราชการ หลังระบบสุขภาพไทยประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับเป็นตัวอย่างแก่โลก 6 เม.ย.
การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน
คสช.,ระบบหลักประกันสุขภาพ,วิจารณ์ พานิช,สสส.,สาธารณสุข
https://prachatai.com/journal/2016/04/65097
[ 0, 259, 195634, 260, 228154, 259, 199274, 167330, 259, 80267, 259, 97003, 259, 4215, 4552, 12682, 260, 112088, 29443, 47414 ]
เปิดฉากแล้ว ยิ่งใหญ่ OTOP Midyear 2019 คาดเงินสะพัดกว่า 9 ร้อยล้าน
เปิดฉากแล้ว OTOP Midyear 2019 ชูวิถีไทย วิถีถิ่น วิถีกิน สี่ภาค พช.ระดมโอทอปของดีทั่วไทยกว่า 2,500 ร้าน ตั้งเป้ากวาดรายได้กว่า 900 ล้านบาท มุ่งหวังสร้างงานสร้างรายได้สู่ชุมชนยั่งยืน เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง,วานนี้ (16 มิ.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน OTOP Midyear 2019 : OTOP Signature รักษาเอกลักษณ์ สร้างสรรค์นวัตกรรม ในรูปแบบวิถีไทย วิถีถิ่น วิถีกิน สี่ภาค โดยได้ขนสุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP จากทั่วประเทศมากกว่า 25,000 รายการ จำนวนกว่า 2,500 ร้านค้า มาให้ประชาชนได้เลือกซื้อเลือกชม เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพสินค้าชุมชนที่ได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์การจัดงาน มีคณะกรรมการจัดงาน หัวหน้าหน่วยงานราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคเอกชนและประชาชน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง คาดจัดงาน 9 วัน เงินสะพัดกว่า 900 ล้านบาท,โดย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง ประชาชนมีความสุขและมีรายได้เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่นำไปสู่ความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน,ทั้งนี้รัฐบาลได้ตระหนักถึงการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสินค้า OTOP รู้จักปรับตัวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวคิดประเทศไทย 4.0 โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาและยกระดับสินค้า แต่ยังคงคุณค่าและรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนทั้งตลาดในประเทศและระดับสากล งาน OTOP Midyear ถือเป็นงานส่งเสริมการตลาดสินค้า OTOP และกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีที่สำคัญงานหนึ่งของประเทศไทย ผ่านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานรากให้เติบโต เข้มแข็ง และเชื่อมโยงไปยังเศรษฐกิจระดับมหภาค,กระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะอนุกรรมการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับภูมิภาค ได้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนโดยการยกระดับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ สินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมทั้งส่งเสริมด้านการตลาดให้มีศักยภาพมากขึ้น อาทิ จัดให้มีการยกระดับเป็นสินค้า Brand Name, ศิลปิน OTOP, สินค้า OTOP ส่งออก, OTOP Innovation, OTOP Trader, ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี, ส่งเสริมผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำหน่ายสินค้าบนเครื่องบินและ Platform อีกทั้งกระทรวงมหาดไทยยังมีนโยบายให้จังหวัดและอำเภอจัดโครงการตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ เพื่อเพิ่มรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง,ขณะที่ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดงาน OTOP Midyear 2019 จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 11 แล้ว ซึ่งปีนี้จัดภายใต้แนวคิด OTOP Signature รักษาเอกลักษณ์ สร้างสรรค์นวัตกรรม โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นระยะเวลา 9 วัน โดยปีนี้ไฮไลต์ถูกแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่,1.OTOP Signature ที่คัดเลือกสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดของ 48 จังหวัด มาจัดแสดงและจำหน่าย อาทิ ไม้แกะสลักบ้านถวาย จังหวัดเชียงใหม่, เครื่องทองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย, ทุเรียนหลงลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์, ผ้าไหมแพรวา จังหวัดกาฬสินธุ์, ผ้าไหมมัดหมี่ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา, ส้มโอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม, กาแฟชุมพร จังหวัดชุมพร, ย่านลิเภา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น,2.OTOP Innovation จัดแสดงผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีการผสมผสานนวัตกรรม อาทิ เสื้อผ้าแฟชั่นจากผ้าขาวม้าเส้นใยฟิลาเจน ที่เป็นการนำคอลลาเจนใส่เข้าไปในเส้นใยผ้า ช่วยกักเก็บน้ำในผิวให้ชุ่มชื้นขณะสวมใส่ ลดกลิ่นอับชื้น ป้องกันรังสี UV สูงสุดถึง SPF 50 จากอิมปานิ จังหวัดราชบุรี เป็นต้น,3.ศิลปิน OTOP จัดแสดงผลงานที่มูลค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมสูง และหาชมได้ยากของ OTOP ศิลปิน 38 ราย ได้แก่ เครื่องถม จังหวัดนนทบุรี โดยอาจารย์อุทัย เจียรศิริ จัดแสดงพอบยอดปริก 8 เหลี่ยมถมเงิน และกระเป๋าราตรี 8 เหลี่ยมถมทอง, เครื่องเคลืบศิลาดล จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น,4.ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 4 ภาค 8 หมู่บ้าน อาทิ ปากละแม จ.ชุมพร, บ้านตะโละใส จ.สตูล, บ้านชีทวน จ.อุบลราชธานี, บ้านโนนกอก จ.อุดรธานี, บ้านแพะ จ.ลำพูน, บ้านละอูบ จ.แม่ฮ่องสอน, บ้านท่าระแนะ จ.ตราด, บ้านรวมไทย จ.ประจวบคีรีขันธ์,นอกจาก 4 โซนดังกล่าวแล้ว ยังมีโซนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายทั่วทั้งบริเวณงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ทั่วประเทศ, OTOP ชวนชิม อาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงจากทั่วประเทศ รวมทั้งอาหารถิ่นรสไทยแท้หลากหลายเมนู, จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Health & Spa พร้อมบริการนวดผ่อนคลายเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งสินค้าราคาพิเศษนาทีทอง มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินลูกทุ่งชื่อดังรวมถึงมาตรการ OTOP ช็อปช่วยชาติ ที่สามารถนำใบเสร็จรับเงินไปลดหย่อนภาษีได้ พร้อมจัดกิจกรรมโปรโมชั่นพิเศษจับแจกรางวัลสร้อยคอทองคำ 1 สลึง วันละ 10 เส้น วันสุดท้ายลุ้นรับรถยนต์ Nissan March 1 คัน และสร้อยคอทองคำ 5 บาท จำนวน 5 เส้น,พร้อมกันนี้ได้นำแอปพลิเคชัน LINE MAN ที่ร่วมมือกับ Wongnai ในการแนะนำร้านเด็ด ซึ่งจะมาเป็นผู้ช่วยในการจัดส่งอาหารจากร้าน OTOP เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายทั้งผู้ขายและผู้ซื้อในงานครั้งนี้โดยผู้ซื้อสามารถเลือกสั่งอาหารจากร้าน OTOP ได้อย่างง่ายได้ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน และผู้ขายสามารถจำหน่ายอาหารได้มากขึ้น และช่วยลดต้นทุน การจ้างพนักงานประจำในการส่งสินค้า สะดวกทั้งผู้ขายและผู้ซื้ออีกทั้งผู้เข้ามาเยี่ยมชมงาน OTOP ยังสามารถเรียกบริการแท็กซี่รับ-ส่งจากที่บ้าน ซึ่งเป็นบริการล่าสุดจาก LINE MAN ที่จะทำให้ทุกคนเดินทางอย่างปลอดภัย ไร้กังวล ครอบคลุมทุกเส้นทางทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวมของดี มีของครบ พบนวัตกรรม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้าย.
เปิดฉากแล้ว OTOP Midyear 2019 ชูวิถีไทย วิถีถิ่น วิถีกิน สี่ภาค พช.ระดมโอทอปของดีทั่วไทยกว่า 2,500 ร้าน ตั้งเป้ากวาดรายได้กว่า 900 ล้านบาท มุ่งหวังสร้างงานสร้างรายได้สู่ชุมชนยั่งยืน
ข่าว,เศรษฐกิจ
OTOP Midyear 2019,OTOP,โอทอป,สินค้าโอทอป,โอทอป นววิถี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/entrepreneur/1593720
[ 0, 259, 97003, 2752, 6196, 36595, 88618, 16485, 131476, 188246, 200332, 259, 107451, 3755, 119762, 4188, 188246, 15981, 443, 37846 ]
วัดสระเกศฯ ตั้ง กก.ลุยพัฒนาหลักสูตรพระวิทยากร
ภาพจาก : facebook วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ,),พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงฯ ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงฯ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร โดยมีตนเป็นประธานคณะกรรมการ ทั้งนี้การตั้งคณะกรรมการดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินการพัฒนาหลักสูตรการจัดฝึกอบรม ตามโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมติมหาเถรสมาคมที่ 412/2556 เรื่อง เห็นชอบให้สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงฯ วัดสระเกศฯ เป็นหน่วยงานของคณะสงฆ์ในการสนับสนุนการดำเนินภารกิจด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก,พระราชกิจจาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการชุดนี้จะมีหน้าที่มอบนโยบาย แนวทางในการพัฒนาหลักสูตร ไปยังคณะกรรมการดำเนินการพัฒนาหลักสูตร 3 ชุด คือ หลักสูตรพระวิทยากรกระบวนธรรม หลักสูตรพระวิทยากรบรรยายธรรม และหลักสูตรพัฒนาสื่อออนไลน์ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาหลักสูตรต่างๆดังกล่าวให้สอดคล้องกับแนวทางของคณะสงฆ์ นโยบายบ้านเมือง และทันต่อยุคสมัย เพื่อใช้ในการสนองงานคณะสงฆ์ต่อไป.
พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ)
ข่าว
พระราชกิจจาภรณ์,วัดสระเกศ,หลักสูตรพระวิทยากร,ศาสนา,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/912420
[ 0, 259, 137738, 116131, 38860, 119762, 14905, 52408, 61246, 49376, 6200, 52408, 3324, 224887, 26036, 259, 38058, 84281, 115167, 259 ]
เปิดวิธีลงทะเบียน คืนเงินประกันไฟฟ้า กรอกไม่กี่ข้อ เตรียมรอรับเงินคืน
เปิดขั้นตอน ลงทะเบียนการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า เฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัยและประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็กจากกรณีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเปิดให้ประชาชนทุกคนได้ลงทะเบียน รับสิทธิการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ตามมาตรการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ากรณีบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก ไปแล้วนั้นสำหรับขั้นตอน ลงทะเบียนคืนเงินประกันไฟฟ้า เฉพาะประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก มีดังต่อไปนี้1. เตรียมข้อมูล ชื่อ-นามสกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า หมายเลขบัตรประชาชน2. เข้าเว็บไซต์ลงทะเบียน (คลิกที่นี่)3. กรอกข้อมูล ชื่อ-นามสกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า หมายเลขบัตรประชาชน แล้วคลิก ตรวจสอบข้อมูล4. ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง5. กรอกเบอร์โทรศัพท์ เลือกช่องทางการรับเงิน และ คลิก ดำเนินการต่อสำหรับช่องทางการรับเงินเงินมีให้เลือก 4 ช่องทาง ดังนี้6. กรอกหมายเลขบัญชี หรือ หมายเลขพร้อมเพย์ ที่เลือกไว้ แล้ว คลิก ยืนยัน7. จากนั้นจะมีข้อความว่า ระบบได้ทำการลงทะเบียนให้ท่านแล้ว พร้อมขึ้นหมายเลขอ้างอิง8. รอรับ SMS ยืนยันผลการลงทะเบียนและแจ้งผลการคืนเงินให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทราบอย่างไรก็ตาม กฟภ. จะคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ให้แก่เจ้าของเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป.
เปิดขั้นตอน ลงทะเบียนการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า เฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัยและประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก
ข่าว,เศรษฐกิจ
คืนเงินประกันไฟฟ้า,ลงทะเบียนรับเงินค่าไฟ,รับเงินคืนการไฟฟ้า,ลงทะเบียนคืนเงินประกันไฟฟ้า,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคืนเงินประกัน,PEA,PEA คืนเงินประกัน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1803016
[ 0, 259, 132229, 55862, 15319, 120562, 68755, 57942, 259, 80046, 76027, 13999, 11103, 180135, 2091, 163578, 128067, 1, 0, 0 ]
ละมุนด้วยรัก…โย่ง อาร์มแชร์ เผยเคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่หอมหวานแฮปปี้
เห็นไปไหนมาไหนกันเป็นแพ็กคู่ตลอดสำหรับคู่สามี-ภรรยา โย่ง-อนุสรณ์ มณีเทศ หรือ โย่ง อาร์มแชร์ ศิลปินหนุ่มมาดเซอร์ ผู้กระตุกหัวใจสาวๆ ให้หวั่นไหวอย่างง่ายดาย และ ก้อย แซทเทอร์เดย์เซโกะ สาวติสท์ไอดอลเด็กแนวของใครหลายคน ล่าสุดเราได้เจอะเจอเขาทั้งคู่ในงานเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของแบรนด์ชุดชั้นใน Wacoal เลยขอดึงตัวมาเผยความรู้สึกชีวิตหลังแต่งงาน และเทคนิคการครองชีวิตคู่ให้แฮปปี้ โรแมนติกเว่อร์จนน่าอิจฉา รวมถึงมุมมองความรักในแบบของพวกเขาให้แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ได้ฟังกันสักหน่อย,ครั้งแรกที่เจอเธอ … ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ,ก้อยอาจจะไม่ใช่ ผู้หญิงที่ใช่ ตั้งแต่แรกเห็น แต่พอทำความรู้จักกันไปนานๆ ก็รู้สึกประทับใจ และหลงรักในความคิดของเธอ จริงๆ แล้วเราสองคนเจอกันบ่อยมากตามงานคอนเสิร์ต แต่ผมยังไม่เคยมีโอกาสได้นั่งคุยกัน หรือนั่งฟังที่ก้อยพูดเลย ครั้งแรกที่เจอและมีโอกาสพูดคุยก็ตอนที่ทั้งผมและก้อยไปให้สัมภาษณ์หนังสือเล่มหนึ่ง และไปถ่ายแฟชั่นปกเหมือนเป็นนักร้องรุ่นเดียวกัน ผมได้ฟังมุมมองความคิดก้อยในหลายๆ แบบ ก็รู้สึกว่าก้อยเป็นผู้หญิงที่แตกต่าง มีเสน่ห์ และน่าสนใจมาก นั่นก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราทั้งสองคนเริ่มทำความรู้จักกันอย่างจริงจัง,เสน่ห์ดึงดูดชวนหลงใหลของเธอ ,ตอนนี้แต่งงานกันมาได้ประมาณ 2 ปีนิดๆ แล้ว ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นก็คบกันมานานถึง 11 ปี เสน่ห์ของก้อยที่ดึงดูด และมัดใจผมตั้งแต่ครั้งแรกจนตอนนี้คงเป็นตรงที่ก้อยเป็นผู้หญิงแบบไร้ขีดจำกัด เธอมีความพิลึกบางอย่างที่มันมีเสน่ห์ ดูเพี้ยนๆ น่ารักดี ส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบอะไรที่มันดูสมบูรณ์แบบมากเพราะมันจะน่าเบื่อ ซึ่งก้อยสามารถตอบโจทย์ตรงนั้นในชีวิตของผมได้ดี ที่สำคัญก้อยเป็นคนที่มีวิธีการมองโลกแตกต่างจากคนทั่วไป จะเป็นในแง่มุมแบบฉบับของเธอเองและเป็นแง่มุมที่ดีมากด้วย,เส้นทางแห่งรักอันหอมหวาน,คู่เราโชคดีที่มีโอกาสเรียนรู้กันนาน ตั้งแต่แรกที่เราได้มีโอกาสเริ่มคุยกัน เราสองคนต่างเปิดใจรับกันและกัน แสดงตัวตน และไลฟ์สไตล์ของเราที่ชัดเจนออกมา ถ้าก้อยรับได้ หรือผมรับได้ก็โอเคเลยที่จะไปกันต่อ ช่วงเวลาที่เราสองคนเรียนรู้จนเข้าใจกัน ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ รู้จักตัวตนของอีกฝ่ายหนึ่งมากขึ้นก็เหมือนเราพร้อมที่จะเดินในทางของเราแล้ว ข้ามผ่านทุกปัญหา ทุกอุปสรรคไปด้วยกัน เราสองคนไม่ได้คบแค่เพียงผิวเผิน หากแต่จะใช้เวลาทุกวินาทีของเราให้มันมีค่ามากที่สุดจริงๆ ตั้งแต่ผมคบกับก้อยเราไม่เคยทะเลาะกันเลย มีแต่ที่จะเข้าใจ เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ การเจอใครสักคนที่ใช่มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้นเราทั้งสองก็จะพยายามรักษาความสัมพันธ์ในระยะที่พอเหมาะ ไม่มากไป และไม่น้อยไป ดูแลเอาใจใส่กันในทุกๆ วัน,เคล็ดลับประคับประคองความรักให้คบกัน (เป็นแฟน) นานๆ,เคล็ดลับง่ายมากๆ แค่ทำอะไรที่มีความหมายให้อีกฝ่ายรู้สึกดี หลายคนอาจมองว่าการเป็นแฟนกันมันคือพื้นที่แสดงออกในงานศิลปะของตัวเอง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะมันจะกลายเป็นการโยนให้อีกฝ่ายเป็นที่ระบายอารมณ์ หรือเป็นที่รองรับความห่วยที่คุณโดนมาจากข้างนอก อีกฝ่ายหนึ่งไม่จำเป็นต้องมาเปลี่ยนแปลง หรือมารองรับอะไรคุณเลย การเป็นแฟนกันให้คบกันได้นานๆ มันคือการแชร์กัน แบ่งปันกัน ใส่ใจต่อกัน และละมุนละม่อมให้กันในทุกเรื่อง วินาทีที่ดีที่สุดของการเป็นแฟนกันคือการได้นั่งคุยกันในเรื่องที่ไม่รู้จะคุยกับใคร,การคบกันในแบบที่เป็นได้ทั้งเพื่อนและแฟนก็สำคัญ เพราะความสัมพันธ์แบบที่เป็นเพื่อนกันมันยั่งยืน สนุก และสามารถลุย ไปไหนไปกันได้มากกว่า บางทีแค่ความเป็นแฟนมันก็น่าเบื่อไป ด้วยความที่แต่ละคนมีอีโก้ความเป็นตัวเองเยอะไป,มุมมองความรักของคนสมัยนี้ … เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก จนเป็นเรื่องธรรมดา ,มันมีหลายปัจจัยของแต่ละบุคคล บางคนอาจรับในตัวตนของกันและกันไม่ได้ หรือบางคนกำลังเป็นช่วงที่ตามหาอยู่ ไม่เจอสักทีก็ได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าคนเราสามารถหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้เสมอ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็จะอยู่กับสิ่งนั้นไปตลอดชีวิต,การแต่งงานแนวๆ สุดชื่นมื่น ,ความจริงแล้วคบกันเราสองคนไม่ได้ฟิกถึงเรื่องแต่งงานเลย ตราบใดที่เราเข้าใจกันและดูแลกันทุกวัน การแต่งงานก็แค่ตัวแปรหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะด้วยคู่เราชอบอะไรที่มันสนุกเหมือนอีเวนต์ ชอบมอบของขวัญให้อีกฝ่ายหนึ่ง และเพื่อเป็นการขอบคุณทุกๆ คนที่คอยเชียร์ความรักของเรามาโดยตลอด ตอบแทนทุกๆ คนที่มอบสิ่งดีๆ ให้แก่เราสองคน ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง หรือเพื่อนๆ ก็ตาม เราสองคนเลยคิดจัดงานแต่งงานขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนร่วมฉลองและสนุกด้วยกัน รวมทั้งการแต่งงานครั้งนี้ยังถือเป็นโอกาสมอบของขวัญชิ้นพิเศษสุดให้คนที่รักประทับใจไม่รู้ลืมด้วย,การใช้ชีวิตคู่เป็นเรื่องยาก … จริงหรือ ?,คู่อื่นๆ ไม่แน่ใจ แต่สำหรับคู่เรานั้นไม่ยากเลย เพราะด้วยความที่เราคบกันมานาน มันทำให้เราเข้าใจกัน และรู้จักตัวตนกันและกันมากอยู่แล้ว ซึ่งอย่างที่บอกบางทีการแต่งงานอาจไม่จำเป็นเลยก็ได้ เพียงแต่การแต่งงานมันคือการแสดงสถานะว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ดี การใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมันทำให้เราเปลี่ยนมุมมองบางอย่างไปจากเดิม มันมีอะไรที่มากกว่านั้น มันมีความหมายของมันอยู่ทุกฟังก์ชั่น อย่างน้อยก็ทำให้เราเห็นค่าของเวลา และการอยู่ด้วยกันมากขึ้น,ชีวิตคู่แฮปปี้เว่อร์,ชีวิตคู่ตอนนี้แฮปปี้ดีมาก เราไม่เคยทะเลาะ หรือมีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ไม่เข้าใจกันเลย เราค่อยๆ ปรับเรียนรู้กันมานาน 11 ปี จนตอนนี้ได้แต่งงานกัน ทำให้ทุกอย่างมันลงตัว ทั้งไลฟ์สไตล์ ทั้งทัศนคติต่างๆ เรารู้สึกว่าชีวิตคู่มันสนุก มันหวานขึ้น,บางครั้งการใช้ชีวิตคู่ก็ไม่เป็นดั่งใจเราปรารถนา,หลายคู่ที่ตกลงใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันแล้วต้องพังลงไป โดยส่วนตัวหลักๆ แล้วคิดว่าการเข้าใจตัวตน การรับฟังความคิดของอีกฝ่าย และการแชร์ทัศนคติร่วมกันเป็นเรื่องสำคัญมาก ส่วนใหญ่ที่เลิกกัน … ถ้าไม่เป็นเพราะตัวเขาเองไม่ดี ก็เป็นเพราะเขารับตัวตนของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ หลายคนพอมีแฟนแล้วก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะมาเปลี่ยน คบกันไปแรกๆ อาจจะยังไม่ปรากฏให้เห็น แต่พอคบกันนานวันเข้าก็ดูเหมือนเขาจะมาควบคุม บงการชีวิตให้ไม่เป็นตัวเอง เข้ามาลรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป และเป็นสาเหตุทำให้รับตัวตนอีกฝ่ายกันไม่ค่อยได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่ได้จะเข้ามาเปลี่ยน แต่แค่ปรับให้มันดีขึ้น หลายคนอาจคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันดีแล้วจนลืมมองกลับไปว่ามันดีจริงไหม พอเขามาปรับก็เลยรู้สึกว่ามันล้ำเล้น แต่แท้จริงแล้วไม่มีใครมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆ หรอก และไม่มีใครที่นิสัยดี เพอร์เฟกต์จริงๆ ทุกคนต้องมีการปรับด้วยกันทั้งนั้น,ใช้ชีวิตคู่ … ต้องระวัง ?,มันจะเป็นอะไรที่ดีมาก ถ้าก่อนแต่งงานได้มีการเรียนรู้ดูใจ ศึกษากันให้นานๆ และรู้จักตัวตนอีกฝ่ายจริงๆ ให้ดีเสียก่อน เพราะนั่นจะทำให้คุณรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และควรจะระวังในเรื่องอะไรมากที่สุด รวมถึงอีกมุมหนึ่งที่อีกฝ่ายอาจไม่เคยแสดงให้เห็น ถ้าคุณได้เห็นแล้วรับได้ มันก็เหมือนเป็นการก้าวข้ามบันไดผ่านไปอีกก้าวหนึ่งสำหรับชีวิตคู่ แต่ถ้าพูดถึงมุมมองชีวิตคู่จริงๆ แล้ว ในเรื่องของการแสดงออกต่อกัน การแสดงอารมณ์ และการพูดจาในเรื่องอะไรก็แล้วแต่เป็นสิ่งที่ควรระวังมาก คุณต้องนึกถึงและแคร์ความรู้สึกของคนที่คุณอยู่ด้วยให้มากที่สุด,บางคู่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้นาน ชีวิตคู่ก็ไปได้สวย,เพราะบางคู่อาจจะทำความรู้จักเรียนรู้กันเร็ว สานสัมพันธ์เร็ว ทำความเข้าใจในตัวตนกันและกันเร็ว แล้วคลิกกันก็ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนได้ การทำความรู้จักกันคือ การพูดคุย เรียนรู้ และยอมรับในตัวตนอีกฝ่ายได้ รับได้กับทุกๆ เรื่องที่เป็นเขา ไม่ว่าจะเป็นนิสัย ทัศนคติ ความคิด หรือแม้แต่ข้อเสียบางอย่างที่อาจขัดใจคุณบ้างในบางครั้ง ถ้าคุณโอเคนั่นก็แสดงว่าคุณพร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่กับเขาตลอดไปแล้วล่ะ,เทคนิคการใช้ชีวิตคู่ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ,ต้องกลับมาถามตัวเองก่อนว่ารักเขาจริงๆ ไหม ถ้ารักก็ต้องสามารถทำทุกอย่างเพื่อเขาได้ และต้องทำให้ได้ดีกว่าที่ทำให้ตัวเอง อย่างคู่ผมกับก้อยเราต้องคอยเติมเต็มความรักให้กันและกัน บอกรักในเวลาที่อยู่ด้วยกัน และมอบความรู้สึกดีๆ ให้กันตลอดเวลา เพราะการแสดงความรู้สึกดีๆ ให้กันเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับชีวิตคู่ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกขาด หรือคิดไปเองว่าเราไม่รักเขาแล้ว ที่จะเป็นเหตุนำพาให้เกิดการทะเลาะกันตามมา,สำหรับคู่ของเราสองคนแสดงออกทางความรักด้วยการกอด และการบอกรักกันในแบบที่เรารู้สึกจริงๆ ตลอดเวลาที่เรายังอยู่ด้วยกัน เราจะรู้สึกว่ามันมีค่าที่ยังมีใครสักคนหนึ่งให้เรายังบอกรักได้อยู่ แต่เหนือสิ่งอื่นใดไม่ต้องคิดหรอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน หรือวันข้างหน้าจะต้องเจออุปสรรคอะไรอีกบ้าง แค่ทำวันนี้ หรือทั้งอาทิตย์นี้ให้เต็มที่ เวิร์กที่สุดแล้วก็พอ
เห็นไปไหนมาไหนกันเป็นแพ็กคู่ตลอดสำหรับคู่สามี-ภรรยา โย่ง-อนุสรณ์ มณีเทศ หรือ โย่ง อาร์มแชร์ ศิลปินหนุ่มมาดเซอร์ ผู้กระตุกหัวใจสาวๆ ให้หวั่นไหวอย่างง่ายดาย และ ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ สาวติสท์ไอดอลเด็กแนว
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
โย่ง อาร์มแชร์,อนุสรณ์ มณีเทศ,Wacoal,เคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่,ชีวิตคู่หอมหวาน,ไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์,โย่งก้อย,ก้อย แซทเทอร์เดย์เซโกะ
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/465640
[ 0, 259, 142821, 1549, 73116, 7428, 142821, 8302, 74058, 187709, 2091, 162184, 38295, 2361, 126856, 175085, 1, 0, 0, 0 ]
เฟลไลนี ปัดถุยน้ำลายใส่ กุนเอฟเอเมินลงดาบ
มารูยาน เฟลไลนี ห้องเครื่องหัวฟูทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สับสื่อช่างเสี้ยมตีข่าวว่าตนไปถุยน้ำลายใส่ เซร์คิโอ อเกวโร ดาวเตะ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ทางสมาคมลูกหนังผู้ดียืนยันจะไม่มีการตั้งข้อหากับดาวเตะรายนี้,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 พ.ย. มารูยาน เฟลไลนี ห้องเครื่องหัวฟูทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปฏิเสธข่าวที่ว่าตนไปถุยน้ำลายใส่ เซร์คิโอ อเกวโร ดาวเตะ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา,ในเกมดาร์บี้แมตช์สุดสัปดาห์ นัดที่ ปิศาจแดง บุกไปพ่าย เรือใบสีฟ้า 0-1 ได้มีจังหวะภาพช้าที่แสดงให้เห็นว่ามีน้ำลายหยดออกมาจากปากของแข้งชาวเบลเยียมในขณะก้มหน้าลงไปต่อว่า อเกวโร ที่นอนอยู่กับพื้นสนามเพื่อเรียกจุดโทษ ทำให้มีคนมองว่า เฟลไลนี เจตนาถ่มน้ำลายใส่คู่แข่ง ในขณะที่อีกกระแสมองว่าเป็นเพียงจังหวะบังเอิญที่น้ำลายหกออกจากปาก ในขณะที่แข้งรายนี้กำลังตะโกนเท่านั้น,ล่าสุด กองกลางวัย 26 ปี ก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยบอกว่า พวกสื่อชอบสร้างเรื่องให้มันใหญ่โต ในตอนที่มันไม่มีอะไรเลย ขอบคุณนะนักข่าว,ขณะเดียวกัน ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ตั้งข้อหากับแข้งรายนี้ เนื่องจากมองว่า ดาวเตะ ผีแดง ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำพฤติกรรมที่น่ารังเกียจตามที่ถูกกล่าวหา โฆษกของสมาคมกล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพเหตุการณ์ทั้งหมด เอฟเอ ตัดสินใจที่จะไม่นำประเด็นนี้มาดำเนินการเพื่อลงโทษนักเตะ.
มารูยาน เฟลไลนี ห้องเครื่องหัวฟูทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สับสื่อช่างเสี้ยมตีข่าวว่าตนไปถุยน้ำลายใส่ เซร์คิโอ อเกวโร ดาวเตะ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ทางสมาคมลูกหนังผู้ดียืนยันจะไม่ตั้งข้อหา
พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,มารูยาน เฟลไลนี,ปิศาจแดง,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เซร์คิโอ อเกวโร,เรือใบสีฟ้า,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/461171
[ 0, 259, 74633, 7910, 67058, 92401, 259, 43632, 160405, 145688, 71810, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ระบุใบหน้าทหารในสมัยสงครามกลางเมือง
ภาพ : Ken Turner Collection,การระบุตัวบุคคลอาจเป็นสิ่งที่ยากหากใช้กับกลุ่มคนขนาดใหญ่ เพราะเสี่ยงที่จะผิดพลาดสูง แต่ก็ท้าทายนักวิทยาศาสตร์ เช่น เคิร์ท ลูเธอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แผนกวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ของสถาบันโพลีเทคนิคและมหาวิทยาลัยรัฐเวอร์จิเนีย ได้คิดค้นสร้างวิธีระบุตัวตนของทหารช่วงสงครามกลางเมืองในเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา,ด้วยซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า Photo Sleuth จะช่วยไขความลับภาพถ่ายประวัติศาสตร์สงครามกลางเมืองที่บันทึกไว้เกือบ 4 ล้านภาพ ซึ่งเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์สงครามกลางเมืองอเมริกา ในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย จะมีการทดสอบการใช้งานช่วงต้นเดือน พ.ค.ของปีนี้ ซึ่งโครงการสืบจากภาพถ่ายสงครามกลางเมืองได้รับทุนสนับสนุนหลักจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการบนเว็บหอจดหมายเหตุแห่งชาติในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อ 1 ส.ค.ปีที่แล้ว,ลูเธอร์เผยว่า กุญแจสู่ความสำเร็จหลังการเปิดตัวเว็บไซต์ดังกล่าว ก่อเกิดชุมชนผู้ใช้งานที่แข็งแรง มีผู้ใช้งานกว่า 600 รายส่งภาพถ่ายสงครามกลางเมืองมากกว่า 2,000 รูปมายังเว็บไซต์ในเดือนแรกหลังจากการเปิดตัว โดยครึ่งหนึ่งของภาพถ่ายเหล่านั้นไม่ปรากฏหลักฐาน และกว่า 100 ภาพที่ไม่มีใครรู้จักมีความเชื่อมโยงกับทหาร ผู้เชี่ยวชาญพบว่ากว่า 85% อาจถูกต้อง ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนกว่า 4,000 รายและมีรูปภาพมากกว่า 8,000 รูป.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์แผนกวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ของสถาบันโพลีเทคนิคและมหาวิทยาลัยรัฐเวอร์จิเนีย ได้คิดค้นสร้างวิธีระบุตัวตนของทหารช่วงสงครามกลางเมืองในเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา
ข่าว,ต่างประเทศ
Photo Sleuth,สงครามกลางเมือง,ระบุใบหน้าทหาร,ระบุตัวตนทหาร,ภาพถ่ายประวัติศาสตร์,พิพิธภัณฑ์สงครามกลางเมืองอเมริกา,ชื่นชีวิต,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1511236
[ 0, 259, 55667, 175049, 7960, 259, 84306, 40626, 30990, 259, 110597, 6582, 259, 218763, 69651, 193636, 23940, 3755, 107226, 41320 ]
เช็กกำหนดการใหม่ คอนเสิร์ต ละครเวที การแสดงบันเทิง ที่นี่
หลังจากที่ทางรัฐบาลประกาศให้สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสา 30 วัน และไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี ตลอดทั้งยุติงานรื่นเริงบันเทิงต่างๆ โดยคอนเสิร์ต การแสดงต่างๆ ถูกประกาศเลื่อน และยกเลิกไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา ล่าสุด ในวันนี้ (1 พ.ย.) ครม.มีมติเห็นชอบให้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.นี้ สามารถจัดงานรื่นเริงได้ รวมทั้งการจัดรายการโทรทัศน์ได้ตามปกติ,โดย ละครเวที, ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล, แสดงที่โรงละครรัชดาลัยเธียเตอร์ จากบทประพันธ์ ของ ประภัสสร เสวิกุล กำกับการแสดงโดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ นำแสดงโดย สินจัย เปล่งพานิช, แบงค์ ปรีติ บารมีอนันต์, แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ, อาร์ อาณัตพล ศิริชุมแสง, ลูกหว้า พิจิกา จิตตะปุตตะ, ปอ อรรณพ ทองบริสุทธิ์, กั้ง วรกร ศิริสรณ์, ปุยฝ้าย ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล, สิงโต สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล, ดาว ณัฐภัสสร สิมะเสถียร, เบญจณัฏฐ์ อักษรนันทน์, ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ จะเริ่มต้นการแสดงรอบแรกในวันพฤหัสฯ ที่ 17 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ณ โรงละครรัชดาลัยเธียเตอร์ ,นิทานหิ่งห้อย เดอะ มิวสิคัล, ละครร้องเพลงเฉลียง จัดแสดง ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน นำแสดงโดย โย่ง อาร์มแชร์, แนน สาธิดา, อาร์ม กรกันต์, แม็ก วีรคณิศร์, เน็ท กานดา ร่วมด้วย ครูรัก ศรัทธา, เหมี่ยว ปวันรัตน์, บุ๋มบิ๋ม สามโทน, นาย The Comedian, น้องอ๊ะอาย กรณิศ, น้องผิงหยาง ณัฐภัทร และนักแสดงอีกมากมาย โดยทีมผู้สร้าง โหมโรง เดอะมิวสิคัล ก็ได้มีกำหนดรอบการแสดงใหม่ทั้ง 9 รอบออกมาแล้ว ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2560 จนถึงวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560,คอนเสิร์ต ,True presents ETC Journey Concert, ของวง ETC ที่ต้องมีขึ้นในวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ไบเทค บางนา จะเลื่อนมาจัดในเดือน มิ.ย. 60 แต่จะเป็นวันไหนของ มิ.ย.นั้น จะมีประกาศที่แน่นอนจากทางค่ายอีกครั้ง,AOMG 2016 FOLLOW THE MOVEMENT IN BANGKOK, ที่จะขนศิลปินมาเพียบ ตั้งแต่ 2 แกนนำ Jay Park และ Simon Dominic แรปเปอร์โปรดิวเซอร์มากความสามารถ Gray แรปเปอร์ยอดนิยมดีกรีแชมป์ SMTM LOCO พร้อมด้วย DJ PUMPKIN ที่จะมาสปินแผ่นโชว์บีทเจ๋งๆ สไตล์ AOMG กำหนดเดิม 27 พ.ย. 2559 ปรับเป็นจะจัดงานขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2560 เวลา 18.00 น. ที่ BCC HALL เซ็นทรัลลาดพร้าว สำหรับบัตรจะเปิดให้จองในวันที่ 8 พ.ย. 59 เป็นต้นไป,สำหรับงานแฟนมีทติ้ง ,GFRIEND FAN MEETING IN BANGKOK 2017, แฟนมีตหกสาวเกิร์ลกรุ๊ป K-POP สุดน่ารัก จีเฟรนด์ ประกอบไปด้วยสมาชิก 6 สาว ได้แก่ โซวอน (Sowon), อึนฮา (Eunha), เยริน (Yerin), ชินบี (SinB) ออมจี (Umji) และ ยูจู (Yuju) ที่จะมาแสดงพลังของการเป็นเกิร์ลกรุ๊ป K-POP รุ่นใหม่ พร้อมทั้งโชว์ความสามารถและเสน่ห์อันเหลือล้นที่มัดใจแฟนเพลงในเกาหลีมาแล้ว ให้แฟนๆ ชาวไทยได้ใกล้ชิดแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ กำหนดเดิม 13 พ.ย. 2559 จะกลับมาจัดในวันที่ 8 เมษายน 2560 ณ เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์เฮ้าส์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์.,คอนเสิร์ต 4 โพดำ ตอน Black Magic มนต์ดำปิ๊ดปี๋ ของศิลปินแก๊ง 4 โพดำ กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ, แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น, โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และ ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ อาทิตย์ที่ 19-20 พฤศจิกายน 2559 ออกไปเป็น วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 (2 รอบการแสดง) เวลา 13.00 น. และ 19.30 น., วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 (1 รอบการแสดง) เวลา 17.00 น. ณ เมืองไทย Gmm Live House ศูนย์การค้า Central World ,ทางด้านช่อง ONE ก็จะเริ่มออกอากาศละครในวันที่ 14 พ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นละครเทิดพระเกียรติ เรื่อง เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะ ซีรีส์ ละครพิเศษที่จัดทำขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และหลังจากนั้นก็จะเริ่มออนแอร์ละครหลังข่าวตามปกติ ส่วนรายการอื่นๆ ของสถานีอาจจะต้องปรับเปลี่ยนให้ดูเหมาะสมสำหรับออกอากาศในช่วงนี้,ส่วนทางด้านสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล โมโน 29 ก็ได้เริ่มปรับผังรายการให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยได้เปลี่ยนภาพยนตร์ ซีรีส์ใหม่ทั้งหมด ให้มีเนื้อหาเป็นแนวครอบครัว สอนใจ สลับกับรายการสารคดีเกี่ยวกับพระราชประวัติ รวมทั้งการถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย. 
ครม.มีมติเห็นชอบให้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.นี้ สามารถจัดงานรื่นเริงได้ รวมทั้งการจัดรายการโทรทัศน์ได้ตามปกติ
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล,นิทานหิ่งห้อย เดอะ มิวสิคัล,OHM CHATREE LIVE 2016 REWAT FOREVER,ROCK IN PAIN CONCERT,90's Young Dance Concert,True presents ETC Journey Concert,LIPOVITAN-D PRESENTS MODERNDOG 22,คอนเสิร์ต,ละครเวที,ข่าว,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/770717
[ 0, 259, 121605, 176501, 259, 129206, 6088, 53377, 189223, 259, 140942, 212303, 78698, 4215, 94449, 261, 259, 27605, 44158, 14785 ]
การ ยึดหัวหาด กับกลยุทธ์เลือกตลาดเพื่อเริ่มธุรกิจ
สวัสดีค่ะอาจารย์ธีระ,ดิฉันเป็นนักศึกษาจบใหม่ค่ะ กำลังกลับมาช่วยงานที่บ้านที่ชลบุรี ที่ผ่านมาที่บ้านทำร้านขายอาหารเล็กๆ เช่าพื้นที่อยู่ในโรงงานในนิคมฯ ทั้งเป็นแบบข้าวแกง ตามสั่ง และอาหารกล่องค่ะ มีแม่และน้องๆ ช่วยกันทำค่ะ ตอนนี้ที่บ้านกำลังเจอปัญหาใหญ่คือโรงงานที่เราทำกับข้าวขายให้เป็นหลักกำลังจะปิดค่ะ แล้วทางนิคมฯ เขาก็ไม่ให้พื้นที่เราขายต่อแล้ว ดิฉันคุยกับน้องๆ ไว้ค่ะว่าคงต้องย้ายไปที่อื่น แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน ทะเลาะกับที่บ้านเพราะแม่อยากให้ย้ายไปขายที่โรงงานอื่นๆใกล้ๆ กัน แต่ดิฉันกับน้องอยากให้ย้ายไปที่อื่นที่มีคนหลายประเภทกว่า แล้วโรงงานอื่นๆ ที่ไปติดต่อเขาก็มีร้านประจำอยู่แล้ว เรามีเงินเก็บไม่มากถ้าย้ายไปแล้วไม่ดี พลาดเราก็หมด มันทำให้ดิฉันรู้สึกเครียด ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เถียงกันตลอด ไม่ทราบอาจารย์มีอะไรแนะนำเกี่ยวกับปัญหาแบบนี้บ้าง,                                                                                                                                           อรนุช,location, location, location การเลือกสถานที่สำคัญเสมอ ไม่ว่าจะกับธุรกิจประเภทใด โดยเฉพาะกับธุรกิจที่ต้องเริ่มตั้งต้นใหม่ อย่างที่คุณอรนุชว่า ในบางสถานการณ์ที่เรามีทุกอย่างเป็นเดิมพัน ถ้าเราพลาดเราก็หมด,ก่อนที่จะตอบคำถามคุณอรนุช ผมขอหยิบเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มาเล่าให้ฟังสักเรื่องหนึ่ง,ย้อนเวลากลับไปสักประมาณ 60 กว่าปี โลกของเราตกอยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างฝ่ายนาซีเยอรมัน และฝ่ายสัมพันธมิตรที่ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และอีก 11 ประเทศในยุโรป ในขณะที่สงครามดำเนินไปอย่างตึงเครียด กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรประสบความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า การส่งกำลังไปช่วยเหลือจากอเมริกาและการสู้รบในยุโรปประสบความล้มเหลว ถูกฝ่ายนาซีรบชนะเข้ายึดพื้นที่ไปทั่วยุโรปจนแทบไม่มีที่ยืน เหล่าผู้นำฝ่ายสัมพันธมิตรรีบเข้าประชุมหารือตรงกันว่าต้องรวมพลังกันยึดพื้นที่กลับให้ได้ ไม่งั้นแพ้แน่นอน,แต่จะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ? เพราะชายฝั่งแอตแลนติกของยุโรปนั้นถูกฝ่ายนาซียึดพื้นที่ไปแทบจะหมดแล้ว,หลังจากการวิเคราะห์ภูมิประเทศและปัจจัยของตัวเลือกต่างๆ แล้ว กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรได้เลือก ,ยกพลขึ้นบก ,ที่ชายหาด ,นอร์มังดี, ประเทศฝรั่งเศส จนเป็นที่มาของปฏิบัติการ ,D-Day, ในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1944 ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรเข้าปะทะนาซีเยอรมันอย่างดุเดือด ซึ่งแม้ว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะได้รับชัยชนะ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4 พันคน และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 2 หมื่น,เรื่องราวหลังจากนั้นก็เป็นดังเช่นประวัติศาสตร์ที่พวกเราได้อ่านกันในหนังสือ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือเหตุผลว่าทำไมท่านนายพลถึงได้เลือกยกพลขึ้นบกที่ นอร์มังดี ทั้งที่มีทหารนาซีเตรียมตั้งรับอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีจุดยุทธศาสตร์อื่นๆ ให้เลือกมากมายตามชายหาดฝรั่งเศสที่ทอดยาว หากพิจารณาตามเหตุผลแล้วจะเห็นว่าฝ่ายสัมพันธมิตรไม่ได้สุ่มเลือกที่นี่ แต่สำหรับปฏิบัติการ D-Day แล้ว นอร์มังดีเป็นพื้นที่ที่ต้องยึดมาให้ได้,หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า, ยึดหัวหาด, กันมาบ้างครับ ในเชิงธุรกิจการยึดหัวหาดคือการเลือกตลาดเริ่มต้นเพื่อเข้าแข่งขัน ใครที่ยึดหัวหาดได้ก่อนก็จะมีข้อได้เปรียบในการขายหรือต่อยอดในพื้นที่นั้นๆ ดังคำกล่าวที่ว่าจุดเริ่มต้นของกลยุทธ์ธุรกิจนั้นมาจากยุทธศาสตร์การสงคราม การเริ่มต้นธุรกิจนั้นต้องเลือกตลาดด้วยความคิดและเหตุผลที่ชาญฉลาด การเลือกพื้นที่เพื่อเข้ายึด ,ตลาดหัวหาด, จึงไม่ต่างอะไรจากยุทธศาสตร์สงคราม ลองมาพิจารณากันนะครับว่า ,หัวหาด, ที่ควรเริ่มเข้ายึดนั้นควรมีลักษณะอย่างไรบ้าง,มีช่องว่างและสร้างที่ยืนได้ทันที,คุณสมบัติประการแรกของตลาดหัวหาดที่ดีคือต้องมีช่องว่างให้เรายืน หรือถ้าตลาดนี้ไม่มีช่องว่าง เราสามารถสร้างมันขึ้นมาเองได้ไหม ช่องว่างในที่นี้อาจหมายถึงระยะห่างระหว่างอุปสงค์และอุปทาน (Supply vs Demand) ในพื้นที่ หรืออาจหมายถึงสินค้าบริการของเรามีข้อแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ ส่วนที่ยืนนั้นหมายถึง ,รายได้, ที่ทำให้ธุรกิจเราคงอยู่ครับ เมื่อเราเริ่มธุรกิจอาจเห็นช่องว่างในตลาดใหม่ที่ดูหอมหวาน แต่อย่าลืมพิจารณาว่าเมื่อปักหลักเริ่มตรงนั้นแล้ว เราสามารถเปลี่ยนโอกาสนั้นมาเป็นลมหายใจต่อให้ธุรกิจของเราได้หรือไม่ บางตลาดดูดีแต่ไม่มีลูกค้าที่ยอมจ่ายเงินเพียงพอจะต่อยอดธุรกิจ,หาดนอร์มังดี แม้จะมีคลื่นลมแรงยากต่อการนำเรือเข้าเทียบ แต่ก็มีชายฝั่งที่เป็นทรายเรียบกว้างพอที่จะตั้งเป็นที่มั่นให้กับกองทัพจำนวนมากได้ผิดกับพื้นที่อื่นๆ ที่เทียบท่าได้ง่ายกว่า แต่มีพื้นที่ติดหน้าผามีความกว้างไม่มากพอ ส่วนพื้นที่ที่ลำบากต่อการทอดสมอฝ่ายสัมพันธมิตรได้แก้ไขโดยการดัดแปลงเรือเคลื่อนพลให้มีความแตกต่าง เหมาะกับการทอดสมอในน้ำตื้น,สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน,ไม่ว่าจะตลาดใหญ่หรือตลาดเล็ก ถ้าเริ่มธุรกิจใหม่ในตลาดหัวหาดที่เหมาะสมเราต้องสามารถสร้างส่วนแบ่งตลาด หรือ Market Share ที่ชัดเจนได้ทันที,อย่าลืมนะครับว่าการแข่งขันในธุรกิจสมัยนี้เป็นไปในรูปแบบของปลาใหญ่กินปลาเล็ก หากธุรกิจใหม่ของเราเริ่มเข้าตลาดแล้วไม่สามารถสร้างความแตกต่างหรือส่วนแบ่งตลาดได้ชัดเจนได้ในเวลาที่รวดเร็ว ธุรกิจที่เป็นเจ้าถิ่นประจำอยู่แล้วมักมีสายป่านและชื่อเสียงที่ยาวนานกว่า ถ้าปรับตัวได้ทันก็จะหันมาแย่งตลาดคืนไปจากเรา,อีกหนึ่งสาเหตุที่ฝ่ายสัมพันธมิตรเลือกขึ้นบกที่หาดนอร์มังดี ก็เพราะมีกองทัพนาซีเยอรมันประจำการอยู่บางเบาเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น เมื่อเข้าทำการบุกแล้วสามารถยึดครองพื้นที่หน้าหาดและตั้งรับควบคุมพื้นที่โดยรอบได้ทั้งหมด,สนับสนุนการขยายฐานไปยังตลาดข้างเคียง,หนึ่งในสาเหตุที่เราเรียกว่าตลาดหัวหาด เพราะเป็นพื้นที่ที่ต้องช่วงชิงให้ได้ก่อนเพื่อขยายผลไปยังเป้าหมายที่ใหญ่ยิ่งกว่า ดังนั้นตลาดหัวหาดที่น่าเข้าไปทำจึงควรต้องมีคุณสมบัติที่เอื้อให้เราสามารถขยายผล ขยายธุรกิจได้ตามยุทธศาสตร์ที่เราวางไว้,เห็นได้บ่อยๆ ในวิธีทำธุรกิจแบบ ,ป่าล้อมเมือง, ที่ผู้ประกอบการค่อยๆ ขยายกิจการแบบรุกคืบ เข้ายึดตลาดหัวหาดที่เล็กกว่าในแต่ละพื้นที่เพื่อหาช่องทางเจาะเข้าไปในตลาดใหญ่ที่มีการแข่งขันสูง วิธีการเลือกตลาดที่ดีพื้นที่เป้าหมายต้องรองรับการขยายฐานต่อยอดครับ,กลับมาที่คำถามของคุณอรนุช ลองเอาเหตุผลและเรื่องที่ผมเล่านี้มาประกอบการพิจารณาดูว่า ,หัวหาด, ตลาดใดที่น่าจะเอาธุรกิจของคุณไปยกพลขึ้นบกครับ,ธีระ กนกกาญจนรัตน์,http://www.facebook.com/SMECompass
location, location, location การเลือกสถานที่สำคัญเสมอ ไม่ว่าจะกับธุรกิจประเภทใด โดยเฉพาะกับธุรกิจที่ต้องเริ่มตั้งต้นใหม่ อย่างที่คุณอรนุชว่า ในบางสถานการณ์ที่เรามีทุกอย่างเป็นเดิมพัน ถ้าเราพลาดเราก็หมด
เข็มทิศSME,เอสเอ็มอี,ป่าล้อมเมือง,ยึดหัวหาด,ธีระ กนกกาญจนรัตน์,คอลัมน์ไทยรัฐ,ธุรกิจ,ทำธุรกิจ,กลยุทธ์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/497561
[ 0, 259, 142219, 204425, 12682, 259, 100694, 4188, 76464, 6582, 51523, 110823, 5269, 30571, 1549, 76005, 46190, 1, 0, 0 ]
วงเสวนา ประเมิน พลังประชารัฐ โอกาสสูงตั้งรัฐบาล ฟันธงอยู่ไม่นาน
วงเสวนา ประเมินหลัง กกต.รับรอง ส.ส. พลังประชารัฐ มีโอกาสสูงตั้งรัฐบาล ฟันธงอยู่ได้ไม่นาน ทำงานในสภาลำบาก เผชิญข้อท้าทายหลายอย่าง บิ๊กตู่ ตกเป็นเป้าฝ่ายค้านรุมถล่ม ชงข้อเสนอใช้ระบบรัฐสภา หาทางออก,เมื่อวันที่ 9 พ.ค. มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และคณะกรรมการญาติพฤษภา 35 จัดงานเสวนาภาคประชาชน ในหัวข้อ แสงสว่างการเมืองไทย ทางเลือกประชาชน ยุคเปลี่ยนผ่านเผด็จการสู่ประชาธิปไตย โดยมีนักวิชาการและตัวแทนภาคประชาสังคม ร่วมประเมินสถานการณ์การเมือง หลังกกต. รับรอง ส.ส. และกำลังเข้าสู่กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมมีข้อสรุปร่วมกันว่า การแก้ไขปัญหาทางการเมืองนับจากนี้ ควรแก้ไขตามวิถีทางรัฐธรรมนูญและใช้ระบบรัฐสภาเพื่อหาทางออก,นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเปิดการเสวนา ว่า จากวิธีคิดคำนวณคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา หากพรรคการเมืองรู้สึกว่ากระทบสิทธิ์ สามารถร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน แม้เบื้องต้นหลายฝ่ายมองว่าพรรคพลังประชารัฐ มีโอกาสสูงที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ต้องเผชิญข้อท้าทายหลายอย่าง และไม่มีมาตรา 44 เหมือน 5 ปีที่ผ่านมา,ขณะที่ นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่เกิดขึ้นมีความซับซ้อนและไม่แน่นอนสูง เพราะการเมืองอยู่ในภาวะปรับเปลี่ยนดุลภาพ ทั้งการแข่งขันทางอำนาจระหว่างขั้วการเมืองเก่าและใหม่ ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่สะสมมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และความเปราะบางของระบบรัฐสภา ด้วยเงื่อนไขรัฐธรรมนูญอาจทำให้รัฐบาลที่เกิดขึ้น ดำรงอยู่ได้ไม่นาน,นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า ระบบการเมืองเอื้อต่อการสืบทอดอำนาจให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่แล้ว แต่คาดการณ์ต่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้ จะอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากผลการเลือกตั้งเสียงฝ่ายรัฐบาลปริ่มน้ำ อาจทำให้รัฐบาลที่เกิดขึ้นนับจากนี้ต้องเผชิญข้อท้าทายหลายด้าน แม้จะตั้งรัฐบาลได้ แต่ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้ยาก เนื่องจากเสียงฝ่ายรัฐบาลขาดคะแนนเสียงสนับสนุนหากนำเสนอนโยบายในรัฐสภา ซึ่งการทำงานในสภาจะลำบาก และตัวพลเอกประยุทธ์ จะถูกฝ่ายค้านอภิปรายถึงผลงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมา,นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า หากพลเอกประยุทธ์ ได้สืบทอดอำนาจ อาจอยู่ได้ไม่นาน หรือเพียง 3 เดือนเท่านั้น เพราะคนไทยผิดหวังในผลงานตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตรวจสอบ แม้ไม่มีมาตรา 44 แล้ว ยังมีเครือข่ายทหารในรัฐสภาและมีคนพร้อมทำหน้าที่แทน พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนออกใช้สิทธิ์ของตนเองตรวจสอบเรียกร้องความถูกต้อง ซึ่งจะนำพาประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยได้,นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวสะท้อนความเห็นในมุมภาคประชาสังคม ที่คาดหวังให้แก้ไขเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมากลับไม่ได้รับการแก้ไข เพราะผู้มีอำนาจเอื้อประโยชน์แก่ทุนขนาดใหญ่ แต่มีโอกาสสูงที่รัฐบาลชุดใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน อย่างน้อยก็คาดหวังให้รัฐบาลแก้ไขกติกาและวิธีการที่ไม่เป็นธรรม และให้โอกาสประชาชนได้เลือกตั้งใหม่.
วงเสวนา ประเมินหลังกกต.รับรอง ส.ส. พลังประชารัฐ มีโอกาสสูงตั้งรัฐบาล ฟันธงอยู่ได้ไม่นาน ทำงานในสภาลำบาก เผชิญข้อท้าทายหลายอย่าง บิ๊กตู่ ตกเป็นเป้าฝ่ายค้านรุมถล่ม
เลือกตั้ง
รัฐบาลใหม่,จัดตั้งรัฐบาลการเมืองหลังกกต.รับรองส.ส.,พลังประชารัฐ,รัฐบาลใหม่อยู่ไม่นาน,ประเมินการเมือง,รัฐบาลใหม่อยู่ยาก,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1564330
[ 0, 259, 97003, 31542, 11867, 259, 51523, 72338, 16053, 230575, 9542, 221873, 2091, 12066, 27935, 89153, 156417, 1, 0, 0 ]
หลงหลานหนักมาก ปู่หนิง ไปเยี่ยม น้องโพธิ์ หลานชายตัวน้อยซุกอกนอนนิ่ง
หมวยแซบ รายงานข่าวซ่าส์ ณ บัดนี้,ไม่เห่อ ก็หลงกันทั้งบางแล้วนี่ อาหนิง–นิรุตติ์ ศิริจรรยา ที่ ชาคริต แย้มนาม รักและเคารพเสมือนญาติผู้ใหญ่ ไปเยี่ยม น้องโพธิ์ หลานชายตัวน้อยซุกอกนอนนิ่งให้อุ้มไม่โยเย หล่ออบอุ่นเหมือนตอนอยู่กับ พ่อชาคริต เป๊ะ, , ,เพิ่งปล่อยเอ็มวีเพลง ปล่อยไปตายโลด ของสาวอีสานลูกทุ่งมหัศจรรย์ ธัญญ่า อาร์สยาม ก็ได้ดังเปรี้ยงสมใจ เพราะตอนนี้คนเข้ามาชมเอ็มวียอดวิวถึง 5 ล้านวิว ภายใน 7 วัน สาวธัญญ่า ไม่ต้องไปแก้บนที่ไหน เพราะเพลงนี้ทั้งมันส์ทั้งโจ๊ะ ทั้งร็อกและลำซิ่งแดนซ์ ถูกใจขาเลาะกันไม่ยาก จากทีแรกทำเอา ธัญญ่า นั่งลุ้นใจแทบขาด แทบไม่ได้กินได้นอนกันเลยทีเดียว ตอนนี้ก็ยิ้มแฉ่งสิค้ารออะไร.,ฟินกันทั่วหน้ากับกิจกรรม GET AWAY OUT BY HONDA HR–V คลื่น GET 102.5 พาผู้เข้าร่วมกิจกรรมตะลุยหัวหิน มี ดีเจแบม–ปีติภัทร คูตระกูล อาสาพาไปพักผ่อนพร้อมทำกิจกรรม Workshop มากมาย อาทิ การฝึกถ่ายภาพอาหารโดยโทรศัพท์มือถือ โดย ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ มาร่วมถ่ายทอดความรู้ รวมไปถึง Workshop DIY Summer Mocktail ที่ AVANI Hua Hin Resort & Villas.,บุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จัดงานแถลงข่าวการผนึกกำลังร่วมกัน ในการนำซีรีส์และรายการคุณภาพจากช่อง GMM 25 (จีเอ็มเอ็ม 25) รวม 200 ชั่วโมง มาให้รับชมทางแอปพลิเคชัน Viu และ viu.com วิดีโอสตรีมมิ่งความบันเทิงทั่วเอเชียแบบถูกลิขสิทธิ์--ว้าว,หนุ่มหล่อหัวใจสีเขียว ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร หวานใจสาวนุ่น–ศิรพันธ์ ที่หันไปคลุกคลีในวงการอีโค่ดีไซน์มานานนับสิบปี แถมมุ่งมั่นใช้ชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุด หนุ่มท็อป เตรียมมาแชร์ไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อมกับ ซีพี ออลล์ ที่งานเปิดตัว โครงการคิดถุ๊ง คิดถุง ซีซัน 6 รักษ์อันดามัน ร่วมใจลดใช้ถุงพลาสติก วันที่ 22 พ.ค.นี้ เวลา 13.30 น. ที่โกลว์ฟิช ห้องกรีนโซน ชั้น 2 อาคารสาธรธานี 2 แยกช่องนนทรี.,ผ่างผ่างงง ตัวกลับเกาหลีไปล่ะ แต่ทำสาวไทยยังน้ำลายหกไม่หายเลย รู้มั้ย? ลงภาพนุ่งผ้าเช็ดตัว โชว์อกล่ำ กล้ามเป็นลอนๆ ภาพเดียว ทำให้รู้จัก นิชคุณ หรเวชกุล ศิลปินเกาหลีหัวใจไทยมากยิ่งขึ้น ร้อง เต้น แสดงหนัง น้อง.พี่.ที่รัก เก่ง น่ารัก นิชคุณว่ากะโชว์แค่นิดเดียว ไม่คิดว่าจะไลค์กันเป็นแสนขนาดนี้ นิชคุณ บอกที่ลงไอจีแค่น้ำจิ้ม มีเด็ดกว่านี้ อู้ยย งั้นเตรียมจิบน้ำรอเพราะของจริงมาเมื่อไหร่ สาวไทยคงได้แซ่บซี้ดดกันชัวร์,หมวยแซบ
ไม่เห่อ ก็หลงกันทั้งบางแล้วนี่ อาหนิง–นิรุตติ์ ศิริจรรยา ที่ ชาคริต แย้มนาม รักและเคารพเสมือนญาติผู้ใหญ่ ไปเยี่ยม น้องโพธิ์ หลานชายตัวน้อยซุกอกนอนนิ่งให้อุ้มไม่โยเย หล่ออบอุ่น
หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา,ชาคริต แย้มนาม,ท็อป พิพัฒน์,นิชคุณ หรเวชกุล,ซุบซิบกับหมวยแซบ,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1287452
[ 0, 259, 97354, 218728, 259, 42174, 6200, 21779, 3945, 130726, 259, 38295, 2091, 55667, 13094, 221847, 221819, 215142, 137947, 1 ]
ไวกิ้งเมาคลั่ง แทงคอสาวบาร์
เจ็บปางตาย เจ้าตัวกลัวผิด โดดคอนโดฯ ร่างเละสยอง,2 หนุ่มนอร์เวย์ชักชวนกันไปเที่ยวดื่มกินในสถานบันเทิงเมืองพัทยา หลังเมาได้ที่ชักชวน 2 สาวบาร์เบียร์ไปดื่มกินต่อที่ห้องพัก กระทั่งสุราหมดขวด ระหว่างเพื่อนเป็นเจ้าของห้องออกไปซื้อสุรามาดื่มกินต่อ เกิดเมาเพี้ยนใช้มีดแทงคอหนึ่งในสาวบาร์เบียร์ปางตาย หลังก่อเหตุปีนระเบียงดิ่งจากชั้น 10 ลงมาร่างกระแทกพื้นตายสยองหนีความผิด,หนุ่มนอร์เวย์เมาเพี้ยนมีดกะซวกสาวไทยแล้วกระโดดคอนโดฯหนีความผิดรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 พ.ค. ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีชาวต่างชาติใช้มีดทำร้ายร่างกายสาวไทยได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วกระโดดตึกลงมาเสียชีวิต เหตุเกิดที่วิวทะเลคอนโดมิเนียม โครงการ 3 ซอย 6 ถนนพระตำหนัก พัทยาใต้ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า หัวหน้างานสอบสวน พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์–ธรรมสถานเมืองพัทยา,ที่เกิดเหตุบริเวณพื้นหน้าตึกบี พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.นงคราญ สอนดี อายุ 29 ปี เป็นชาว จ.สุรินทร์ สภาพถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าที่ลำคอและศีรษะเป็นแผลเหวอะหวะเลือดไหลท่วมตัวอาการสาหัส โดยมี น.ส.ณัฐกานต์ เขตแวงควง อายุ 45 ปี เพื่อนสาวชาวไทยนั่งประคองร่างอยู่ใกล้ๆ หน่วยกู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นนำตัวส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล ส่วนที่พื้นหน้าบันไดทางขึ้นคอนโดฯ พบศพชายชาวต่างชาติทราบชื่อนายเฟิร์ด ไม่ทราบนามสกุล อายุ 40 ปี ชาวนอร์เวย์ ลักษณะศพนอนหงาย แขน ขาหัก ศีรษะแตก ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาล ตามร่างกายมีแผลถลอกหลายแห่ง ค้นในตัวพบเข็มฉีดยา 1 ชุด ห่างออกไปเล็กน้อยพบมีดทำครัวเปื้อนเลือดตกอยู่ในพุ่มต้นดอกเข็ม 1 เล่ม ทราบว่าเป็นมีดที่นายเฟิร์ดใช้ทำร้าย น.ส.นงคราญเก็บไว้เป็นหลักฐาน,ใกล้กันพบนายเกียร์ อูโน่ เทมเพลท อายุ 35 ปี ชาวนอร์เวย์ เพื่อนของผู้ตายยืนร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ก่อนจะพาตำรวจขึ้นไปตรวจสอบภายในห้องพักหมายเลข 441/159 ชั้น 10 เป็นห้องพักของนายเกียร์ พบร่องรอยการต่อสู้ข้าวของแตกกระจัดกระจายเกลื่อน และมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณห้อง ส่วนบริเวณหลังห้องเป็นจุดที่นายเฟิร์ดกระโดดลงมา พบคราบเลือดเปื้อนอยู่ที่ราวระเบียง ตำรวจสอบปากคำนายเกียร์ให้การว่า ซื้อห้องดังกล่าวพักอาศัยอยู่นานกว่า 2 ปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุเมื่อกลางดึกของวันที่ 28 พ.ค.ได้ชักชวนนายเฟิร์ดผู้ตายไปเที่ยวดื่มกินที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ หลังมึนเมาได้ชักชวน น.ส.นงคราญ กับ น.ส.ณัฐกานต์ทำงานเป็นสาวบาร์เบียร์ไปดื่มกินต่อที่ห้องพัก กระทั่งถึงเช้าสุราหมดตนอาสาออกไปซื้อสุรา แต่พอกลับขึ้นไปที่ห้องพบว่า น.ส.นงคราญถูกนายเฟิร์ดใช้มีดแทงบาดเจ็บ ส่วนนายเฟิร์ดปีนระเบียงหลังห้องแล้วกระโดดลงมาฆ่าตัวตายหนีความผิด ตนกับ น.ส.ณัฐกานต์ ช่วยกันนำ น.ส.นงคราญ ผู้บาดเจ็บลงลิฟต์มายัง ชั้นล่าง ขอความช่วยเหลือหน่วยกู้ภัยนำตัวส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล,ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา เจ้าของคดี เผยว่า จากการสอบปากคำ น.ส.ณัฐกานต์เพื่อนคนเจ็บ ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังแต่งตัวอยู่ในห้องนอน ได้ยินเสียง น.ส.นงคราญ ซึ่งอยู่ในห้องโถง ร้องขอความช่วยเหลือบอกว่าถูกนายเฟิร์ดใช้มีดแทง ด้วยความตกใจรีบออกไปดู พบ น.ส.นงคราญนั่งอยู่ในสภาพเนื้อตัวโชกไปด้วยเลือดระหว่างนั้นนายเกียร์ที่ออกไปซื้อสุรากลับเข้ามาในห้องพักพอดีเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ส่วนนายเฟิร์ดมือมีดหลังก่อเหตุวิ่งไปที่หลังห้องปีนระเบียงแล้วกระโดดลงมา ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิต สาเหตุไม่ทราบแน่ชัดว่ามาจากเรื่องอะไรกันแน่ เบื้องต้นตำรวจได้ส่งศพนายเฟิร์ดไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ อีกครั้ง พร้อมกับแจ้งให้สถานทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทยทราบเพื่อประสานญาติมารับศพต่อไป สาเหตุที่แท้จริงคงต้องรอให้ น.ส.นงคราญ หายดีก่อน จึงจะทราบ
2 หนุ่มนอร์เวย์ชักชวนกันไปเที่ยวดื่มกินในสถานบันเทิงเมืองพัทยา หลังเมาได้ที่ชักชวน 2 สาวบาร์เบียร์ไปดื่มกินต่อที่ห้องพัก กระทั่งสุราหมดขวด ระหว่างเพื่อนเป็นเจ้าของห้องออกไปซื้อสุรามาดื่มกินต่อ
ข่าวหน้า1,ไวกิ้ง,เมาคลั่ง,สาวบาร์,โดดคอนโด,เกียร์ อูโน่ เทมเพลท,นงคราญ สอนดี,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/628095
[ 0, 259, 97354, 4388, 47129, 207053, 12066, 227475, 138673, 64388, 36247, 11984, 2091, 32087, 75623, 6088, 209131, 189078, 169246, 1 ]
หนังสือเล่มพิเศษ (4)
(ภาพจาก : ,เฟซบุ๊กสานต่อที่พ่อทำ,),หนังสือ THE VISIONARY ถอดรหัสกษัตริย์ผู้มองเห็นอนาคต ซึ่งจัดทำโดยทีมงานสานต่อที่พ่อทำ ระบุถึงการสร้างเครือข่ายในฝันที่ว่านี้ให้กลายเป็นจริงในเรื่องการสื่อสาร,นอกจากการใช้เครือข่ายการสื่อสารเพื่อเก็บข้อมูล เพื่อติดต่อประสานงานแล้ว ในหลวงทรงใช้เครือข่ายนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการที่ท่านได้เริ่มไว้ จนกว่าโครงการนั้นๆจะสำเร็จลุล่วง,มีเรื่องเล่าว่าเมื่อครั้งที่ คุณเกรียงศักดิ์ หงษ์โต ได้รับคำสั่งให้เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาเขาหินซ้อน จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อปี 2537 ซึ่ง ณ ตอนนั้นในหลวงไม่ได้เสด็จฯมาหลายปีแล้ว สภาพเขาหินซ้อนเสื่อมโทรมลงมาก,แต่คุณเกรียงศักดิ์ก็ตั้งใจจะพลิกฟื้นให้ศูนย์พัฒนาเขาหินซ้อนกลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง นับแต่นั้น ทุกวันพุธคุณเกรียงศักดิ์จะทำรายงานความคืบหน้าของโครงการต่างๆส่งไป แม้จะไม่รู้ว่าในหลวงได้ทรงอ่านหรือไม่ แต่ก็ยังคงทำแบบนี้อยู่ถึงสามปีเต็ม,จนวันหนึ่งในหลวงมีรับสั่งกลับมาว่าจะเสด็จฯไปดูความคืบหน้าของโครงการที่เขาหินซ้อนอีกครั้ง หลังจากที่พระองค์ทรงติดตามความสำเร็จจากรายงานที่คุณเกรียงศักดิ์ส่งไปให้มาตลอดสามปีนั่นเอง,นี่คือหลักฐานที่ทำให้เราเห็นว่าการสื่อสารทำให้โครงการอันยาวนานของในหลวงสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ตัวท่านไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นั่นเลยด้วยซํ้า,ตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นครองราชย์ ในหลวงทรงให้ความสำคัญกับการ connect การเชื่อมต่อผู้คน ประชาชน คนทำงาน และพระองค์เองเข้าด้วยกัน เป็นเหตุผลให้ทรงต้องจริงจังกับการเฟ้นหาอุปกรณ์และวิธีการสื่อสารที่ดีที่สุดและเหมาะกับการทำงานที่สุด,และสิ่งสำคัญที่สุดนอกเหนือไปจากการเชื่อมต่อคือการติดตามงาน เพราะการทำงานจะไม่สามารถคืบหน้าหรือมีทิศทางไปได้ดีเลย หากทุกการ connect ขาดการ stay connected,ด้วยเครื่องมือที่มีทำให้ในหลวงสามารถติดตามโครงการต่างๆ ไปได้ทุกที่ ทำงานได้ในทุกเวลา และเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า อะไรที่ทำให้โครงการมากมายถึง 4,685 โครงการที่กระจายอยู่แทบทุกภูมิภาคของประเทศไทยเกิดขึ้นและดำเนินการไปได้ด้วยดี,ก็เพราะพระองค์ทรงทำทุกอย่างไปพร้อมๆกัน ด้วยระบบโครงข่ายการสื่อสารที่เชื่อมร้อยทุกโครงการให้มาอยู่ภายในห้องทรงงานของพระองค์นั่นเอง,ย้อนกลับไปช่วงต้นของหนังสือเล่มนี้ที่เป็นคำตอบสำหรับทุกเรื่องก็คือ ในหลวงเคยให้สัมภาษณ์แก่นักข่าวสถานีโทรทัศน์ BBC ที่ถามว่า ทำไมท่านต้องมีเครื่องมือสื่อสารในห้องทรงงานมากมายเช่นนี้ว่า เครื่องมือสื่อสารนี้ มีประโยชน์ในการติดตามข่าวสาร หากมีภัยพิบัติต่างๆ จะทำให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที,เพราะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ ทางเดียวที่พระองค์ทำได้คือต้องมีข้อมูลที่อัปเดตอยู่เสมอ.,ซี.12,หนังสือเล่มพิเศษ,หนังสือเล่มพิเศษ (2),หนังสือเล่มพิเศษ (3)
หนังสือ THE VISIONARY ถอดรหัสกษัตริย์ผู้มองเห็นอนาคต ซึ่งจัดทำโดยทีมงานสานต่อที่พ่อทำ ระบุถึงการสร้างเครือข่ายในฝันที่ว่านี้ให้กลายเป็นจริงในเรื่องการสื่อสาร
มุมข้าราชการ,ซี.12,THE VISIONARY,หนังสือเล่มพิเศษ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1289352
[ 0, 259, 105415, 15770, 12066, 99412, 209298, 12005, 67995, 38860, 1549, 135647, 34538, 4728, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
เยอรมนีอนุญาตให้ ‘คู่รักเพศเดียวกัน’ แต่งงานได้
สภานิติบัญญัติของเยอรมนีมีมติให้การแต่งงานของคนเพศเดียวกันถูกกฎหมาย หลังจากสมาชิกสภานิติบัญญัติส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงสนับสนุนที่ 393 เสียง ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติ 226 คน ไม่เห็นด้วย และมีสมาชิก 4 คน งดออกเสียง โดยได้รับการสนับสนุนส่วนใหญ่จากพรรคฝ่ายซ้าย นับเป็นการลงคะแนนเสียง หลังจากนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล เปิดทางให้สภานิติบัญญัติสามารถลงคะแนนเสียงต่อประเด็นนี้เพียงแค่ 2 วันก่อนหน้านี้ Photo: Tobias SCHWARZ/AFP ตลอดช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ดำรงตำแหน่ง เธอมีจุดยืนต่อการสมรสของเพศเดียวกันที่หลากหลาย โดยในการหาเสียงเลือกตั้งปี 2013 เธอประกาศว่าเธอไม่เห็นด้วย แต่ต่อมาเธอกลับสร้างความแปลกใจให้กับชาวเยอรมัน ด้วยการบอกว่า พรรค CDU ของเธอสนับสนุนให้การสมรสของเพศเดียวกันถูกกฎหมาย ซึ่งเธอเปิดเผยว่า ประสบการณ์ชีวิตทำให้เธอเปลี่ยนไป หลังจากเธอได้ร่วมรับประทานอาหารกับคู่รักเลสเบี้ยน Photo: Tobias SCHWARZ/AFP กฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกัน ทั้งหญิงและชาย มีสิทธิเท่ากับคู่รักเพศตรงข้าม ซึ่งนอกเหนือจากการแต่งงานแล้ว คู่แต่งงานเพศเดียวกันจะยังได้สิทธิในการรับเลี้ยงดูบุตรด้วย กฎหมายอนุญาตการสมรสของคู่รักเพศเดียวจะถูกบังคับใช้ประมาณสิ้นปีนี้ และจะทำให้เยอรมนีเป็นอีกหนึ่งในอีกกว่า 20 ประเทศที่อนุญาตการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน ทั้งนอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก เบลเยียม สเปน โปรตุเกส ลักเซมเบิร์ก ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร (ไม่รวมไอร์แลนด์เหนือและ Jersey) ขณะที่ออสเตรียและอิตาลียังไม่อนุญาตการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน ผลสำรวจของ YouGov เปิดเผยว่า 2 ใน 3 ของชาวเยอรมันสนับสนุนการอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้
สภานิติบัญญัติเยอรมนีมีมติให้การแต่งงานของคนเพศเดียวกันถูกกฎหมาย โดยกฎหมายอนุญาตการสมรสของคู่รักเพศเดียวกันจะถูกบังคับใช้ประมาณสิ้นปีนี้ และจะทำให้เยอรมนีเป็นอีกหนึ่งในอีกกว่า 20 ประเทศที่อนุญาตการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน
https://thestandard.co/news-world-germany-lgbt-married/
[ 0, 259, 40626, 80267, 40626, 218407, 8084, 8378, 166155, 40626, 49922, 181831, 153739, 16379, 46865, 62883, 198152, 1, 0, 0 ]
ย้ายโยธา ระบายน้ำเข้า
เร่งตกแต่งภายใน กทม.2 ทาวเวอร์ให้เสร็จในเดือน มี.ค.,นายจิระเดช กรุณกฤตกุล ผอ.กองควบคุมการก่อสร้าง สำนักการโยธา กทม. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารทาวเวอร์ 1 ศาลาว่าการ กทม.2 (ดินแดง) ว่าได้เร่งรัดผู้รับจ้างให้ดำเนินงานตกแต่งภายในทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ เพื่อรองรับหน่วยงานภายในอาคาร กทม.2 (ดินแดง) ทั้ง 2 อาคาร ย้ายเข้ามาอยู่ชั่วคราวในเดือน เม.ย.2560 อาทิ สำนักการระบายน้ำ สำนักโยธา สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว เนื่องจากทั้ง 2 อาคารจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างขอบเขตของงาน (ทีโออาร์) เพื่อหาผู้รับจ้างตามระเบียบราชการ ภายใต้งบประมาณกว่า 580 ล้านบาท กำหนดปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน,นายจิระเดชกล่าวอีกว่า หลังจากการตกแต่งภายในแล้วเสร็จ จะมีการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคาร ซึ่งสามารถทำได้ระหว่างที่มีหน่วยงานย้ายเข้าไปอยู่ชั่วคราวแล้ว ส่วนอาคารหอประชุมสภา กทม. คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่การก่อสร้างและปรับปรุงถนนบริเวณรอบศาลาว่าการ กทม.2 มีความคืบหน้า ดังนี้ 1.ถนนวิภาวดีรังสิตเชื่อมถนนมิตรไมตรีคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ เม.ย.2560 2.ถนนมิตรไมตรี 2 จะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.พ.นี้ และบริเวณด้านหลังถนนมิตรไมตรี 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย.60.
นายจิระเดช กรุณกฤตกุล ผอ.กองควบคุมการก่อสร้าง สำนักการโยธา กทม. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารทาวเวอร์ 1 ศาลาว่าการ กทม.2 (ดินแดง) ว่าได้เร่งรัดผู้รับจ้างให้ดำเนินงานตกแต่งภายในทั้งหมดให้แล้วเสร็จ
จิระเดช กรุณกฤตกุล,โครงการก่อสร้างอาคารทาวเวอร์ 1,ศาลาว่าการ กทม.2,ตกแต่งภายใน,ระบายน้ำ
https://www.thairath.co.th/content/843948
[ 0, 259, 38860, 151530, 96470, 58987, 9074, 97014, 333, 259, 106726, 13094, 217729, 259, 224962, 3945, 260, 338, 259, 150285 ]
มองทั่วทิศเมืองไทย : มาหยา ฟื้นตัวหลังปิดอ่าว
ในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อ่าวมาหยา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา จ.กระบี่ ถือว่าโดดเด่นที่สุด ในแต่ละปีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเที่ยวจำนวนมาก,ด้วยเหตุนี้เองส่งผลให้ธรรมชาติของอ่าวมาหยาเสื่อมโทรมลงอย่าง เห็นได้ชัด ทางกรมอุทยานฯต้องประกาศปิดอ่าวมาหยาเป็นการชั่วคราวเพื่อการฟื้นฟู ผลที่ตามมาคือรายได้จากการท่องเที่ยวของกระบี่หดหายไปกว่าครึ่ง,เมื่อวันก่อน ,นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์, ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรม อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พาสื่อมวลชนนั่งเรือออกสำรวจสภาพ อ่าวมาหยา หลังอุทยานฯได้ประกาศปิดตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว,หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดให้บรรดาชาวไทยและต่างชาติได้ไปท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวความสุขต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายปี จนเกิดความเสื่อมโทรมแก่พื้นที่บนบกและในท้องทะเล ยากแก่การดูแลรักษา หากยังเปิดให้บริการตามปกติ,ปัจจุบันพบว่าสภาพโดยรวมที่ปรากฏชัดระหว่างให้เรือลอยลำที่ด้าน หน้าอ่าว จะเห็นเรือท่องเที่ยวจำนวนกว่า 30 ลำ นำกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีชาวไทยปะปนอยู่บ้างเล็กน้อยลงเล่นน้ำใส่หน้ากากดำน้ำชมใต้ท้องทะเลในพื้นที่ซึ่งกรมอุทยานฯได้กำหนดไว้ให้นอกแนวทุ่นกั้นเขต,ส่วนธรรมชาติบนอ่าวก็พบว่ามีพันธุ์ไม้นานาชนิดปกคลุมเขียวขจี ตั้งแต่ชายหาดไล่ขึ้นไปตามเนินเขาสูงหน้าอ่าว แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของธรรมชาติได้อย่างชัดเจน,ในท้องทะเลหน้าอ่าวยังพบฝูงปลาฉลามหูดำพากันว่ายเวียนหาอาหารเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไร้อันตรายจากการถูกใบพัดเรือดังเช่นก่อนปิดอ่าว ขณะที่ปะการังหลากหลายชนิดที่อยู่ใต้ทะเลหน้าอ่าวก็ได้รับโอกาสในการฟื้นตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน,นายดำรัส, สรุปว่าการปิดฟื้นฟูอ่าวมาหยาอาจก่อให้เกิดผลกระทบในแง่รายได้จากนักท่องเที่ยวซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีผลดีที่เราคำนึงถึงควบคู่ไปด้วย คือการดำรงรักษาทรัพยากรธรรมชาติอันเปี่ยมด้วยคุณค่ามหาศาลให้เป็นสมบัติที่น่าชื่นชมของชาวไทยอย่างยั่งยืนนั่นเอง.,ทีมข่าวภูมิภาค/รายงาน
นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรม อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พาสื่อมวลชนนั่งเรือออกสำรวจสภาพ อ่าวมาหยา หลังอุทยานฯได้ประกาศปิดตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
มองทั่วทิศเมืองไทย,ทีมข่าวภูมิภาค,อ่าวมาหยา,อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา,กระบี่
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1720358
[ 0, 259, 69674, 7960, 192493, 138658, 259, 88332, 73008, 259, 124556, 148958, 259, 27605, 36999, 103015, 4728, 123128, 72364, 11922 ]
โจรใต้ดักบึม ทหารเจ็บ3
ระเบิดถังดับเพลิง นํ้าหนักถึง25กิโล,โจรใต้ดักบึมทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส บรรจุระเบิดแสวงเครื่องใส่ถังดับเพลิงหนัก 25 กก. วางซุกกำแพงริมถนนในหมู่บ้าน ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดตูมสนั่นขณะกำลังทหาร 8 นาย ขี่รถ จยย.ผ่าน ร.ต.หัวหน้าชุดกับลูกน้องถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ส่วนที่เหลือปลอดภัย ด้านรอง ผวจ.ปัตตานี เป็นประธานมอบเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 838 ราย รวมเป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท,สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นรายวัน โดยเมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 10 ธ.ค. ร.ต.ท.มารุต นิลโกสีย์ พงส.สภ. รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย บริเวณริมถนนในหมู่บ้านดาละ หมู่ 6 ต.เรียง อ.รือเสาะ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ สนธิกำลังตำรวจทหาร พร้อมประสาน ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบซากรั้วกำแพงปูนที่กำลังก่อสร้างอยู่ริมถนน ถูกระเบิดพังเสียหาย โดยมีเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบไว้ในถังดับเพลิงหนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อน ห่างไปประมาณ 50 เมตรพบรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ทหารล้มตะแคงอยู่ 2 คัน และมีกองเลือดอยู่จำนวนหนึ่ง,ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เป็นทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัด ร้อย ร.15132 ฉก.นราธิวาส 30 ถูกนำตัวส่ง รพ.รือเสาะ ไปก่อนหน้า ทราบชื่อ ร.ต.อุดร ชนะเสน อายุ 40 ปี ผบ.หมวด ร้อย ร.15132 ส.ท.นิอาเรฟ นิหลง อายุ 27 ปี และพลทหารอาดาลี บิลังโหลด อายุ 22 ปี ทั้งหมดถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวและใบหน้า ถูกส่งไปรักษาต่อที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.อุดร หัวหน้าชุดนำกำลัง 8 นายขี่รถ จยย. 4 คัน ออกลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่าทึบริมทางใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ที่รั้วกำแพงริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คาดเป็นฝีมือแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่หมายดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อสร้างสถานการณ์รายวัน,ที่ห้องประชุม อบจ.ปัตตานี นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รอง ผวจ.ปัตตานี เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.ปัตตานี จำนวน 838 ราย ประกอบด้วย ผู้ได้รับผลกระทบจากทรัพย์สินและอาคารบ้านเรือนเสียหาย 776 ราย ผู้พิการและทุพพลภาพ 44 ราย และผู้เสียชีวิต 18 ราย รวมเป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท โดยนายเถกิงศักดิ์กล่าวว่า ขวัญและกำลังใจคือสิ่งสำคัญที่ประชาชนในพื้นที่ต้องการ เมื่อต้องประสบกับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ภาครัฐจึงต้องเข้ามาช่วยเหลือทันที ฉะนั้นประชาชนทุกภูมิภาคควรส่งกำลังใจให้กับคนพื้นที่ชายแดนใต้เพื่อให้ดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข สันติสุข โดยภาครัฐจะดูแลทั้งด้านคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และการศึกษา เพื่อให้ คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีภูมิคุ้มกันที่จะอยู่ ร่วมกันและปกป้องพื้นที่จากสถานการณ์ความไม่สงบ,นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ได้รับผลกระทบและทายาทที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ขอบคุณรัฐบาล จังหวัด และ ศอ.บต.ที่ได้สานต่อดูแลความช่วยเหลือเยียวยาอย่างต่อเนื่อง ตนมองเห็นถึงความตั้งใจอันบริสุทธิ์ อยากให้บริหารเงินให้ถูกต้องและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน ด้านนางอาภรณ์ จันทรสะโร อายุ 49 ปี ประธานกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ อ.แม่ลาน กล่าวด้วยความรู้สึกดีใจที่รัฐบาล จังหวัด และ ศอ.บต.ไม่ทอดทิ้งและดูแลห่วงใยมาตลอด เงินส่วนนี้จะแบ่งให้ทายาทและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ที่สุด ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆกับครอบครัวของใครอีก
โจรใต้ดักบึมทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส บรรจุระเบิดแสวงเครื่องใส่ถังดับเพลิงหนัก 25 กก. วางซุกกำแพงริมถนนในหมู่บ้าน
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,โจรใต้,ทหารเจ็บ,รือเสาะ,นราธิวาส,ระเบิด,มารุต นิลโกสีย์,ถังดับเพลิง
https://www.thairath.co.th/news/local/468436
[ 0, 259, 120195, 135570, 32896, 100233, 111243, 259, 27605, 205967, 197963, 49612, 24353, 36801, 157184, 150852, 227124, 88618, 877, 259 ]
คนงานบุกทำเนียบฯ หวังขอนายกฯ ช่วยแก้ปัญหา-สุดท้ายไม่พบ
(15 ก.ย.) คนงานกว่า 400 คน ซึ่งเป็นสมาชิกเครือข่ายแรงงานของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย พร้อมด้วยนิสิตนักศึกษาจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) นัดรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่เวลา 10.00 น. และพากันเดินเท้ามาที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อนายกฯ ให้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์เศรษฐกิจ การเลิกจ้าง และสิทธิแรงงาน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งให้ยุติมาตรการจับกุมผู้นำแรงงานที่ถูกออกหมายจับ เพิกถอนหมายจับ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการสลายการชุมนุมของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งใช้เครื่องขยายเสียงระยะไกล (LRAD) จากกรณีการชุมนุมของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ สหภาพแรงงานอิเล็กทรอนิกส์และแม็คคานิคส์ ในเครือบริษัทเอนี่ออนฯ และคนงานบริษัทเวิลด์เวลล์การ์เม้นท์ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงให้แก้ปัญหาแรงงานแต่ละกรณีปัญหาอย่างเร่งด่วน (อ่านฉบับเต็ม)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวได้ปิดถนนหน้าทำเนียบรัฐบาล 3 เลน โดย สวี สุดารัตน์ อนุกรรมการสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย กล่าวขอโทษผู้ใช้รถใช้ถนนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม พร้อมทั้งชี้แจงว่า กรรมกรไม่มีสื่อเป็นของตัวเอง และไม่มีเงินมากพอ การรวมตัวกันของคนงานจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเรียกร้องต่อรัฐบาลให้แก้ปัญหาต่างๆ ของคนงานทั้งการถูกเลิกจ้าง การถูกดำเนินคดี และถูกทำลายสหภาพแรงงาน การออกมาเดินขบวนไม่ใช่เรื่องสนุก ถ้าไม่มีปัญหาคงไม่มา พร้อมบอกว่า แรงงานมีปัญหาคนเดียว แต่ผลกระทบเกิดกับทั้งครอบครัว อย่างไรก็ตาม ไม่มีตัวแทนจากรัฐบาลออกมารับหนังสือ จนเวลาประมาณ 13.00 น. คนงานตัดสินใจย้ายขบวนมากดดันที่ประตู 3 เยื้องสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ผู้ชุมนุมบางส่วนได้เข้าไปเขย่าประตูรั้วทำเนียบฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมารับข้อเรียกร้อง ขณะที่ตำรวจปราบจราจลเริ่มเดินออกมาตั้งแถว ส่วนคนงานก็เริ่มส่งเสียงโห่เป็นระยะ เมื่อเห็นขบวนทหารกว่า 30 นายเดินมาตั้งแถวในรั้วทำเนียบรัฐบาล วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวผ่านโทรโข่งที่ข้างรั้วทำเนียบฯ ประตู 3 ว่า คนงานมาชุมนุมกันเพื่อขอยื่นหนังสือกับนายกฯ โดยได้ประสานงานมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และทราบว่า ตอนนี้นายกฯ อยู่ในทำเนียบฯ จึงอยากให้ช่วยประสานงานให้คนที่มีอำนาจออกมาคุยกับคนงาน เพราะที่ผ่านมาไปกระทรวงแรงงานมาแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้า และตอนนี้คนงานเดือดร้อนอย่างหนัก ต่อมา รั้วทำเนียบที่คนงานเขย่าได้หลุดและเปิดออก ขณะที่คนงานไม่มีทีท่าจะบุกเข้าไปอย่างไรก็ตาม ตำรวจปราบจราจลได้ขยับเข้ามาจนติดรั้วทำเนียบ และมีประกาศจากทางตำรวจชี้แจงว่า คนงานสามารถชุมนุมได้ตามกรอบของกฎหมาย แต่แกนนำต้องควบคุมอย่าให้ผู้ชุมนุมทำลายทรัพย์สินราชการ พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ได้ถ่ายรูปเอาไว้หมดแล้ว ทำให้คนงานส่วนหนึ่งไม่พอใจ เวลาประมาณ 14.00 น. รถกระบะในทำเนียบฯ ซึ่งบรรทุกเครื่องขยายเสียงระดับไกล (LRAD: Long Range Acoustic Device) 1 เครื่อง ถูกขับออกมาจอดด้านในรั้วทำเนียบ โดยหันเครื่อง LRAD มาทางผู้ชุมนุม คนงานตะโกน อีแรดมาแล้วๆ และต่างหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาอุดหูเตรียมพร้อม อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการใช้เครื่องดังกล่าว จนเมื่อเวลา 14.25 น. จึงมีการติดต่อว่าให้คนงานส่งตัวแทนเข้าไปในทำเนียบฯ วิไลวรรณ พร้อมด้วยตัวแทนแรงงานแต่ละกรณีปัญหาได้เข้าพบปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอปัญหาและข้อเรียกร้อง โดยนายปณิธาน ระบุว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมรับฟังปัญหาด้วยตัวเอง เพียงแต่รอช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งอาจหลังจากเดินทางกลับจากการประชุมสหประชาชาติทั้งนี้ การชุมนุมได้ยุติในเวลาประมาณ 16.00น. หลังจากตัวแทนได้กลับออกมาและชี้แจงการเข้าพบรองเลขาฯ นายกฯ ต่อผู้ชุมนุม
(15 ก.ย.) คนงานกว่า 400 คน ซึ่งเป็นสมาชิกเครือข่ายแรงงานของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย พร้อมด้วยนิสิตนักศึกษาจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) นัดรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
สิทธิมนุษยชน,แรงงาน
LRAD,คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย,มิชลิน,วิไลวรรณ แซ่เตีย,สหภาพแรงงานอิเล็กทรอนิกส์และแม็คคานิคส์ ในเครือบริษัทเอนี่ออน อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด,สหภาพแรงงานแคนาดอล,สหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย,โตโยต้า
https://prachatai.com/journal/2009/09/25836
[ 0, 259, 137738, 116131, 4552, 212671, 56921, 65290, 181851, 11984, 259, 126493, 106885, 5095, 6582, 259, 181851, 36999, 71810, 2752 ]
ลงพื้นที่ตรวจสอบสร้างถนน-พลังงานขยะ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโส สำนักตรวจสอบจริยธรรมและกิจการพิเศษ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามกรณีชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบการก่อสร้างถนนคอนกรีตที่ทาง อบจ.พิษณุโลก สร้างเข้าไปกลางทุ่งนาบ้านหมู่ 7 ต.บ้านป่า และคัดค้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ พื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านป่า อ.เมือง พิษณุโลก โดยมีนายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล ปลัดจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในที่ประชุมชี้แจง พร้อมด้วยนายอนันต์ พรหมดนตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด พิษณุโลก นายสมหวัง ปารสุขสาร ผู้อำนวยโครงการส่งน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน นางสุพรทิพย์ พันธุ์เพชร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านป่า ตัวแทนจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และตัวแทนสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนชาวบ้าน ต.ดอนทอง และ ต.บ้านป่า อ.เมือง พิษณุโลก เข้าร่วมประชุมที่ อบต.บ้านป่า,หลังเสร็จสิ้นการประชุม ร.ต.ต.พงศกรเปิดเผยว่า ตามที่ชาวบ้าน ต.บ้านป่า และ ต.ดอนทอง ได้ยื่น หนังสือร้องเรียนกับตนที่ อบต.สมอแข เมื่อวันที่ 2 ก.ย.58 คัดค้านการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ บนพื้นที่ 64 ไร่ ซึ่งอยู่ด้านหลังวัดบ้านป่าประมาณ 2 กิโลเมตร และให้ตรวจสอบการก่อสร้างถนนคอนกรีต ของ อบจ.พิษณุโลก ที่สร้างทับคลองซอยของชลประทาน เข้าไปในกลางทุ่งนาอย่างผิดปกติวิสัยนั้น วันนี้จึงได้ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และตอบข้อสงสัย ให้กับตัวแทนชาวบ้านที่ร้องเรียน เนื่องจากชาวบ้านยัง สงสัยการขัดแย้งของข้อกฎหมายในหลายจุด โดยเฉพาะ พื้นที่จำนวน 64 ไร่ ที่จะก่อสร้างโรงงานเป็นพื้นที่ สีเขียว ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม ไม่เหมาะในการก่อสร้างโรงงานฯ,และที่สำคัญในที่ประชุมวันนี้ ได้รับการยืนยัน จากผู้อำนวยโครงการส่งน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ว่า พื้นที่ที่จะทำการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ อยู่ในเขตพื้นที่ชลประทานของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จริง หากสร้างโรงงานดังกล่าวก็จะมีผลกระทบต่อคลองน้ำสาขาจากเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ที่ล้อมรอบอยู่ถึง 3 ด้านอย่างแน่นอน ร.ต.ต.พงศกรกล่าว ต่อว่า ตนในฐานะตัวแทนจากสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มาฟังคำชี้แจงของชาวบ้าน และหน่วยงานราชการ ต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด เบื้องต้นทราบว่าจะมีการจัดประชุมชี้แจงทั้งหน่วยงานราชการ บริษัท อีโค เวสท์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วย ชาวบ้านผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปว่าจะเดินหน้าก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะในพื้นที่ หรือต้องยุติการก่อสร้างต่อไป.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโส สำนักตรวจสอบจริยธรรมและกิจการพิเศษ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามกรณีชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียน
ข่าว,ทั่วไทย
ก่อสร้างถนนคอนกรีต,โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ,พิษณุโลก,คัดค้าน,ก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ,พงศกร มีพันธุ์,ชาวบ้าน,ร้องเรียน,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/news/local/530785
[ 0, 259, 188810, 70851, 3755, 67395, 157418, 20390, 60612, 34989, 259, 129968, 101103, 174811, 151857, 63709, 135174, 35436, 1, 0 ]